กรมทางหลวงชนบท ขยายเส้นทางเลียบแม่น้ำโขง “นาคาวิถี” ระยะทาง 750 กิโลเมตร จากเลย-อุบลราชธานี หวังช่วยยกระดับแหล่งท่องเที่ยว-ส่งเสริมเศรษฐกิจ คาดเสร็จปี’65
วันที่ 2 พ.ย.2563 นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กรมได้บูรณาการร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่จะเพิ่มศักยภาพของโครงข่ายสายทางเพื่อพัฒนาให้เป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route) รวมทั้งยกระดับถนนให้มีความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางต่อเติมโครงข่ายการคมนาคมขนส่งให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
โดยเป็นการปรับปรุงบริเวณพื้นที่ถนนเดิมด้วยการบูรณาการด้านทัศนียภาพ สนับสนุนให้เกิดการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่อันจะนำไปสู่การสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน
ซึ่งการดำเนินงานอยู่ภายใต้กรอบของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580) เป็นเป้าหมายของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของกรมทางหลวงชนบท
“เส้นทางถนนเลียบแม่น้ำโขง “นาคาวิถี” เป็นเส้นทางเพื่อสนับสนุนเขตพัฒนาการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขง จากจังหวัดเลยถึงจังหวัดอุบลราชธานี ระยะทางรวมประมาณ 750 กม. “
ปัจจุบันได้ดำเนินการสำรวจออกแบบระยะที่ 1 จากจังหวัดมุกดาหารถึงจังหวัดนครพนม เริ่มจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร – สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร – สะหวันนะเขต) – หาดมโนภิรมย์ – วัดสองคอน – แก่งกะเบา – พระธาตุพนมระยะทางประมาณ 42 กม.
ตลอดเส้นทางจะได้พบกับ ความงดงามของทัศนียภาพของแม่น้ำโขง หาดทรายน้ำจืด และเกาะแก่งต่างๆ รวมทั้งความสวยงามของศาสนสถานของศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์ ตลอดจนวิถีชีวิตของคนในชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่น่าค้นหา ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำของผู้เดินทางอย่างแน่นอน และจะดำเนินการสำรวจออกแบบส่วนที่เหลือในระยะถัดไป ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2565
ทั้งนี้กรมฯมีแผนที่จะจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นการมีส่วนร่วมของประชาชน ในช่วงเดือนพ.ย.2563 เพื่อจะได้เกิดการบูรณาการทางความคิดและใช้เป็นหลักในการออกแบบรายละเอียดต่อไป