รู้หรือไม่ ทำไมรักสิบล้อ ต้องรอสิบโมง เกี่ยวอะไรกับฝุ่น PM 2.5

 “รักสิบล้อต้องรอสิบโมง แม่คิ้วโก่งขวัญใจสิบล้อ รักจริงต้องอดใจรอ รักสิบล้อต้องรอสิบโมง”

ท่องทำนองของเพลง ”รับสิบล้อรอสิบโมง” ที่น่าจะเข้ากับบรรยากาศ ”กรุงเทพมหานคร” ในขณะนี้

พลันที่เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ และมาพร้อมกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่เริ่มมีปริมาณและขยายวงกว้างมากขึ้น หลังสภาพอากาศปิดในช่วงที่ผ่านมา

ล่าสุด ”กทม.” กำลังจะประชุมคณะคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่ กทม. ในวันที่ 17 พ.ย.นี้ มี ”พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” ผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธาน

ในวันนั้นจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมอุตุนิยมวิทยา กรมการขนส่งทางบก กรมธุรกิจพลังงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจจราจร

เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ กทม. และปริมณพล เพื่อนำไปสู่การปฎิบัติจะเริ่มต้นระหว่างวันที่ 1 ธ.ค. 2563 – ก.พ. 2564

“วิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์” รักษาการผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. เปิดเผย ”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เตรียมมาตรการรับมือสถานการณ์ฝุ่น จะเสนอที่ประชุมพิจารณา แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1.ค่าฝุ่นไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เช่น ห้ามรถยนต์บรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปวิ่งเข้าพื้นที่ กทม. ช่วงเวลา 06.00 – 21.00 น. ให้วิ่งได้เฉพาะถนนกาญจนาภิเษกตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 – วันที่ 28 ก.พ. 2564 รอการพิจารณาจากกองบังคับการตำรวจจราจร เนื่องจากจะต้องออกคำสั่งประกาศบังคับใหม่

“ปัจจุบันตำรวจให้รถบรรทุก 6-10 ล้อ วิ่งเข้าได้ในช่วงเร่งด่วนเช้าและเย็น คือ เวลา 06.00 – 09.00 น. และเวลา 16.00 – 20.00 น. เขาถึงมีคำพูดหรือเพลงที่ว่า รักสิบล้อ ต้องรอสิบโมง“

สาเหตุที่ กทม.เสนอขอคุมรถบรรทุกวิ่งเข้าเมือง เนื่องจากต้องการแก้ปัญหาฝุ่นอย่างจริงจัง ซึ่งทางตำรวจมองว่าการปล่อยควันรถเป็นต้นเหตุของปัญหา ขณะเดียวกันเป็นการแก้ปัญหารถติดไปในตัวด้วย ทั้งนี้อยู่ที่ตำรวจจราจรจะออกประกาศคุมทั้งพื้นที่หรือแยกเป็นรายถนน ต้องผลสรุปวันที่ 18 พ.ย.นี้ ที่ทางตำรวจจะมีประชุม เนื่องจากมีสภาอุตสาหรรมไม่เห็นด้วย

นอกจากนี้จะมีการกำกับดูแลไซต์ก่อสร้าง เช่น ให้ล้างพื้นที่ ล้อรถบรรทุก ฉีดพ่นละอองน้ำ, บริการตรวจวัดควันดำฟรีในโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม. ตรวจถี่ขึ้นและเพิ่มจุดตรวจ, กวดขันการเผาที่โล่ง, งดกิจกรรมกลางแจ้งในโรงเรียนเฉพาะเด็กเล็ก

ติดเครื่องตรวจวัดฝุ่นใน 20 สวนสาธารณะที่มีคนใช้บริการจำนวนมาก เช่น ลุมพินี สวนรถไฟ สวนหลวง ร.9 ปัจจุบัน กทม.ได้ติดตั้งสถานีตรวจวัดค่าฝุ่นละอองครบทั้ง 50 เขตแล้ว

2.ค่าฝุ่นระดับ 51-75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เช่น ปิดการเรียนโรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 437 แห่ง ไม่เกิน 3 วัน/ครั้ง, เข้มงวดการทำผิดการเผาใน กทม. และปริมณฑล, ห้ามจอดรถริมถนนสายหลักสายรอง, ให้รถเก็บขนมูลฝอยให้เสร็จก่อนตี 4, ออกหน่วยบริหารสาธารณสุขเคลื่อนที่

และ 3.ค่าฝุ่นระดับ 76-100 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เช่น หยุดการก่อสร้างอาคารและรถไฟฟ้า 5-7 วัน, ปิดการเรียนไม่เกิน 15 วัน/ครั้ง, ให้บุคลากรของ กทม.เหลือเวลาทำงานและงดใช้รถยนต์ส่วนตัว เป็นต้น