เดอะ ฟอเรสเทียส์ ทุ่มทุนเนรมิต “ฟอเรสต์ พาวิลเลียน” ศูนย์การเรียนรู้แนวใหม่

นับถอยหลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปีในไตรมาส 4/63 ได้เวลาอัพเดตการลงทุนขนาดยักษ์ของภาคเอกชน

หนึ่งในไฮไลต์ของเมืองไทย และต้องยอมรับว่าเป็นไฮไลต์เพียงหนึ่งเดียวบนถนนสายบางนา-ตราด เจ้าของสถิติการลงทุนเป็นของโครงการ “เดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC” ริมถนนบางนา-ตราด กม.7

ภายใต้สถานการณ์โควิดเป็นได้ทั้งวิกฤตและโอกาสทางธุรกิจ จุดโฟกัสอยู่ที่ MQDC โดย “บี-ทิพพาภรณ์ เจียรวนนท์ อริยวรารมย์” ซีอีโอไฟเขียวเดินหน้าการลงทุนอย่างไม่หยุดยั้งสำหรับโครงการมูลค่า 1.25 แสนล้านบาท บนที่ดินรวมเกือบ 400 ไร่
เหตุผลหลักเพื่อต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจไทยว่ายังมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง ส่วนเหตุผลรองน่าจะเป็นเรื่องลงทุนในช่วงไครซิส ทำให้ได้ต้นทุนที่ดีในการพัฒนาโครงการ ทุกอย่างลงตัวแบบ “วินวิน” เกม

ยอดขายทะลัก 4,000 ล้าน

“ปัจจุบันการก่อสร้างโครงการมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ แม้ว่าทั่วโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบทั้งในเรื่องสาธารณสุขและเศรษฐกิจก็ตาม เป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่ภาคเอกชนมีต่อเศรษฐกิจและอนาคตของประเทศไทย” คำกล่าวของ “กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์” ผู้อำนวยการโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC

อัพเดตล่าสุด ไซต์ก่อสร้างงานสาธารณูปโภคและอุโมงค์คืบหน้าไปแล้วถึง 95% และกำลังดำเนินการก่อสร้างโครงการพักอาศัยต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามแผนธุรกิจที่วางไว้

ขณะเดียวกัน ในด้านยอดขายโครงการพักอาศัยระดับไฮเอนด์และระดับลักเซอรี่ภายในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC พบว่ามียอดจองที่วางเงินมัดจำเรียบร้อยแล้ว รวมมูลค่าขายกว่า 4,000 ล้านบาท แม้ว่าทั่วโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม

“การตัดสินใจลงทุนของ MQDC ในการออกแบบและพัฒนาโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ผู้บริหารสูงสุดมีวิสัยทัศน์สร้างโครงการเมืองแห่งแรกในโลกที่ทุกมิติถูกออกแบบโดยเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์หลักอย่างเดียว คือ ส่งเสริมให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดียิ่งขึ้น เป็นบทพิสูจน์สะท้อนให้เห็นเทรนด์ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกคนมีความเข้าใจและเห็นความสำคัญในเรื่องของการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี”

“เมือง” ที่ออกแบบทุกมิติ

สำหรับรายละเอียดโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC ตั้งอยู่บนที่ดินผืนใหญ่มหึมาขนาด 398 ไร่ บนทำเลแห่งอนาคตของกรุงเทพฯ โซนตะวันออกริมถนนบางนา-ตราด กม.7 ประกอบด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม ที่มุ่งตอบสนองความหลากหลายของไลฟ์สไตล์และขนาดของครอบครัวที่แตกต่างกัน

นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ กิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงพื้นที่ family center สำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์ของครอบครัว และพื้นที่ town center สำหรับกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ โรงละคร อีเวนต์ฮอล ตลาด

และหนึ่งในดีไซน์ที่ออกแบบมาให้เป็นจุดเช็กอินของโครงการ คือ ทางเดินยกระดับความยาวกว่า 1.6 กิโลเมตร แนวคิดการออกแบบต้องการสร้าง journey ทางเดินที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงและดื่มด่ำไปกับองค์ประกอบหลาย ๆ ส่วนในโครงการ และในอนาคตเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นทางเดินเท้าท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยทอดตัวอยู่เหนือผืนป่าซึ่งอยู่บริเวณใจกลางโครงการ

“เดอะ ฟอเรสเทียส์ ถือเป็นโครงการต้นแบบแห่งใหม่ของโลกในการพัฒนาเมืองที่ได้รับการออกแบบรังสรรค์และก่อสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้รับการยอมรับและยกย่องมากที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก รวมทั้งสถาบันต่าง ๆ ที่เป็นสถาบันชั้นนำระดับโลก และสถาบันชั้นนำของประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกองค์ประกอบของโครงการจะส่งเสริมการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้นและมีความสุขมากขึ้น”

ทุ่มสร้างฟอเรสต์ พาวิลเลียน

เรื่องใหม่ทิ้งทวนปี 2563 ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ ก็คือ ทาง MQDC ได้ทุ่มเงินลงทุนจำนวนมหาศาลมากกว่า 1,400 ล้านบาทก่อสร้าง “ฟอเรสต์ พาวิลเลียน” อาคารศูนย์การเรียนรู้สุดอลังการเพื่อจัดแสดงวิสัยทัศน์และแนวคิดของ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ผ่านการถ่ายทอดแบบ immersive experience จากผู้ออกแบบ experience ระดับโลก

โดยขณะนี้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตามแผนตั้งเป้าเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 เมื่อถึงตอนนั้นคาดว่าจะกลายเป็น talk of the town ได้ไม่ยากเย็นนัก

รายละเอียด “ฟอเรสต์ พาวิลเลียน” มีพื้นที่ใช้งานขนาดใหญ่ 6,500 ตารางเมตร ทีมงานเบื้องหลังเกิดจากการผนึกกำลังความร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นที่สุดของโลกในด้านต่าง ๆ อาทิ Foster+Partners Thailand บริษัทสถาปนิกระดับโลกมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ เป็นผู้ออกแบบอาคารฟอเรสต์ พาวิลเลียน

ยังมี ITEC Entertainment จากประเทศสหรัฐอเมริกาผู้ออกแบบ entertainment experience ให้กับดิสนีย์แลนด์, ดิสนีย์ซี และยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เป็นผู้ออกแบบสร้างสรรค์ประสบการณ์และสันทนาการที่จะเกิดขึ้นภายในโครงการ, VAVE Studio จากประเทศเยอรมนีเป็นผู้ออกแบบ exhibition experience and story creator แต่ละห้อง และ BUG Studio บริษัทชื่อดังของไทย เป็นผู้ออกแบบ multidisciplinary design เพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน

ห้องลี้ลับ Chamber of Secret

ไฮไลต์ภายในฟอเรสต์ พาวิลเลียนที่ห้ามพลาด คือ ห้องจัดแสดงที่มีชื่อว่า “Chamber of Secret” นำเสนอวิสัยทัศน์ของโครงการผ่านภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นที่สร้างสรรค์โดยบริษัท DEC Media แสดงบนจอ The Wall ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดของโลกในปัจจุบัน โดย The Wall เป็นหน้าจอแบบไมโครแอลอีดี (micro LED) ที่สามารถถ่ายทอดที่สุดแห่งประสบการณ์ล้ำสมัยของการรับชมภาพด้วยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาช่วยเพิ่มความคมชัดเพื่อมอบประสบการณ์แบบเหนือจริงให้แก่ผู้ชม

“เราได้ทุ่มเงินลงทุนจำนวนมหาศาลกว่า 1,400 ล้านบาทสร้างฟอเรสต์ พาวิลเลียน เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเยี่ยมชมและสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ด้วยตนเอง นับเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยที่ผู้พัฒนาโครงการได้ทุ่มงบประมาณสร้างอาคารจัดแสดงห้องตัวอย่างของโครงการที่พักอาศัยต่าง ๆ ตลอดจนทำให้ผู้มาเยี่ยมชมได้เรียนรู้ เข้าใจวิสัยทัศน์ และสัมผัสประสบการณ์ทั้งหมดของโครงการในฐานะโครงการเมืองที่ออกแบบทุกมิติเพื่อการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้น”

มหัศจรรย์ผืนป่า 30 ไร่

จุดขายที่ประกาศตัวแต่แรกของเดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC คือการลงทุนปลูกป่าธรรมชาติบนแลนด์แบงก์ 30 ไร่ ประโยชน์ใช้สอยนอกจากสำหรับผู้อยู่อาศัยและผู้มาใช้ชีวิตอยู่ในโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์แล้ว ยังมอบให้เป็นปอดของเมืองในโซนบางนา-ตราดอีกด้วย

ป่าขนาดใหญ่ 30 ไร่ดังกล่าว มีสตรอว์เบอรี่เริ่มปลูกมาตั้งแต่เป็นเมล็ดและต้นกล้า ครอบคลุมพื้นที่ใจกลางของโครงการ เป็นการนำธรรมชาติกลับคืนสู่ชุมชนและพื้นที่เมืองด้วยความเชื่อที่ว่า การได้อยู่ใกล้ชิดกับความมหัศจรรย์อันหลากหลายของธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งมอบการมีสุขภาพดีและความสุขให้กับผู้คน

“ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่ผืนป่าขนาดใหญ่เช่นนี้ถูกนำมาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเมือง” นายกิตติพันธุ์กล่าว

ทำเลพักอาศัยปลั๊ก-อินสู่ EEC

“ปัจจัยสำคัญที่สุดปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้นและมีความสุขมากขึ้น คือ การได้อยู่ใกล้ชิดกันกับสมาชิกในครอบครัวทุกเจเนอเรชั่นและคนที่รัก ดังนั้น หนึ่งในนวัตกรรมการออกแบบที่สำคัญที่สุด คือ วิธีการออกแบบและวางผังองค์ประกอบพื้นที่ที่อยู่อาศัยทั้งหมด และองค์ประกอบต่าง ๆ โดยรอบโครงการให้สามารถตอบสนองความต้องการของคนแต่ละช่วงวัยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นวัยเริ่มต้นทำงาน คู่สมรสใหม่ วัยสร้างครอบครัว หรือพ่อแม่สูงวัย ให้แต่ละช่วงวัยสามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างมีอิสระและมีพื้นที่ส่วนตัว ขณะเดียวกัน พื้นที่ต่าง ๆ ของคนทุกช่วงวัยจะสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างกลมกลืนและปลอดภัย เป็นการเอื้ออำนวยให้สมาชิกในครอบครัวจากหลากหลายเจเนอเรชั่นได้มาอยู่ใกล้ชิดกันได้เป็นอย่างดี”

จากปัจจัยที่คำนึงถึงสถาบันครอบครัวดังกล่าว “เดอะ ฟอเรสเทียส์” จึงประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ อาทิ คอนโดมิเนียมแบรนด์ “วิสซ์ดอม” กับ “มัลเบอร์รี โกรฟ” ที่อยู่อาศัยแนวราบแบรนด์ “มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า”, แบรนด์ “ดิ แอสเพน ทรี” โดยมีหนึ่งในสุดยอดท็อปแบรนด์ระดับโลกทั้งที่อยู่อาศัยแบรนด์ “ซิกส์เซ้นส์” และโรงแรมแบรนด์ “ซิกส์เซ้นส์” ซึ่งพัฒนาโครงการภายใต้โมเดลธุรกิจเป็น branded residences รองรับการเจาะตลาดกำลังซื้อระดับลักเซอรี่ในเมืองไทยและจากทั่วโลก

อีกหนึ่งองค์ประกอบในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งไม่เคยมีในโครงการอสังหาฯแห่งไหนในประเทศไทยทำมาก่อนก็คือ พื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยซึ่งถูกออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งกว่าที่เคย รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะทางสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน คลับเฮาส์ และผู้ดูแลที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดีที่เรียกว่า พนักงาน “care giver”

นอกจากนี้ ยังมีศูนย์การแพทย์และสุขภาพขนาดใหญ่ที่ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือทันสมัยที่สุด มีการบริหารจัดการโดยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง

แน่นอนว่าที่ตั้งโครงการอยู่ริมถนนบางนา-ตราด กม.7 ทำเลประชิดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ทำให้เดอะ ฟอเรสเทียส์ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยหลอมรวมอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC-Eastern Economic Corridor ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นระเบียงเศรษฐกิจที่เติบโตรวดเร็วที่สุดของประเทศไทย