เลื่อนยาวฟื้นฟู ขสมก. แสนล้าน “คลัง-สภาพัฒน์” ไม่มั่นใจพลิกกำไรได้ใน 7 ปี

“ศักดิ์สยาม” งง “คลัง-สภาพัฒน์”ยังไม่ส่งความเห็นประกอบแผนฟื้นฟู ขสมก. ปลดหนี้ 1.2 แสนล้าน เข้าครม. หลังไม่เชื่อมั่นโมเดลพลิกฟื้นรายได้ใน 7 ปี ห่วงยิ่งช้า ยิ่งขาดทุนหนัก

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ความคืบหน้าของการเสนอแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อลดภาระหนี้กว่า 1.29 แสนล้านบาท ได้สอบถามความคืบหน้าไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว ซึ่งได้รับรายงานตอบกลับว่า ยังอยู่ระหว่างรอกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

ส่วนตัวก็ไม่ทราบว่าทำไมทั้ง 2 หน่วยงานถึงยังไม่ส่งความคิดเห็นกลับมาเสียที ซึ่งได้เคยเดินทางไปคุยกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วยตัวเองมาแล้ว ท่าทีของท่านอาคมก็ดูเข้าใจดีและโอเค อย่างไรก็ตาม ตนจะพยายามผลักดันเรื่องนี้ให้สำเร็จให้ได้ เพราะทุกวินาทีที่ยังไม่เสนอเรื่องนี้ ขสมก.ก็จะติดลบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆ

“ทุก 1 นาที ขสมก.มีผลประกอบการติดลบไปเรื่อยๆ แล้วคำว่าติดลบไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่แน่ใจว่าขสมก.จะแบกรับไปได้อีกนานแค่ไหน ไหนจะสภาพรถเมล์ของขสมก.อีก ที่มีอายุใช้งานมากกว่า 20-30 ปีจะให้บริการไปได้อีกนานแค่ไหน ผมก็พยายามอธิบายแล้ว เพราะสิ่งที่เร่งด่วนตอนนี้คือการแก้ปัญหาภาวะขาดทุนให้เลือดหยุดไหลก่อน ผมเข้าใจว่าหลายหน่วยงานเป็นห่วงโมเดลการหารายได้ เพื่อจะให้ EBITDA เป็นบวกใน 7 ปีจะทำได้จริงหรือไม่ แต่ว่าถ้าไม่ทำอะไรเลย ขสมก.ก็จะมีสภาพเหมือนบมจ.การบินไทยไปในที่สุด เรื่องนี้ ถือว่าผมทำเต็มที่แล้ว และหากมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นก็ให้ไปเอาเรื่องกับคนที่ค้านแล้วกัน” นายศักดิ์สยามกล่าว

สำหรับ แผนฟื้นฟูขสมก. รายละเอียดของแผนฟื้นฟูที่จะต้องเสนอให้ ครม.เห็นชอบ จะเกี่ยวเนื่องกับ ขสมก. และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะกำกับเส้นทางรถเมล์รวม 7 ประเด็น ดังนี้

1. แนวทางการปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง โดยมีโครงข่ายหลัก จำนวน 162 เส้นทาง และให้ ขสมก.บริหารจัดการเดินรถตามแผนฟื้นฟูฉบับปรับปรุงใหม่ ทั้งนี้ ให้ ขบ. พิจารณาปรับปรุงเส้นทางให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ให้ครอบคลุมพื้นที่และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งในอนาคตต่อไป

2. ขสมก. มีสิทธิ์ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งในเส้นทางที่มีการกำหนดใหม่ หรือเส้นทางเดินรถที่มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ก่อนผู้ประกอบการขนส่งรายอื่น ในกรณีที่ ขสมก. ไม่ประสงค์เดินรถในเส้นทางดังกล่าว ให้ ขบ.โดยอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ประกาศรับคำขอเป็นการทั่วไป

3. นโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ให้ ขสมก. จัดเก็บเป็นอัตราเดียว (Single price) ในอัตรา 30 บาท/คน/วัน/ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว

4. ทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2562 ที่เห็นชอบในหลักการของแผนฟื้นฟูกิจการฉบับเดิมเป็นเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการฉบับปรับปรุงใหม่ โดยให้ ขสมก. เช่ารถโดยสารไฟฟ้า (EV) จำนวน 2,511 คัน และจ้างเอกชน เดินรถให้บริการ เป็นรถโดยสารไฟฟ้า (EV) หรือรถโดยสาร NGV จำนวน 1,500 คัน

5. อนุมัติให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สำหรับโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด

6. ให้รัฐบาลรับภาระหนี้สินของ ขสมก. มีอยู่ว่า 1.2 แสนล้านบาท โดยจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ของ ขสมก. เมื่อ Ebitda เป็นบวก ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 เป็นต้นไป

และ 7. ขอสนับสนุนเงินอุดหนุนจากภาครัฐ จำนวน 7 ปี โดยเป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง