คมนาคม MOU กระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเยอรมนี 2 ปี แลกเปลี่ยนความรู้ ฝึกอบรมทุกระดับ สนับสนุนการพัฒนาระบบรถไฟในไทย เป็นแหล่งซ่อมสร้าง ผลิตระบบราง
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ (Joint Declaration Of Intent : JDI) ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
มี นายเกออร์ก ชมิดท์ (Georg Schmidt) เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย เป็นผู้ร่วมลงนาม โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง ร่วมพิธี
สำหรับการลงนามความตกลงดังกล่าว ถือเป็นการส่งเสริมความร่วมมือวิชาการระหว่างไทยและเยอรมนีในด้านระบบรางรวมถึงการแลกเปลี่ยนให้ความรู้และฝึกอบรมทุกระดับ เช่น ผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และช่างเทคนิค เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบรถไฟในประเทศไทย ให้เป็นแหล่งซ่อมสร้าง แหล่งผลิต แหล่งรวมวิทยากรระบบรางที่เป็นรูปธรรม ภายใต้นโยบาย Thai First ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เสริมสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมระบบรางในอนาคตอันใกล้ต่อไป
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า รัฐบาลไทยโดยกระทรวงคมนาคม มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการลดใช้พลังงาน โดยเฉพาะระบบรางที่เป็นรูปแบบการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน
จึงได้เร่งพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล นอกจากนี้ ยังได้พัฒนารถไฟทางคู่ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเดินทางขนส่ง และโลจิสติกส์ รวมถึงพัฒนาโครงข่ายรถไฟความเร็วสูง เพื่อเป็นทางเลือกการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง
โดยตระหนักดีว่าสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งวิจัยค้นคว้าและผลิตเทคโนโลยีระบบรางชั้นสูง จึงมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของประเทศไทยเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาทั้ง 2 ประเทศ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมและการดำเนินการต่าง ๆ ภายใต้แถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ดังนี้
1. การจัดตั้งสมาคมระบบรางไทย – เยอรมนี (German-Thai Railway Association : GTRA) เพื่อเป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนความรู้ การพัฒนาบุคลากรและการวิจัยต่าง ๆ รวมทั้งขับเคลื่อนความร่วมมือด้านระบบรางให้มีความยั่งยืน
2. การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการเพื่อจัดทำหลักสูตรปริญญาร่วมวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรามระบบรางและโครงสร้างพื้นฐาน ระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ RWTH Aachen University ของเยอรมนี
3. การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาองค์ความรู้และบุคลากร
ทั้งนี้ จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้การพัฒนาด้านระบบรางในประเทศไทยมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีระบบราง ส่งผลให้กระทรวงคมนาคมของไทย และกระทรวงคมนาคมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของเยอรมนี เห็นชอบร่วมกันต่ออายุแถลงการณ์ดังกล่าวต่อไปอีก 2 ปี เพื่อก่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาระบบรางของประเทศไทยให้มีความยั่งยืนในอนาคต