ครม.ไฟเขียวแก้กฎหมายให้ขสมก.ทำธุรกิจอื่น ออกพันธบัตรเงินกู้ได้ เปิดทางนำที่ดินอู่บางเขน-มีนบุรีประมูลหาเอกชนลงทุนพัฒนาเชิงพาณิชย์ หารายได้เลี้ยงตัวเองในระยะยาว
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันที่ 8 ธ.ค.2563 คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งและอำนาจการดำเนินกิจการของขสมก. ให้สามารถประกอบธุรกิจอื่นๆ ออกพันธบัตรเงินกู้หรือตราสารอื่นใด เพื่อการลงทุนหรือเพื่อประโยชน์แก่กิจการของขสมก.ได้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการขสมก.
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้เสนอว่า ขสมก.ได้ดำเนินการศึกษาโครงการพัฒนาการใช้พื้นที่เชิงธุรกิจ อู่มีนบุรีและอู่บางเขน โดยพบว่า อู่มีนบุรีมีพื้นที่ 10 ไร่ มีราคาตลาดมูลค่า 347 ล้านบาท มีความเหมาะสมในการพัฒนาเป็นอพาร์ตเม้นท์และตลาด ลักษณะการให้สิทธิเอกชนเข้าพัฒนาพื้นที่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ส่วนอู่บางเขนมีพื้นที่ 11ไร่ 1 งาน 93 ตารางวา มีราคาตลาดมูลค่า 1,148.25 ล้านบาท มีความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการประเภท ศูนย์การค้า โรงแรม ลักษณะเปิดให้เอกชนประมูลเพื่อลงทุนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรม
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริหารกิจการขสมก.พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้ขสมก.เพิ่มรายได้ให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ลดภาระกับภาครัฐ จำเป็นต้องพัฒนาพื้นที่ในเชิงธุรกิจตามแผนฟื้นฟูกิจการ
จึงเห็นควรให้แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา6 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพพ.ศ.2519 นอกจากนี้เพื่อการบริหารจัดการหนี้สินและเกิดประโยชน์ในการชำระหนี้ได้ในระยะยาวจำเป็นต้องออกพันธบัตรเงินกู้ จึงเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา7(7) ในพระราชกฤษฎีกาฉบับเดียวกัน