“เครือสหพัฒน์” ผนึก โตคิว ยักษ์อสังหาฯญี่ปุ่นทุ่ม 800 ล้าน ปักหมุดศรีราชา

“เครือสหพัฒน์” ตอกย้ำทำเลศรีราชา อีอีซี ฝ่าโควิด ผนึกโตคิว ยักษ์อสังหาฯญี่ปุ่น ลงทุนอีก 800 ล้าน ผุดโครงการที่ 2 “HarmoniQ 2” 50 ไร่ จำนวน 140 หลัง เปิดตัว เม.ย.นี้ เจาะลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ 1 หมื่นคน

นายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ปีนี้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่เป็นวิบากกรรมทั่วโลก ทั้งนี้ยังเชื่อมั่นในโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่ยังมีศักยภาพและความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยจะรีบาวน์กลับมาอีกครั้ง ซึ่งเครือสหพัฒน์ได้เตรียมแผนขยายการลงทุน เดินหน้าโครงการต่าง ๆ จะเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว

ปัจจุบันมีการลงทุนในเขตศรีราชา-แหลมฉบัง เตรียมขยายโครงการที่อยู่อาศัยเจาะกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น ครอบครัวนักธุรกิจที่ต้องมาพักอาศัยในประเทศไทย ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการแรก สร้างความเชื่อมั่นให้ขยายการลงทุนร่วมกับกลุ่มทุนใหญ่ของอสังหาฯ ญี่ปุ่นอย่าง โตคิว โดยจะขยายการลงทุนโครงการ ‘HarmoniQ 2’ อีกกว่า 800 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยให้กับชาวญี่ปุ่น บนพื้นที่กว่ารวมกว่า 50 ไร่ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มี 140 หลัง จะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างได้ในเดือน เม.ย. 2564 และเริ่มเปิดดำเนินโครงการภายในปีเดียวกัน

วิชัย กุลสมภพ

“จากความสำเร็จโครงการแรก ‘HarmoniQ 1’ ได้รับรางวัลจาก Miki House รับรองว่าเป็นสถานที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมต่อครอบครัวและเด็ก มีความปลอดภัย แข็งแรงตามมาตรฐานญี่ปุ่น โดยเลือกใช้การก่อสร้างจาก SCG HEIM นับเป็นแหล่งที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่มาอาศัยอยู่ในไทย ซึ่งโครงการที่มีห้องพักหลากหลายรูปแบบ มีบรรยากาศน่าอยู่เหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะต่อคนญี่ปุ่นอย่างมาก จนทำให้มียอดจองพักล้นหลาม”

สำหรับโครงการ ‘HarmoniQ 2’ เป็นบ้านสำหรับครอบครัวชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ออกแบบพื้นที่ใช้สอย รวบรวมความรู้ด้านการพัฒนาอสังหาฯของญี่ปุ่น โดย Tokyu Corporation ด้านการวางผังเมืองและพัฒนาอสังหาฯในญี่ปุ่น ยังครบครัน ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ อาทิ สนามเทนนิส, สนามบาสเก็ตบอล, พื้นที่ทำกิจกรรมเอาท์ดอร์ รวมถึงขยาย Club House ที่ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมด้วยคาเฟ่, โรงยิม, ห้องสมุด, ห้องสำหรับเด็ก, ห้องเก็บเสียง, ห้องประชุม และสตูดิโอบัลเลต์

ยังแวดล้อมด้วยโรงเรียนสำหรับชาวญี่ปุ่นอยู่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโครงการและโรงเรียนอนุบาล Oisca ซึ่งอยู่ติดกับตัวโครงการจนเด็กๆ มีสถานพยาบาล แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึง ใกล้เคียงCommunity Mall J-Park Nihonmura Sriracha และรักษาความปลอดภัยโดย Secom บริษัท Security อันดับหนึ่งจากญี่ปุ่นอีกด้วย

ทั้งนี้การขยายการลงทุนของโครงการอสังหาฯ ในศรีราชา เป็นการตอกย้ำศักยภาพในชลบุรีว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งอุตสาหกรรม” ที่น่าจับตามองในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC เฉพาะที่ศรีราชาขณะนี้มีนิคมอุตสาหกรรมกว่า 10 แห่ง โรงงานกว่า 1,300 แห่ง โดยญี่ปุ่นเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมายาวนานโดยเฉพาะในพื้นที่ศรีราชา

ซึ่งในปัจจุบันมีชาวญี่ปุ่นพักอาศัยอยู่กว่า 10,000 คน และมีสมาคมธุรกิจญี่ปุ่นอยู่กว่า 20 แห่ง ดังนั้น EEC จึงเป็นทำเลศักยภาพอีกแห่งหนึ่งสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในไทย ที่จะสามารถตอบรับดีมานด์ชาวต่างชาติและชาวไทยได้

สำหรับโครงการ HarmoniQ มีมูลค่าโครงการรวม 1,700 ล้านบาท เนื้อที่ 50 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านที่อยู่อาศัย 2 โครงการ คือโครงการ HarmoniQ 1 เปิดโครงการเมื่อ เม.ย. 2559 ที่ดินขนาด 54,354.40 ตร.ม.จำนวน 180 ยูนิต และโครงการ ‘HarmoniQ 2 จะเปิดโครงการในปี 2565 มีที่ดินขนาด 41,140 ตร.ม. จำนวน 141 ยูนิต