“อัศวิน” ลุ้น “มหาดไทย” ชงครม.เคาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว มี.ค.นี้ หวังเคลียร์หนี้ 1.4 แสนล้าน ชี้ค่าโดยสารอยู่ที่ 15-65 บาท ด้านส.ส.ภูมิใจไทยเผยศาลยกร้องปมร้องขึ้นค่าโดยสาร 104 บาทแล้ว
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ”ว่า ความคืบหน้าการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งจะขยายสัญญา 30 ปีให้บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ผู้รับสัมปทานรายเดิม เพื่อปลดภาระหนี้กว่า 148,716 ล้านบาท รอกระทรวงมหาดไทยเสนอสัญญาให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเดือนมี.ค.2564 นี้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
มั่นใจทุกอย่างจบ มี.ค.นี้
“กทม. ได้พิจารณาทุกอย่างรวมไว้ในสัมปทานแล้ว คิดว่าภายในเดือน มี.ค.นี้น่าจะจบ และกทม.ก็ไม่ต้องหาเงินมาชำระหนี้ BTS ที่ทำหนังสือทวงมากว่า 3 หมื่นล้านในวันที่ 1 เม.ย.นี้”
ในส่วนของค่าโดยสาร ยังไม่มีการเจรจาเพิ่มเติมหรือดำเนินการใดๆ หลังครม.อนุมัติ จะเก็บอัตรา 15-65 บาทตามที่เจรจาไว้ในสัญญา ไม่สามารถลดได้อีก เนื่องจากการเจรจาจบไปนานแล้ว และหนี้ทั้งหมดก็จะยกให้ BTSC ในฐานะคู่สัญญารับไป ซึ่งหลังสัญญาเดิมสิ้นสุดในปี 2572 กทม.จะมีรายได้จากที่ BTSC แบ่งให้จนถึงวันที่หมดสัญญาในปี 2602 คิดเป็นวงเงินประมาณ 200,000 ล้านบาท
ศาลยกคำร้องปม 104 บาทแล้ว
ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้รับการแจ้งจากศาลปกครองกลางแล้วว่า ศาลมีคำสั่งยกฟ้องกรณีที่ตนและ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยอีก 6 คนยื่นฟ้อง กทม. จากการขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวในราคาใหม่ 15 – 104 บาทเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา
โดยศาลให้เหตุผลว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2564 กทม.ได้ออกประกาศเลื่อนการเก็บค่าโดยสารในอัตราใหม่ไปแล้วไม่มีกำหนด ซึ่งถือว่า ได้ทุเลาคำสั่งเดิมไปแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีเหตุอะไรให้ศาลต้องพิจารณาความเพิ่มเติมอีก ข้อกล่าวหาของโจทก์จึงยกฟ้องไป ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้คิดทำอะไรต่อ
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 4 มี.ค. 2564 พรรคภูมิใจไทยจะจัดสัมมนาเกี่ยวกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยมีตน, นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) และนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมเป็นวิทยากร จะจัด ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย