ครม. รับลูก ป.ป.ช. สั่งคมนาคมชะลอสร้าง “เทอร์มินัลใหม่สุวรรณภูมิ” 4.2 หมื่นล้าน

ครม. รับความเห็น ป.ป.ช.ปมสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ด้านทิศเหนือสนามบินสุวรรณภูมิ แนะทำ East-West-อาคารด้านใต้ก่อน ขอ ทอท.ยึดความเห็นสภาพัฒน์-มติ ครม.ปี’53 ด้าน “ศักดิ์สยาม” ไม่ถอยดันสร้าง 3 โครงการ 6 หมื่นล้าน ไปพร้อมกัน เสนอแผนให้สภาพัฒน์ เม.ย.นี้

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบข้อเสนอของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับการป้องกันทุจริตโครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ในส่วนโครงการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) สนามบินสุวรรณภูมิ วงเงิน 41,260 ล้านบาทแล้ว

North Expansion ยังไม่ออกแบบ-EIA ยังไม่ผ่าน

โดย ป.ป.ช.ระบุว่า โครงการนี้นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นคัดค้าน เพราะอาคาร North Expansion ยังไม่ได้ศึกษาออกแบบและรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ก็ยังไม่ผ่านการพิจารณาด้วย อีกทั้งใช้งบประมาณลงทุนสูง นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านการสัญจรภายในสนามบิน ซึ่งต้องเดินทาง 2-3 ต่อโดยใช้รถไฟฟ้าไร้คนขับ (APM) อาจจะส่งผลกระทบต่อการจราจรบนมอเตอร์เวย์ติดขัดได้

 

แนะทำ East-West-อาคารด้านใต้ก่อน

ซึ่งจากการตรวจสอบหลักฐานและเอกสารต่าง ๆ ของ ป.ป.ช. จึงได้มีข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ดังนี้

1.บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ควรเร่งก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกและทิศตคะวันตก (East & West Expansion) วงเงินรวมประมาณ 12,000 ล้านบาทโดยเร็ว และควรจะก่อสร้างให้เป็นไปในคราวเดียวกัน เพื่อให้ศักยภาพของการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 60 ล้านคน/ปี เป็น 75 ล้าน/ปี

และ 2.ทอท.ควรพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) อย่างเคร่งครัด คือต้องเริ่มทำจาก East & West Expansion ก่อน และไปก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ให้มีศักยภาพรองรับผู้โดยสารได้ 120 ล้านคน/ปี เป็นลำดับแรก แล้วค่อยพิจารณาก่อสร้าง North Expansion ในลำดับถัดไป

“ศักดิ์สยาม” ดันทั้ง 3 โครงการ

ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้รายงานในที่ประชุม ครม.วันนี้ ว่า จะทำ East & West Expansion ไปพร้อม ๆ กับ North Expansion ใช้วงเงินลงทุนรวม ๆ ประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่ง ทอท.มีงบประมาณเพียงพอที่จะลงทุนเอง

โดยการดำเนินการ North Expansion จะเสร็จก่อน เนื่องจากตัว East & West Expansion จะต้องก่อสร้างโดยเชื่อมกับอาคารผู้โดยสารเดิม คาดว่าจะต้องใช้เวลาแก้ไขแบบประมาณ 6 เดือน จึงจะส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างได้

“เมื่อรวม ๆ เวลาแล้ว จึงน่าจะเสร็จไล่ ๆ กัน และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังกำชับให้ดูแลบูรณาการการบริหารการบินด้วย เพราะในอนาคตจะมีสนามบินอู่ตะเภาเกิดขึ้น ซึ่งได้เรียนนายกรัฐมนตรีรับทราบแล้วว่า กระทรวงคมนาคมมีแผนรองรับไว้แล้ว”

รอ Revisit 1 เดือน

“ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอน Revisit (ถามความเห็นใหม่) ร่วมกับสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน จะเสร็จในเดือน เม.ย. 2564 พอเสร็จแล้ว จะนำผลให้สภาพัฒน์พิจารณาทำความเห็นกลับมา จึงจะเสนอ ครม.ต่อไป ซึ่งจะเสนอไปพร้อม ๆ กัน” นายศักดิ์สยามกล่าวและว่า

ปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารใช้บริการก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ 60 กว่าล้านคน/ปี แต่สนามบินรองรับได้เพียง 45 ล้านคน/ปี จึงต้องก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) เพิ่ม ซึ่งรับผู้โดยสารได้ 15 ล้านคน/ปี  แต่เมื่อมีการก่อสร้างโครงการรันเวย์ที่ 3 เพิ่มเข้ามา จะช่วยเพิ่มศักยภาพผู้โดยสารเป็น 90 ล้านคน/ปี จึงจำเป็นต้องมีอาคารผู้โดยสารเพิ่ม

“หากทำเฉพาะ East & West Expansion ก็ได้ตัวเลข 90 ล้านคน/ปี พอดี ดังนั้น จึงเห็นว่าควรผลักดัน North Expansion ไปด้วย ซึ่งเวลานี้ถือว่าเหมาะสมกับการก่อสร้างมาก เพราะกว่าสถานการณ์การบินภายในประเทศจะกลับมาปกติก็ประมาณไตรมาสท้าย ๆ ของปี 2565“

แนะ ทอท.เอาที่ 700 ไร่ทำอย่างอื่น ไม่ซ้ำ

นอกจากนี้ ยังได้กำชับกับ ทอท. ถึงแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ดิน 723 ไร่ ไม่ควรทำกิจกรรมที่ซ้ำซ้อนกับที่รัฐวิสาหกิจอื่น ๆ ทำอยู่ เช่น โรงแรมห้ามทำ เพราะจะไปซ้ำซ้อนกับโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เป็นต้น แต่ถ้าจะทำอาคารขนถ่ายสินค้า (Cargo Terminal) ก็ทำได้ เพราะ ทอท. มีขนาดธุรกิจค่อนข้างใหญ่ หากทำกิจการโรงแรมจะทำให้โรงแรมโนโวเทลมีปัญหาได้

เปิดความเห็น ป.ป.ช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ป.ป.ช.ส่งความเห็นมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อให้เสนอ ครม. ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยส่งเป็นหนังสือ เรื่อง ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษาโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion)

โดย ป.ป.ช. เสนอให้ ทอท. ชะลอการก่อสร้าง North Expansion และควรเร่งดำเนินการก่อสร้าง East Expansion ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2553 ซึ่งเป็นไปตามแผนเดิมโดยเร็ว

เพื่อให้สอดคล้องกับอาคาร SAT 1 ที่กำลังจะเปิดให้บริการในปี 2565 และควรดำเนินโครงการ West Expansion ในคราวเดียวกัน เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 75 ล้านคน/ปี เพื่อลดความแออัดของอาคารผู้โดยสารปัจจุบัน

นอกจากนี้เห็นว่า ทอท.ควรดำเนินการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ ตามคำแนะนำของสภาพัฒน์ ที่เห็นควรให้ดำเนินการขยาย East&West Expansion และก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ เพื่อรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคน/ปี เป็นลำดับแรกก่อน แล้วจึงนำโครงการ North Expansion มาพิจารณาทบทวนอีกครั้ง