ASW ปักหมุด Q2/64 พร้อมเข้าจดทะเบียน SET โชว์แกร่งรายได้-กำไรพุ่ง

กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์

“ASW-แอสเซทไวส์” เตรียมเสนอขาย IPO ไม่เกิน 206 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไตรมาส 2/64 เสริมความแข็งแกร่ง โชว์ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง รายได้ปี 63 โต 60% ทำกำไร 871 ล้านบาท พร้อมตุน Backlog 7,800 ล้านบาท

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมในการเป็นนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 206 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 27.07% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมด เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการเงิน และเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ รองรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบในอนาคต

ปัจจุบัน ASW มีพอร์ตสะสม 33 โครงการ มูลค่าสะสม 30,420 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ 25 โครงการ มูลค่า 19,043 ล้านบาท, โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างและเปิดขาย 8 โครงการ มูลค่า 11,377 ล้านบาท และโครงการในอนาคต 11 โครงการ มูลค่า 21,202 ล้านบาท

แผนธุรกิจปี 2564 ASW วางแผนเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 10,850 ล้านบาท และบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) 7,848 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปี 2564 จำนวน 5,302 ล้านบาท ปี 2565 จำนวน 1,652 ล้านบาท และปี 2566 จำนวน 894 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการ 3 ปี (2561 -2563) กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 4,345.8 ล้านบาท 2,624.9 ล้านบาท และ 4,205.0 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิ 556.6 ล้านบาท 297.1 ล้านบาท และ 870.8 ล้านบาท ตามลำดับ

ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า จุดเด่น ASW คือ การเลือกทำเลที่ดี มีแบรนด์ที่หลากหลายเหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย มีเซ็กเมนต์ชัดเจน

ได้แก่ 1. แบรนด์ “แอทโมซ-Atmoz” คอนโดมิเนียม Low Rise 2. แบรนด์ “โมดิซ-Modiz” คอนโดฯ เจาะกำลังซื้อระดับกลาง-บน เน้นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกับความหรูหรา และ 3.แบรนด์ “เคฟ-Kave” แคมปัสคอนโดฯ ทำเลใกล้กับสถานศึกษาและมหาวิทยาลัยชั้นนำ


ASW มีฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีผลประกอบการโดดเด่นภายใต้สถานการณ์โควิด บริษัทสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น และมีอัตราการทำกำไรสูง โดยกำไรขั้นต้น (GPM) 44% และกำไรสุทธิ (NPM) 20.6% ประกอบกับผู้บริหารและทีมผู้บริหาร ASW มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการพัฒนาโครงการ มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตได้อีกมาก จึงเชื่อมั่นว่า การเสนอขายหุ้น ASW จะประสบความสำเร็จ เป็นอีกหนึ่งบริษัทได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี