ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 พ.ย.2560) เป็นวันแรกที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นำระบบ E – Ticket มาใช้บนรถโดยสารธรรมดา เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ในระยะแรกจะให้บริการจำนวน 600 คันก่อน และจะทยอยเปิดให้บริการจนครบ 800 คัน ภายในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560
- ขาลงยางพารา ราคาร่วงฉุดไม่อยู่ 10 วันราคาตกลงไปแล้ว 7 บาทกว่า
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
โดยบรรยากาศที่สถานีโดยสารเขตเดินรถที่ 1 (อู่บางเขน) ส่วนใหญ่รถเมล์ที่นำออกมาให้บริการยังติดตั้งระบบ E-Ticket ไม่แล้วเสร็จ แม้ว่าหน้ารถจะติดสติ๊กเกอร์สีเขียว “รถคันนี้รองรับระบบ E-Ticket และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ติดบริเวณกระจกด้านหน้า – หลังรถโดยสาร
โดยผู้ใช้บริการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องแสดงบัตรต่อกระเป๋ารถเมล์เพื่อออกคูปองให้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่ยังมีผู้ใช้บริการยังไม่มาก
ทั้งนี้นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ได้จัดแบ่งการบริการรถเมล์รองรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 3 ประเภท
1.รถโดยสารธรรมดาที่ติดตั้งเครื่องอ่านบัตร จำนวน 100 คัน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถขึ้น-ลงรถได้ทั้ง 2 ประตู และต้องนำบัตรมาแตะที่เครื่องอ่านบัตร ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ประตูรถทั้ง 2 ข้าง โดยจะต้องแตะบัตรทั้งขณะขึ้นและลงรถ เพื่อให้เครื่องอ่านบัตรหักค่าโดยสารจากวงเงินในบัตร
2.รถโดยสารธรรมดาที่มีพนักงานเก็บค่าโดยสารให้บริการสมาร์ทโฟน จำนวน 250 คัน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถขึ้น-ลงรถได้ทั้ง 2 ประตู และต้องนำบัตรมาแตะที่สมาร์ทโฟนของพนักงานเก็บค่าโดยสารเพียงครั้งเดียว แทนการแตะที่เครื่องอ่านบัตร เพื่อให้สมาร์ทโฟนหักค่าโดยสารจากวงเงินในบัตร
3.ส่วนที่เหลืออีก 450 คัน ขสมก.จะให้พนักงานเก็บค่าโดยสารบันทึกหลักฐาน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ใช้บริการรถโดยสาร โดยผู้ถือบัตรฯจะต้องแสดงบัตรฯต่อพนักงานเก็บค่าโดยสารก่อนใช้บริการ