หลังจำใจเลื่อนการรื้อสะพานกลับรถหน้าสนามบินดอนเมือง เพื่อทะลวงคอขวดการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต
ล่าสุด “กรมทางหลวง” ทุบโต๊ะวันที่ 6 พ.ย. 2560 เวลา 22.00 น.จะเริ่มปิดการจราจรเพื่อรื้อสะพานทิ้งแล้วสร้างใหม่ จะใช้เวลาดำเนินการ 1 ปี
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
“มนตรี เดชาสกุลสม” ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 13 กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมมีโครงการปรับปรุงถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก บริเวณสะพานทางเข้าสนามบินดอนเมือง ช่วง กม. 24+279 หรือบริเวณหน้าอาคารระหว่างประเทศ โดยจะเพิ่มช่องจราจรทางตรงเป็น 3 ช่องจราจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางและลดปัญหาการจราจรหนาแน่นและเป็นคอขวดบริเวณดังกล่าว ใช้เงินก่อสร้าง 150 ล้านบาท
ล่าสุดผลหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้บังคับการตำรวจจราจร ผู้อำนวยการเขตดอนเมือง รองผู้บังคับการงานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิตหรือทางพิเศษ กองกำกับการ 2 ผู้บังคับการสถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง และ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) จากการหารือมีมติให้ทุบและปิดการจราจรสะพานเข้าสนามบินดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 2560 เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 1 ปี จะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. 2561
“ซึ่งสะพานกลับรถที่สร้างใหม่ยังอยู่บริเวณเดิมเพียงแต่ขยับตำแหน่งให้เข้าไปในพื้นที่ของรถไฟประมาณ 2 เมตร เพื่อเปิดพื้นที่ให้เพิ่มช่องทางตรง เพิ่มจาก 2 ช่องจราจร เป็น 3 ช่องจราจร”
ในช่วงระหว่างดำเนินการก่อสร้าง สำหรับประชาชนที่จะเดินทางเข้าไปภายในสนามบินดอนเมืองสามารถใช้เส้นทางเลี่ยงได้ โดยใช้สะพานทางเข้าหน้าคลังสินค้า (ฝั่งขาออก) ดอนเมืองโทลล์เวย์ และช่องทางประตู 3 (ฝั่งขาเข้า) และขอให้เผื่อเวลาการเดินทางมายังสนามบินอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
ด้วยปัจจุบันสภาพปัญหาการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงงามวงศ์วาน-ดอนเมือง หรือหน้าสนามบินดอนเมือง เป็นพื้นที่ที่มีการจราจรสะสมตามจุดตัดทางแยกต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันปริมาณการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิตอยู่ที่ 1.8 แสนเที่ยวคันต่อวัน
ประกอบกับมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ทำให้มีการปิดช่องจราจรเป็นบางช่อง ส่งผลให้มีรถท้ายสะสมมากขึ้นจนบดบังช่องจราจรทางตรง โดยเฉพาะบริเวณทางเข้า-ออกท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งมีกระแสรถเข้าสนามบินตัดกับกระแสรถที่จอดรับ-ส่ง บริเวณป้ายรถประจำทาง จึงได้จัดแผนการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ไม่ให้กีดขวางช่องทางหลัก
