“รถไฟฟ้าบีทีเอส” ขยายเวลาเที่ยวบัตรโดยสารหมดอายุถึง ธ.ค. นี้

บีทีเอส

‘บีทีเอส’ เยียวยาโควิดผู้โดยสาร ขยายเวลาเที่ยวบัตรโดยสารหมดอายุ 31 พ.ค. 64 สามารถใช้ได้ถึง ธ.ค.นี้ เริ่มรับสิทธิ์ตั้งแต่ 1 มิ.ย. นี้ ได้ทุกสถานี

วันที่1 พฤษภาคม 2564 นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือBTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า ขณะนี้ บีทีเอส และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ได้เร่งดำเนินการร่วมกัน

เพื่อช่วยบรรเทา และลดความเดือดร้อนให้กับประชาชนเรื่องผลกระทบภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้โดยสาร ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ระลอกที่ 3 มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเป็นวงกว้าง และพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ตั้งแต่เดือนเม.ย.2564 ที่ผ่านมา

ตามประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) (ฉบับที่ 20 , ฉบับที่ 22 ) ขอความร่วมมือให้หน่วยงานของภาครัฐ และภาคเอกชน พิจารณาให้เจ้าหน้าที่ และพนักงานปฏิบัติงานนอกสถานที่สำนักงาน หรือปฏิบัติงานที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

ทั้งนี้ บริษัท ฯ ได้ออกมาตรการดูแลผู้โดยสารเป็นครั้งที่ 3 ด้วยการขยายเวลาของบัตรโดยสาร ที่มีเที่ยวเดินทางในบัตรหมดอายุในช่วงตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.จนถึง วันที่ 31 พ.ค.2564 ผู้โดยสารสามารถทยอยนำบัตรโดยสาร มาติดต่อขอรับสิทธิ์ขยายเวลาเที่ยวเดินทาง ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ถึง วันที่ 31 ธ.ค. 2564 และเที่ยวเดินทางนี้จะมีอายุ 30 วัน นับตั้งแต่การใช้ครั้งแรก

นายคีรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 21 ปี ที่เปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส บริษัท ฯ พร้อมเคียงข้างดูแลผู้โดยสารมาโดยตลอด และครั้งนี้ประสบกับมหาภัยพิบัติการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อคนทั้งโลก ครั้งนี้จะยาวนานอีกแค่ไหนไม่สามารถคาดการณ์ได้ บริษัท ฯ ก็ไม่เคยทอดทิ้งผู้โดยสาร ด้วยการจัดมาตรการขยายเวลาบัตรโดยสารออกไปอีก ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

ทั้งนี้ บริษัท ฯ ได้นำขบวนรถไฟฟ้าออกวิ่งให้บริการมากที่สุดทั้ง 98 ขบวน ด้วยความถี่สูงสุดเป็น 2 นาที 25 วินาที ในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อช่วยส่งเสริมมาตรการ Social Distancing ยังคงรักษามาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ อย่างเข้มงวดมาโดยตลอด ถึงแม้ในขณะนี้การเดินทางของผู้โดยสารจะลดลงก็ตาม