บอร์ดรถไฟเคาะแก้ข้อบังคับ 2.1 ให้อำนาจผู้ว่ารถไฟมอบหมายงานให้รองผู้ว่า-ผู้ช่วยผู้ว่า แทนการแบ่งงานตามภารกิจ ชี้ไม่กระทบอัตราเงินเดือนและจำนวนบุคลากรเดิม
วันที่ 18 มิถุนายน 2564 นางสาวเจษฎาพร ยุทธนวิบูลย์ชัย ผู้ช่วยผู้ว่าการด้านบริหาร การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยแก้ไขข้อบังคับการรถไฟ ฉบับที่ 2.1 การแบ่งส่วนงานและอำนาจความรับผิดชอบของผู้บริหาร 2564 ให้ถือใช้เพียงฉบับเดียว เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน หรือสับสนในอำนาจความรับผิดชอบ และเกิดความถูกต้องคล่องตัวในการปฏิบัติงาน โดยไม่ส่งผลกระทบต่ออำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
โดยโครงสร้างในปัจจุบัน การแบ่งส่วนงานใช้ข้อบังคับการฉบับที่ 2.1 (ฉบับที่ 2) 2558 ลงวันที่ 2 พ.ย. 2558 แบ่งส่วนงานและหน้าที่บริหารขึ้นตรงต่อบอร์ด ร.ฟ.ท. ได้แก่ กลุ่มยุทธศาสตร์ กลุ่มอำนวยการ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มบริหารรถไฟฟ้า กลุ่มธุรกิจเดินรถ กลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน กลุ่มธุรกิจบริหารทรัพย์สิน ส่วนงานผู้ช่วยผู้ว่าการด้านบริหาร ส่วนงานผู้ช่วยผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ โดยมีรองผู้ว่ามี จำนวน 7 คน ผู้ช่วยผู้ว่าการมี 2 คน
ส่วนโครงสร้างใหม่นั้น จะให้อำนาจผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เป็นผู้มอบหมายหน้าที่ภารกิจการกำกับดูแลให้กับรองผู้ว่าการแต่ละคน ซึ่งรองผู้ว่าการยังมีจำนวน 7 คน โดยปรับเปลี่ยนเป็นใช้หมายเลขกำกับแทน ไล่เรียงเป็นรองผู้ว่าการคนที่ 1 เรื่อยไปจนถึงคนที่ 7 ไม่มีการแบ่งสายงานเป็นฝ่ายแบบเดิมอีกต่อไป ซึ่งโครงสร้างใหม่นี้จะคล้ายกับโครงสร้างเดิมที่ ร.ฟ.ท. เคยใช้เมื่อช่วงปี 2553-2558
ทั้งนี้ เห็นว่าการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะมีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในการแข่งขันขององค์กรที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น ขณะที่รูปแบบการกำกับดูแลและการแบ่งงานเดิม มีการกำหนดลักษณะการบริหารจัดการแบบเฉพาะเจาะจงมากเกินไป และจะทำให้การทำงานมีเอกภาพ มีประสิทธิภาพ บริหารจัดการได้อย่างบูรณาการ ในทิศทางเดียวกัน มีผลสำเร็จของงานมากขึ้น
การแก้ไขข้อบังคับการฉบับที่ 2.1 นั้น ต้องนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณา และเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อได้รับความเห็นชอบจึงจะเริ่มดำเนินการปรับโครงสร้างได้
รายงานข่าวแจ้งว่า การปรับโครงสร้างใหม่ และให้อำนาจผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.มอบหมายงานให้รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. จากเดิมที่ขึ้นตรงต่อบอร์ด ร.ฟ.ท. เป็นการปรับการบริหารงานบุคคล ไม่กระทบต่อจำนวนรองผู้ว่าการ และอัตราเงินเดือนใด ๆ แต่จะมีการเปลี่ยนชื่อเรียกในโครงสร้างใหม่ และไม่มีผลกระทบต่อการแบ่ง 3 หน่วยธุรกิจ และ 1 บริษัทลูกแต่อย่างใด