รฟม.ยันงานเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าปลอดภัย 100% กระทบงานวางท่อ แต่ขอทำตอนหลังได้
วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ได้มีประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2564 และประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 34) ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2564 โดยสรุปว่า ให้ปิดสถานที่ก่อสร้าง หรือพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างหรือสถานที่ก่อสร้าง รวมทั้งให้หยุดงานก่อสร้างและห้ามการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงาน เป็นต้น
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
และต่อมาได้ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนและสื่อออนไลน์ต่างๆ ว่า งานขุดระดับลึกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นดินอ่อนและมีระดับน้ำใต้ดินที่สูงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะต้องมีการควบคุมระดับน้ำใต้ดินในช่วงระหว่างการก่อสร้างอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้โครงสร้างใต้ดินมีเสถียรภาพและมีความปลอดภัย หากต้องหยุดงานก่อสร้างอย่างกระทันหัน อาจทำให้เกิดการวิบัติและเป็นอันตรายต่อสาธารณชนได้
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอเรียนว่า การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินของ รฟม. มีความปลอดภัย 100% โดยปัจจุบันงานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟฟ้าใต้ดินได้ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมดแล้ว ส่วนงานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทุกสถานีได้ดำเนินการเทคอนกรีตชั้น Base Slab เสร็จเรียบร้อย โดย รฟม.ได้กำชับให้ผู้รับจ้างงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทุกสายของ รฟม. ปฏิบัติตามประกาศข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 25 และประกาศกรุงเทพมหานครฯ ฉบับที่ 34 อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ อาจจะมีงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคของโครงการรถไฟฟ้าที่อาจได้รับผลกระทบจากการหยุดงานก่อสร้างบ้าง เช่น งานวางท่อสาธารณูปโภคใต้ดินโดยใช้วิธีขุดเจาะลากท่อในแนวราบ หรือ Horizontal Directional Drill (HDD) ที่อาจจะต้องดำเนินการขุดเจาะใหม่หลังจากที่มีการผ่อนปรนให้สามารถเข้าดำเนินการก่อสร้างได้ ติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ CallCenter รฟม. โทร.0-2716-4044