บอร์ดการบินพลเรือนเคาะ “สำนักการบินพลเรือน” คุมข่าวสารการบินของประเทศ เร่งพัฒนาระบบเชื่อมโยง ICAO พร้อมสั่งทำแผนฟื้นอุตสาหกรรมการบินในประเทศระยะ 2-4 ปีหรือไม่เกิน 2568
วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) มีมติเห็นชอบแนวคิดการพัฒนางานด้านการบริหารข่าวสารการบิน (Aeronautical Information Management: AIM) ของประเทศไทย ให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) มุ่งเน้นบทบาทในการเป็นศูนย์กลางและเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการพัฒนาระบบการบริหารข่าวสารการบินของประเทศให้ไปสู่ระบบมาตรฐานสากลให้ได้ภายในกรอบเวลาที่เหมาะสม
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
ทั้งการถ่ายโอนจากระบบบริการข่าวสารการบินแบบเดิม (Aeronautical Information Service: AIS) ไปสู่การบริหารข่าวสารการบิน (AIM) และการพัฒนาต่อไปสู่การบริหารจัดการข่าวสารการบินทั้งระบบ (System Wide Information Management: SWIM) ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นอินเทอร์เน็ตของโลกการบินที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) มุ่งเชื่อมข้อมูลการบินทั้งโลกเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบการเดินอากาศสากลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดที่มีเป้าหมายให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการเดินทาง ตามเป้าหมายของแผนการเดินอากาศสากล (Global Air Navigation Plan)
“ปัจจุบันการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านการบินยังเป็นไปในลักษณะจุดต่อจุด (Point-to Point) ซึ่งหากประเทศไทยสามารถพัฒนาไปสู่ระบบ SWIM ได้ จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ”นายศักดิ์สยามกล่าว
โดยระบบนี้ จะสามารถรองรับการเติบโตของการขนส่งทางอากาศที่เพิ่มมากขึ้นได้ในอนาคต และเชื่อมโยงระบบการบริหารข่าวสารการบินเข้ากับระบบของโลกตามมาตรฐานสากล ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดด้านการบริหารจราจรทางอากาศสากล (Global Air Traffic Management Operational Concept) ของ ICAO ที่เปรียบเหมือนเส้นเลือดของการเดินอากาศทั้งระบบ
สำหรับการพัฒนาในครั้งนี้ จะเป็นการแยกส่วนงานของผู้ให้บริการข่าวสารการบิน โดยให้นิติบุคคลที่มีความสนใจและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดเป็นผู้ดำเนินการแทน ซึ่งจะส่งผลให้ CAAT สามารถกำกับดูแลและพัฒนางานด้านข่าวสารการบินได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน CAAT ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับดูแลและผู้ให้บริการข่าวสารการบิน (AIS Provider) ของประเทศไทย
ทั้งนี้ ให้ CAAT จัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยให้ศึกษาแนวทางดำเนินการของต่างประเทศประกอบด้วย
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติอื่น ๆ ได้แก่ เห็นชอบให้บริษัทไทย ซัมเมอร์ แอร์เวย์ จำกัด ได้รับการยกเว้นการเริ่มประกอบกิจการโดยการทำการบินจริง (Actual Flight Operation) ภายใน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต โดยให้ขยายระยะเวลาออกไปเป็นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565
เห็นชอบการกำหนดกระบวนการขั้นตอนและระยะเวลาในการออกใบอนุญาต หนังสืออนุญาต และการอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ ซึ่งต้องเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและคณะกรรมการการบินพลเรือนพิจารณา ตามที่ CAAT เสนอเพิ่มเติมและขอปรับปรุงแก้ไข ก่อนนำไปประกาศใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและผู้ประกอบการในการรับทราบขั้นตอนและกรอบระยะเวลาดำเนินการต่าง ๆ ต่อไป รวมถึงให้จัดทำกระบวนงานสำหรับการอุทธรณ์ ในกรณีที่ประชาชนหรือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการบินต้องการอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองที่ออกโดยผู้อำนวยการ CAAT เพิ่มเติมด้วย
เตรียมแผนฟื้นการบินใน 2-4 ปี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้มีข้อสั่งการให้ CAAT ต่อยอดตามแผนการเปิดประเทศ เร่งสะสางงานที่คงค้าง และเตรียมความพร้อมเพื่อให้อุตสาหกรรมการบินของประเทศมีความพร้อมรับการบินกลับมาเป็นปกติในช่วง 2 – 4 ปีข้างหน้า โดยให้ กพท. ดำเนินการ ดังนี้
1.เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมขยายผลการเปิดรับนักท่องเที่ยวอีก 9 แห่ง ตามที่รัฐบาลได้แถลงไว้ หลังจากการเปิด Phuket Sandbox ประสบความสำเร็จ
2.เร่งรัดทำแผนการจัดระเบียบการดำเนินงานใหม่ (Set Zero) สำหรับภารกิจที่ต้องเร่งจัดการ เช่น การรับรองสนามบินสาธารณะและการออกใบอนุญาตสนามบินส่วนบุคคล รวมถึงการออกใบอนุญาต โดรน ทั้งประเภทที่ต้องขอขึ้นทะเบียนกับ CAAT และประเภทที่ต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (โดรนที่มีน้ำหนักเกินกว่า 25 กิโลกรัม) เพื่อลดการบินโดรนที่ผิดกฎหมาย และเพื่อให้กิจการการบินในทุกมิติสามารถเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.เสนอแผนงานที่เป็นรูปธรรมสำหรับประเทศไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการบิน ทุกภาคส่วนสามารถเตรียมพร้อมรับโอกาสทางเศรษฐกิจเมื่ออุตสาหกรรมการบินกลับมาเป็นปกติได้ทัน ตามข้อมูลการคาดการณ์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ที่คาดว่าอย่างเร็วจะเริ่มขึ้นในปี 2566 หรือปี 2568 เป็นอย่างช้า