“CHEA KIN” มองตลาดอาเซียน “กัมพูชากำลังสร้างใหม่ 8,000 โปรเจ็กต์”

คอลัมน์ ส่องอสังหา 2018

เวทีสัมมนาส่งท้ายปีภายใต้หัวข้อ “ส่องอสังหาริมทรัพย์ 2018” จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจร่วมกับพันธมิตรเมกะดีลเลอร์วงการวัสดุก่อสร้าง “แกรนด์โฮม” และพันธมิตรรายอื่น ๆ กำหนดการจัดให้มีขึ้นในวันศุกร์ 24 พฤศจิกายน 2560 เริ่มตั้งแต่ 14.00-17.00 น. ณ สกายฮอลล์ ชั้น 3 แกรนด์โฮม ถนนบางนา-ตราด กม.10

หลักใหญ่ใจความว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้า ความสามารถของผู้ประกอบการไทยก้าวไกลขึ้นทำเนียบนักลงทุนแถวหน้าในตลาดอาเซียน 10 ประเทศ โดยเฉพาะประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่นาทีนี้ใคร ๆ ก็ต้องพูดถึงกลุ่มตลาดศักยภาพสูงอย่าง CLMV (กัมพูชา-ลาว-เมียนมา-เวียดนาม)

โฟกัสภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ว่ากันว่าตลาดอาเซียนเนื้อหอมสุดสุด เจาะลึกถึงแก่นลงไปอีกมีคำกล่าวว่าถ้าใครสามารถบุกเบิกการลงทุนในเมียนมากับกัมพูชาได้ การเข้าไปตลาดประเทศอื่นที่เหลือในอาเซียนจะไม่ใช่งานหินอีกต่อไป

สำหรับโจทย์เศรษฐกิจของตลาดอาเซียน มีวิทยากรรับเชิญ “CHEA KIN” นักธุรกิจสตรีในวัย 55 กะรัต และซีอีโอของกลุ่มธุรกิจโมเดิร์นเทรดค้าวัสดุก่อสร้าง “บริษัท HENG ASIA” ที่กำลังมีการลงทุนครั้งสำคัญในกรุงพนมเปญ

“ขณะนี้โครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศกัมพูชาที่เซ็นสัญญาก่อสร้างแล้วมีอยู่ 8,000 โครงการ” ข้อมูลเปิดประเด็นถึงความน่าสนใจของดีมานด์-ซัพพลายและขนาดตลาดก่อนอื่น ปูพื้นฐานเกี่ยวกับบรรยากาศการเมืองและการค้าการลงทุน มีอะไรดึงดูดนักลงทุนต่างชาติกันบ้าง

ADVERTISMENT

กล่าวสำหรับข้อมูลจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เผยแพร่ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจกัมพูชาในช่วง 5 ปี (2559-2563) ไว้ว่าจีดีพีเติบโตปีละ 7.5% ต่อเนื่องห้าปีเต็มโดยเฉพาะ “กัมพูชา” มีฉายาในวงการนักลงทุนโอเวอร์ซีส์หรือพอร์ตนักลงทุนข้ามชาติว่าเป็นดินแดน “ดาร์ลิ่ง ออฟ เอเชีย”

“CHEA KIN” เฉลยว่า ภาพรวมอาเซียนทุกคนอยากไปลงทุน CLMV อยู่ที่ว่าจะเลือกไปประเทศใดเป็นหลัก เริ่มจากเวียดนามที่ตลาดอสังหาฯ บูมเป็นระยะ ๆ ทำให้มีภาพการลงทุนที่เริ่มหนาหูหนาตาบ้างแล้ว, เมียนมาเองก็มีจำนวนประชากรเยอะ

ADVERTISMENT

สปป.ลาวแม้ขนาดตลาดวัดจากประชากรจะเล็กกว่าประเทศอื่นแต่ด้วยภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงไทยทำให้ดูเหมือนการไปลงทุนทำได้ง่ายสุด ส่วนกัมพูชาก็มีพรมแดนติดไทย เป็นเพื่อนบ้านที่เป็นพันธมิตรในการทำมาค้าขายอยู่พอสมควร

หากแต่ถ้าลงลึกบรรยากาศการเมือง ข้อดีที่สุดในสายตาเธอก็คือประเทศกัมพูชากำลังเปลี่ยนผ่านจากการปกครองแบบสังคมนิยมมาเป็นประชาธิปไตย นี่คือ differntiate หรือข้อแตกต่างที่ชัดเจนมาก

ตัวชี้วัดคือปรากฏการณ์ลูกหลานโพ้นทะเลที่รุ่นพ่อแม่ส่งออกไปลี้ภัยและศึกษาในยุคสังคมนิยม ต่อมาเมื่อมีการเปิดประเทศทำให้มีการกวักมือเรียกกลับบ้านเพื่อมาพัฒนาบ้านเมืองตัวเอง นำไปสู่ปรากฏการณ์คนรุ่น “Return Cambodian” เมื่อ 10-20 ปีที่ผ่านมา และกลายเป็นกำลังเสาหลักในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชาในทุกวันนี้

“กัมพูชาเปิดประเทศมา 20 กว่าปี ถ้าเป็นคนรุ่นอายุ 20 ปีกว่าจะรู้สึกไม่อยากกลับประเทศเพราะด้อยพัฒนา แต่คนอายุ 30 ปีเริ่มคิดว่าอยู่ต่างประเทศฉันก็ไม่ได้อะไรเลยนะ พอได้กลับมาเยี่ยมพ่อแม่ที่ประเทศบ้านเกิด เยี่ยมประเทศตัวเอง โอ้โห โอกาสมหาศาล opportunities เพียบเลย”

ตัวอย่างที่ดีที่สุดยังมาจากซีอีโอ HENG ASIA เพราะตอนกลับมาเยี่ยมประเทศตัวเองไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับภาคอสังหาฯเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ตัดสินใจว่าต้องจับธุรกิจนี้นี่แหละ เหตุผลเพราะ “opportunities มหาศาล” บ้านเมืองต้องการรีโนเวต 360 องศา

“นี่คือภาพนักธุรกิจกัมพูชาเมื่อช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา Return Cambodian ทุกคนกลับมาและเริ่มหาลู่ทางลงทุน ประเทศก็ mix&match มาก กลายเป็นอะเมซิ่ง กัมพูชา”