รีแบรนด์ทาวน์โฮม “บ้านพฤกษา“ บ้านหลังแรกเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

“พฤกษา เรียลเอสเตท” ประกาศรีแบรนด์ “บ้านพฤกษา” ในรอบ 28 ปี ชูคอนเซ็ปต์ “บ้านหลังแรก เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ย้ำความเป็นผู้นำสินค้าทาวน์โฮม เจาะกลุ่มลูกค้าอายุ 28-40 ปี รายได้ครัวเรือน 25,000-50,000 บาท ออกแบบบ้านซีรีส์ใหม่สอดรับเทรนด์การใช้ชีวิตยุคนิวนอร์มอล

นายธีระ ทองวิไล กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า พฤกษาฯเป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าทาวน์โฮมราคา 1-3 ล้านบาท

ดังนั้น เพื่อรักษาความเป็นผู้นำและเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า ในปี 2564 จึงได้มีการรีแบรนด์ “บ้านพฤกษา” ในรอบ 28 ปี เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญและความเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมของบ้านพฤกษา

โดยมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์โลโก้แบรนด์บ้านพฤกษา นำเสนอ brand DNA “บ้านหลังแรก เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” (First home, better life) เป็นหลักคิดในการออกแบบโลโก้ใหม่ ใช้กราฟิกรูปใบไม้ซึ่งบ่งบอกถึงชีวิต การเติบโตยั่งยืนเสมือนการสร้างชีวิตและเติบโตไปด้วยกันที่บ้านหลังแรก

ใช้โทนสีน้ำเงินสื่อถึง positioning ของบ้านพฤกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทาวน์โฮมมายาวนาน และโทนสีเขียว สื่อถึงความสุขและความร่มเย็น สะท้อนถึงการมีชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีกว่าที่บ้านพฤกษา

แบรนด์บ้านพฤกษามีจุดโฟกัสจับกลุ่มลูกค้าอายุ 28-40 ปี รายได้ครัวเรือน 25,000-50,000 บาท มีความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลที่สะดวกในการใช้ชีวิต ใกล้แหล่งชุมชน ตลาด มีบริการรถขนส่งสาธารณะ สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก และมีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอต่อการใช้งาน

“บริษัทประสบความสำเร็จกับสินค้าทาวน์โฮม โดยภายใต้แบรนด์บ้านพฤกษาซึ่งครองใจผู้บริโภคมาตลอด 28 ปี มีจุดแข็งในเรื่องการออกแบบฟังก์ชั่น พื้นที่ใช้สอยที่พอเพียง พัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด

“พฤกษาใส่ใจ…เพื่อทั้งชีวิต Tomorrow Reimagined” มีนวัตกรรมการใช้ชีวิตที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี living innovation หรือ smart solution ที่พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงทั้งในวันนี้และพรุ่งนี้”

นอกจากรีแบรนด์บ้านพฤกษาแล้ว ในด้านการดีไซน์มีการปรับเปลี่ยนตัวบ้านทั้ง exterior, interior และ landscape มาทำงานร่วมกับทีมของพฤกษา เพื่อให้ได้มิติของการออกเเบบที่ครบรอบด้าน เเละฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริง

มีจุดเน้นเป็นบ้านที่ทุกคนอยู่สบาย มีความเรียบง่าย ดูร่มรื่น ซึ่งเหมาะสำหรับภูมิอากาศของประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน คำนึงถึงการประหยัดพลังงาน และลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางของผู้อาศัย ตัวบ้านสามารถระบายความร้อน มีช่องระบายอากาศ ช่องรับแสงธรรมชาติต่าง ๆ การวางผังบ้านเพื่อหลบทิศทางของแดดรับลมได้มากขึ้น

ขณะที่สวนส่วนกลางพิถีพิถันเลือกใช้พันธุ์ไม้ที่เป็นสไตล์ทรอปิคอล เพิ่มร่มเงา มีพื้นที่ส่วนกลางรองรับกิจกรรมของคนทุกช่วงวัยในแบบ universal design หรืออารยสถาปัตย์ รวมถึงการเพิ่มพื้นที่ pet zone ซึ่งถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่น่าจับตามอง


เพราะในปัจจุบันสังคมไทยยุคใหม่เป็นครอบครัวขนาดเล็ก และมีสัตว์เลี้ยงเป็นเสมือนหนึ่งในสมาชิกครอบครัวที่ให้ความสำคัญมากขึ้น รวมถึงยกระดับมาตรฐานด้านบริการ ทั้งหมดนี้บริษัทมั่นใจว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้อยู่อาศัยได้ตรงจุด และคาดว่าจะมีผลตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน