สิงห์ เอสเตท รีแบรนด์นิคมอุตสาหกรรมเกษตรสู่ เอส อ่างทอง มูลค่า 4 พันล้าน

สิงห์ เอสเตท

สิงห์ เอสเตท เดินหน้าสร้างนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง ใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จังหวัดอ่างทอง

วันที่ 23 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มสิงห์ เอสเตท ได้ซื้อหุ้น 100% จากบริษัท ปาร์ค อินดัสตรี จำกัด ของกลุ่มบุญรอด บริวเวอรี่ ในฐานะเจ้าของนิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ฟู้ดส์ วัลเลย์ เนื้อที่ 1,790 ไร่ จ.อ่างทอง หลังจากกระบวนการทางกฎหมายเสร็จเรียบร้อยในช่วงไตรมาส 3/64 มีการรีแบรนด์เป็น “นิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง”

นายกำจร ลีประพันธ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท S.IF. จำกัด บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท กล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง มีพื้นที่โครงการ 1,790 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย กม.63 ต.ไชยภูมิ อ. ไชโย จ.อ่างทอง พร้อมโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่เพียงพอและมั่นคง

โดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประเภทพลังงานความร้อนร่วม หรือ Co-Generation (เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันก๊าซและกังหันไอน้ำมาทำงานเป็นระบบร่วมกัน) จาก โรงไฟฟ้า SPP 3 โรง ขนาดกำลังการผลิตรวม 400 เมกกะวัตต์ พร้อมระบบจ่ายไฟฟ้า 22 KV โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาช่วยจัดการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ทำให้ผู้ประกอบการที่เข้ามาตั้งโรงงานในนิคมฯ มีต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำกว่าทั่วไป 3% มีผลิตน้ำประปา 9,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมพื้นที่อ่างเก็บน้ำ 384 ไร่ เทียบเท่าความจุ 6.12 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และจะมีการติดตั้ง Solar farm ลอยน้ำ ในอนาคต อีกทั้งรองรับกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งอนาคต ด้วยเครือข่ายโทรคมนาคม ระบบ 5G และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ครอบคลุมทุกพื้นที่โครงการ

สำหรับการจัดสรรพื้นที่ภายในนิคมอุตสาหกรรม แบ่งเป็น เขตอุตสาหกรรมอาหาร และเขตอุตสาหกรรมทั่วไป โดยช่วงที่ 1 พื้นที่ 364.7 ไร่ ช่วงที่ 2 พื้นที่ 662.3 ไร่ เขตธุรกิจพื้นที่พาณิชยกรรม 34 ไร่ พื้นที่สีเขียวและสันทนาการ 147 ไร่ โรงไฟฟ้า พื้นที่ 77.4 ไร่ และระบบสาธารณูปโภค รวม 215 ไร่ มีการสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วม (flood protection) ล้อมรอบโครงการ โดยจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2566


นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในการขอใบอนุญาตต่างๆ ผ่านศูนย์ Total solution Center การนำเงินตราต่างประเทศออกนอกราชอาณาจักร สิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)