Bubble & Seal “COVID Free” เริ่มต้นในโรงงาน

เส้นทางจาก bubble & seal สู่ COVID free setting คู่มืออยู่กับโควิด-19 ยุคใหม่อย่างสมาร์ทและปลอดภัย หรือ “เอสซีจีโมเดล Smart control & Living with COVID-19” ให้รายละเอียดที่จำเป็นไว้ครบถ้วน

เพราะตระหนักดีว่าโควิด ยังอยู่กับเราไปอีกนาน ดังนั้น จึงต้องปรับการดำเนินชีวิตให้ใกล้เคียงปกติที่สุด เพื่อสร้างสมดุลเศรษฐกิจและชีวิตปลอดภัย

 

นาทีนี้ คนไทยคุ้นเคยกับ bubble & seal หรือ BB & S ซึ่งหมายถึงการควบคุมคนในโรงงาน สำนักงาน แคมป์คนงาน เป้าหมายเพื่อป้องกันการปะปนกับคนภายนอก และทำโซนนิ่งคนกลุ่มย่อย ๆ

คำถามที่ถามบ่อย ๆ คือ เมื่อไหร่ถึงจะทำ bubble & seal

คำตอบมีเซอร์ไพรส์ เพราะเอสซีจีบอกว่าทำได้ตั้งแต่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อไปจนถึงมีผู้ติดเชื้อหมู่หรือคลัสเตอร์เกิดขึ้น

ดังนั้น แนวคิดหลักหรือคอนเซ็ปต์การทำ BB & S จึงมี 2 จุดประสงค์หลักคือ “ทำเพื่อการป้องกัน” กับ “ทำเพื่อการควบคุม” (ดูกราฟิกประกอบ)

คำถามยอดฮิตต่อมา ขนาดโรงงานใหญ่-เล็กแค่ไหนที่ต้องทำ BB & S แนวคำตอบคือ ทุกโรงงานที่มีคนจำนวนมากรวมตัวกัน เช่น ผู้ปฏิบัติงาน คู่ธุรกิจ ซึ่งพบมากในต่างประเทศที่ทำกันอย่างแพร่หลายทั้งในโรงงานและออฟฟิศ

กล่าวสำหรับเอสซีจีที่มีมากกว่า 300 บริษัท มีโรงงานคละไซซ์ตั้งแต่ขนาดกลาง-ขนาดใหญ่ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงเกิดขึ้นได้ด้วยการพัฒนาดิจิทัลเทคโนโลยี “SMS-security management system” ระบบฐานข้อมูลเดียวเชื่อมต่อทุกโรงงาน

โดย SMS เก็บข้อมูล 8 ด้าน ดังนี้ 1.face recognition ระบบจดจำใบหน้าในการผ่านเข้า-ออกโรงงาน พร้อมวัดอุณหภูมิร่างกาย และบันทึกการเข้า-ออกด้วยฐานข้อมูลส่วนกลาง

2.RFID-radio-frequency identification card การใช้บัตรลงทะเบียนเข้าพื้นที่ บันทึกพื้นฐานข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานและคู่ธุรกิจ

3.self declare ระบบการแจ้งหรือให้แสดงข้อมูลเพื่อความปลอดภัยก่อนเข้าพื้นที่ และยืนยันส่วนบุคคลรายวัน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุด เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยง

4.mask detector ระบบตรวจสอบการใส่หน้ากากของผู้ที่จะเข้าโรงงาน และแจ้งเตือนไม่ให้เข้าพื้นที่ หากไม่มีการสวมใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง

5.health pass เอกสารยืนยันความปลอดภัยเฉพาะบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว หรือคนที่ได้รับการรักษาจนหายป่วย และมีภูมิคุ้มกันในระดับปลอดภัย

6.vaccinated ฐานข้อมูลด้านการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและนำไปพัฒนาระบบ เชื่อมโยงการทำ health pass และจำกัดสิทธิการเข้า-ออกพื้นที่

7.factory visa เอกสารเพื่ออนุญาตให้คนที่มี health pass เข้ามาในโรงงานได้ ภายในเวลาที่กำหนดไว้ และต้องอยู่ภายใต้การรักษา sealed route อย่างเข้มงวด เมื่อครบกำหนดต้องทำการตรวจเชื้อ ATK/PCR อีกครั้งเพื่อต่ออายุการอนุญาตให้อยู่ในโรงงาน

และ 8.drive thru ระบบการจัดการรถขนส่งสินค้าและวัตถุดิบที่เข้า-ออกพื้นที่โรงงาน เพื่อลดการสัมผัสด้วยเอกสารและโอกาสการสัมผัสใกล้ชิด จำกัดพื้นที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการลงจากยานพาหนะ


ข้อดี คือ สามารถประหยัดเวลา แชร์และใช้ข้อมูลเดียวบนดิจิทัล และสามารถตรวจสอบและติดตามผู้ปฏิบัติงานย้อนหลัง