คมนาคม ปลดล็อกทุกโหมดเดินทาง ปรับเวลาให้บริการ เริ่มวันนี้ !

คมนาคม

กระทรวงคมนาคม ปลดล็อกทุกโหมดเดินทาง ขานรับมติ ศบค. ปรับเวลาให้บริการเป็น 23.00-03.00 น. เริ่มวันนี้ (16 ต.ค.)

วันที่ 16 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติปรับลดเวลาการห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในช่วงเวลากลางคืน หรือเคอร์ฟิว จากเดิม 22.00 น. ถึง 04.00 น. มาเป็น 23.00 น. ถึง 03.00 น. โดยให้เริ่มวันที่ 16 ตุลาคม 2564 นี้ นั้น หน่วยงานที่ให้บริการด้านขนส่งสาธารณะต่างขานรับในการปรับเวลาให้บริการ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการดังกล่าว

3 รถไฟฟ้าปรับเวลาเที่ยวสุดท้าย 23.00 น.

เริ่มที่ นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) กล่าวว่า ได้ปรับเวลาการให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ทั้งสายสุขุมวิท และสายสีลม รถไฟฟ้าสายสีทอง และรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที เพื่อปฏิบัติตามคำประกาศจากทางรัฐบาล โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2564 นี้ เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงโดยมีรายละเอียดดังนี้

  • รถไฟฟ้าบีทีเอส ขบวนสุดท้ายออกจากสถานีต้นทางเวลา 22.00 น.
  • รถไฟฟ้าสายสีทอง ขบวนสุดท้ายออกจากสถานีต้นทางเวลา 22.30 น.
  • รถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที ให้บริการคันสุดท้ายที่สถานีต้นทางเวลา 22.30 น.
  • ลานจอดแล้วจร ให้บริการจนถึงเวลา 23.00 น.

ด้านนายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) เปิดเผยว่า ทาง รฟฟท.ก็เปลี่ยนแปลงเวลาให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เป็นเวลา 05.30 – 23.00 น. ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการประกาศแจ้งเปลี่ยนแปลง โดยรถไฟขบวนสุดท้ายจะออกจากสถานีต้นทางคือ สถานีพญาไท และสถานีสุวรรณภูมิ เวลา 22.30 น. และจะถึงสถานีปลายทางเวลา 23.00 น.

ขณะที่นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. และ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT ปรับเวลาให้บริการดังนี้ รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) เวลา 06.00 – 23.00 น. และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) เวลา 05.30 – 23.00 น. (รถไฟขบวนสุดท้ายถึงสถานีปลายทางเวลา 23.00 น.) จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

ในส่วนของอาคารและลานจอดแล้วจรของ รฟม. จะเปลี่ยนแปลงเวลาให้บริการเป็นตั้งแต่เวลา 05.00 ถึง 23.00 น. เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาให้บริการของรถไฟฟ้า โดยปัจจุบัน รฟม. มีที่จอดรถในแนวสายทางรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน จำนวน 10 สถานี ประกอบด้วย 4 อาคาร และ 10 ลานจอดรถ ได้แก่

อาคารจอดแล้วจรสถานีลาดพร้าว สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สถานีหลักสอง (2 อาคาร) ลานจอดแล้วจรสถานีรัชดาภิเษก สถานีห้วยขวาง สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (2 ลาน) สถานีพระราม 9 สถานีเพชรบุรี สถานีสุขุมวิท สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (2 ลาน) และสถานีสามย่าน

ที่จอดรถในแนวสายทางรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จำนวน 4 สถานี ได้แก่ อาคารจอดแล้วจรสถานีคลองบางไผ่ สถานีสามแยกบางใหญ่ สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และสถานีแยกนนทบุรี 1 ที่จอดรถในแนวสายทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ จำนวน 1 สถานี ได้แก่ ลานจอดแล้วจรสถานีเคหะฯ และที่จอดรถในแนวสายทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต จำนวน 2 สถานี ได้แก่ อาคารจอดแล้วจรสถานีแยก คปอ. และสถานีคูคต

การทาง-ดอนเมืองโทลล์เวย์ ปรับเวลา

ขณะที่ทางด่วนและทางพิเศษ ก็มีการปรับเวลาให้บริการใหม่เช่นกัน โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ออกประกาศปรับเปลี่ยนเวลาจำกัดการให้บริการทางพิเศษทุกด่านฯ ทุกสายทาง เป็นระหว่างเวลา 23.00 – 03.00 น. ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2564 ต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

ด้าน บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ก็ประกาศปรับเปลี่ยนเวลาจำกัดการให้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทล์ลเวย์ ทุกด่าน เป็นระหว่างเวลา 23.00 – 03.00 น. ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2564 ต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

ขสมก.ปรับเวลาเดินรถเป็น 04.00-22.00 น. งดรถกะดึก

ปิดท้ายที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. เปิดเผยว่า ได้จัดแผนการเดินรถโดยสารให้สอดคล้องกับมติที่ประชุม ศบค. โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ให้บริการรถโดยสารประจำทางในทุกเส้นทาง ตามเวลาปกติ รถโดยสารคันแรกออกจากท่าต้นทาง เวลา 04.00 น. รถโดยสารคันสุดท้าย ออกจากท่าปลายทาง เวลา 22.00 น. หรือตามเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบการขนส่งฯ ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ยกเว้นรถโดยสารบริการตลอดคืน (รถกะสว่าง) ยังคงงดให้บริการ

2. จัดรถออกวิ่ง 100 % (2,886 คัน/วัน) หรือจัดรถออกวิ่งให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา โดยมีเที่ยววิ่งเฉลี่ย วันละประมาณ 25,000 เที่ยว

3. ขสมก.ยังคงดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อย่างเคร่งครัด โดยกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร, เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศ และการทำความสะอาดผ้าม่าน

พร้อมทั้งติดตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือบริเวณประตูทางขึ้น และจะติดตั้งป้ายข้อความ “เหลือรถอีก 2 คันสุดท้าย” “เหลือรถอีก 1 คันสุดท้าย” “รถคันสุดท้าย” บริเวณกระจกด้านหน้ารถโดยสารที่วิ่งให้บริการ 3 คันสุดท้ายในแต่ละวัน