FPT ปักหมุดหัวมุมสีลม-พระราม 4 ผุด “สีลมเอจ” ปั้นสังคมแซนด์บ็อกซ์แห่งใหม่

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) เดินหน้ารุกตลาดมิกซ์ยูสบนทำเลหัวมุมถนนสีลม-พระราม 4 เปิดตัวโครงการ “สีลมเอจ” มูลค่า 1,800 ล้านบาท เนรมิตอาคารเก่าสู่ความล้ำสมัย เจาะกลุ่ม Gen ใหม่ ธุรกิจ Start-Up และแพลตฟอร์มออนไลน์ สร้างแซนด์บ็อกซ์ใจกลางกรุงเทพฯ

วันที่ 19 ตุลาคม 2564 นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” กล่าวว่า FPT เล็งเห็นถึงศักยภาพของที่ตั้งโครงการที่อยู่หัวมุมถนนสีลม ซึ่งเป็นสุดยอดทำเลใจกลาง CBD เชื่อมต่อกับทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT

นอกจากนี้ ยังเคยเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯและเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำหลายแห่งในประเทศไทย ทำให้ถนนสีลมกลายเป็นหนึ่งในถนนเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ และเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันไม่มีแลนด์แบงก์มากพอเพื่อการพัฒนาโครงการใหม่ บริษัทฯจึงตัดสินใจเข้าลงทุนในทรัพย์สินนี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส สอดคล้องกับกลยุทธ์การสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่องค์กร

โดยสีลมเอจ นับเป็นโครงการ Re-development แห่งแรกของ FPT ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งและกระจายความเสี่ยงพร้อมเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แก่พอร์ตคอมเมอร์เชียล โดยบริษัทฯคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการนี้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีหน้า

สีลมเอจเป็นต้นแบบโครงการ Re-development ที่นำอาคารเก่ามาแปลงเป็นมิกซ์ยูสพันธุ์ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์แหวกแนว “The new sandbox community in CBD” ที่ปฎิวัติรูปแบบการพัฒนาอาคารแบบเดิม ๆ ด้วยการคิดนอกกรอบ เปิดตัวพื้นที่แซนด์บ็อกซ์บนสุดยอดทำเล ตอบโจทย์ความต้องการของคน Gen ใหม่ในยุคดิจิทัล เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก ผู้ประกอบการธุรกิจ Start-Up และแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านม เนื่องจากเหตุการณ์โควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไปจากเดิม การซื้อสินค้าและบริการออนไลน์กลายเป็นนิวนอร์ม

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการบนโลกออนไลน์เริ่มเห็นความจำเป็นในการขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าบนโลกออฟไลน์ ดังนั้นการมีออฟฟิศหรือร้านค้าบนทำเลใจกลางกรุงเทพฯที่เดินทางสะดวกจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยสร้างแต้มต่อในการแข่งขันธุรกิจ ด้วยความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล จึงเกิดแนวคิด “BE DIFFERENT. BE CONNECTED-วิถีแตกต่าง ที่จะเชื่อมโยงผู้คนในทุกมิติอย่างลงตัว” มีรายละเอียด ดังนี้

คอนเซ็ปต์ BE DIFFERENT 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.SPACE & CONTRACT AS A SERVICE ทำลายทุกขีดจำกัดของอาคารสำนักงานทั่วไป ด้วยข้อเสนอและบริการที่ปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานของแต่ละธุรกิจ

2.CREATE A SANDBOX PLATFORM TO UNLEASH THE MAXIMUM POTENTIAL สร้างแพลตฟอร์มแซนด์บ็อกซ์ปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดทางธุรกิจ

3.EXTENDED OPERATION HOURS FOR DIGITALIZING LIFE อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เช่าและผู้ใช้บริการในทุกช่วงเวลา ตอบโจทย์การทำงานยุคดิจิทัลที่ไม่หยุดนิ่ง

4.O2O2O READY รองรับทุกการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจได้อย่างคล่องตัว พร้อมสนับสนุนทุกบริษัทให้เติบโตผ่านการผสานธุรกิจจากออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์

คอนเซ็ปต์ BE CONNECTED อีก 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.CONQUER THE WORK-LIFE INTEGRATION เชื่อมรูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยพื้นที่ที่ตอบโจทย์ในทุกมิติตลอดวัน

2.EXTREMELY CONVENIENT LOCATION โครงการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็ว

3.OPEN TO CRYPTO & CASHLESS SOCIETY พร้อมเปิดรับชำระเงินดิจิทัลด้วยคริปโตฯ และการทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางออนไลน์

4.REDEFINE ENDLESS BUSINESS OPPORTUNITIES สร้างนิยามใหม่สู่โอกาสทางธุรกิจที่ไม่สิ้นสุด ปัจจุบันโครงการสีลมเอจได้เริ่มดำเนินการพัฒนาไปแล้วกว่า 65% ด้วยทีมออกแบบและทีมก่อสร้างที่มีคุณภาพ มั่นใจว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายน 2565 อย่างแน่นอน

รายละเอียดโครงการสีลมเอจ (Silom Edge) เจ้าของที่ดินคือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่ง FPT เช่าระยะยาว 30 ปี ตั้งอยู่บนพื้นที่ดินขนาด 2 ไร่ 2 งาน 71 ตารางวา พื้นที่โครงการ 50,000 ตารางเมตร มีพื้นที่ให้เช่า 22,000 ตารางเมตร จำนวน 24 ชั้น โดยชั้น 10-21 เป็นพื้นที่ออฟฟิศ ส่วนชั้นล่างเป็นรีเทล บนทำเลถนนสีลม-พระราม 4 เชื่อมตรงรถไฟฟ้า 2 สาย คือ BTS ศาลาแดง และ MRT สีลม

สำหรับอัตราค่าเช่าต้องเป็นราคาที่จับต้องได้ ถ้าเป็นออฟฟิศอยู่ที่ประมาณ 750-800 บาทต่อตารางเมตร ในอนาคตเมื่อสร้างเสร็จแล้วค่าเช่ารีเทลจะคิดเป็นบอกซ์ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการคำนวณต้นทุนได้ชัดเจน จึงไม่ได้คิดเป็นบาทต่อตารางเมตรเหมือนปกติ ซึ่งในส่วนของออฟฟิศปัจจุบันมีการพูดคุยและมีการสนใจเกือบ 30% ส่วนพื้นที่รีเทลจะเริ่มเปิดให้จองพื้นที่ประมาณปลายปี 2564 นี้ หรือต้นปี 2565

ทั้งนี้ ภายหลังการเปิดดำเนินการ สีลมเอจจะเข้ามาเติมเต็มรายได้ของอาคารโกลเด้นแลนด์ บิลดิ้ง ที่จะหมดสัญญากับผู้ให้เช่าในเดือนสิงหาคม ปี 2565 โดยมูลค่าปีหนึ่งอยู่ที่ประมาณเกือบ 300 ล้านบาท


“สำหรับการเปิดประเทศ 1 พ.ย. มองว่าในช่วงแรกความอัดอั้นที่อยากจะกลับมาใช้ชีวิตอาจทำให้ธุรกิจกลับมาบ้าง แต่ต้องดูในระยะยาว เพราะฉะนั้นการวางแผนธุรกิจคงต้องพิจารณาปัจจัยอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อ อัตราดอกเบี้ย และการเตรียมเงินทุน” นายธนพลกล่าว