“อาคม” แบ่งงาน “ไพรินทร์” ให้คุมฟื้นฟูการบินไทย-ร.ฟ.ท.-ขสมก. ลุยซื้อเมล์NGV เข็นไฮสปีด2สายเชื่อมอีอีซี-หัวหิน

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้แบ่งหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคมให้นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ กำกับดูแลพร้อมกับเร่งรัดโครงการในส่วนของทางบก ทางราง และทางน้ำ ประกอบด้วย 1.กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เรื่อง ปฏิรูปเส้นทางรถเมล์และปรับบทบาทกรมการขนส่งทางบกให้เป็นเรกูเลเตอร์

2.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เร่งรัดเรื่องการระดมทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) วงเงิน 44,819 ล้านบาท สร้างทางด่วน 2 สาย คือ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก กับทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ช่วง N2-N3

3.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.เร่งจัดซื้อรถเมล์ NGV ล็อตแรก 489 คัน วงเงิน 4,020 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายปี 2561 4.บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) 5.กรมเจ้าท่า (จท.) เร่งรัดการพัฒนาเรือคุรยส์ที่ จ.กระบี่และภูเก็ต รวมถึงพัฒนาเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่เชื่อมทะเลอ่าวไทยสำหรับรองรับรถยนต์ จากปัจจุบันรองรับได้เฉพาะผู้โดยสาร และให้เร่งสะสางปัญหา IUU

6.การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ให้เร่งลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 วงเงินกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

7.การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟท.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด โดยเร่งรัดการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา และรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน อีกทั้งให้เร่งรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 9 เส้นทางให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเซ็นสัญญาเฟสแรก 5 เส้นทางให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้

อีกทั้งให้ช่วยดูเรื่องแผนฟื้นฟู 3 หน่วยงาน ได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟฯและ ขสมก. ให้เป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.)

“โดยรวมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยังดูแลอยู่ แต่รัฐมนตรีช่วยจะมาช่วยแบ่งเบาภารกิจในการขับเคลื่อนงาน”

นายไพรินทร์กล่าวว่า นโยบายเร่งด่วนทำตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมอบหมายให้ พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเน้นย้ำให้ทำงานโดยคำนึ่งถึงความสุขและความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญสุด ขอให้รัฐมนตรีใหม่ใช้ปัญญาาและความอดทนเป็นแนวทางในการทำงาน

“เวลาของรัฐบาลเหลืออีก 1 ปีนับจากนี้ ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมทำงานไปได้มากแล้ว เรามาถึงเตรียมเตะลูกโทษ ไม่ต้องเตะแล้ว ให้ชู้ตลูกเข้าโกไปเลย ให้ประชาชนได้ใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ ให้ประเทศก้าวหน้าไปอีกขั้น ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญมากของกระทรวงคมนาคม ใน 3 เดือนนี้โครงการต่างๆ จะมีความก้าวหน้ามากขึ้นไปอีก ตอนนี้สถานการณ์เศรษฐกิจไทยเราอยู่ในช่วงฟื้นตัวขาขึ้น ทั้งจีดีพีก็ดี ในการแข่งขันของประเทศก็ดี ช่วงนี้เป็นจังหวะเหมาะสมมากจะออกแรงผลักดันโครงสร้างพื้นฐานออกไปให้ลุล่วงตามแผนที่วางไว้”