แลนดี้ โฮม ปลื้มปี’64 โกยยอด 2,500 ล้าน

แลนดี้ โฮมปลื้มปี’64 โกยยอด 2,500 ล้าน ปิ๊งไอเดียลูกค้า “รูดบัตรจองสร้างบ้านออนไลน์”

วันที่ 9 มีนาคม 2565 แลนดี้ โฮมตอกย้ำศูนย์รับสร้างบ้านอันดับ 1 เผยผลประกอบการปี 2564 โตเกินเป้า กวาดยอดขายรวม 2,500 ล้านบาท จากการเพิ่มช่องทางการขายบนออนไลน์ Google Meet มีผลกระตุ้นการตัดสินใจสร้างบ้าน ตั้งเป้าปี 2565 เป็นผู้นำด้าน E-commerce เปิดให้ลูกค้าสามารถจองสร้างบ้าน online พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษและขยายฐานลูกค้าใหม่กลุ่ม Green Living นวัตกรรมเพื่อคุณภาพการอยู่อาศัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2564 ที่ผ่านมาธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 แต่แลนดี้ โฮมสามารถเจาะกลุ่มตลาดบ้านหรูซึ่งโตสวนกระแส รายได้เติบโต 20% คิดเป็นมูลค่ายอดขาย 2,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 2,350 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนตามมูลค่าการปลูกสร้าง ดังนี้

บ้านหรูขนาดใหญ่แบรนด์ Landy Grand ราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป สัดส่วน 28%, บ้านขนาดกลางแบรนด์ Landy Home ราคา 5-10 ล้านบาท สัดส่วน 47% และบ้านหลังเล็กภายใต้แบรนด์ Trendy Home ราคา 2-5 ล้านบาท สัดส่วน 25%

“ความสำเร็จของผลประกอบการมาจากกลุ่มลูกค้าทราบข่าวการปรับราคาสร้างบ้านในปี 2564 ที่มีการปรับขึ้นเฉลี่ย 3-5% จากต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับราคาขึ้น ประกอบกับการจัดแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจจองสร้างบ้านในไตรมาส 3/64-4/64 ควบคู่กับการติดตามลูกค้าอย่างต่อเนื่อง บริษัทปรับปรุงพัฒนาแบบบ้านให้ตรงใจลูกค้ามากที่สุด และเพิ่มช่องทางในการพูดคุยกับทางลูกค้าบน Online ผ่านทาง Google Meet ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ทันทีไม่ต้องเข้ามาที่สาขา”

สำหรับปี 2565 แลนดี้ โฮมตั้งเป้ายอดขาย 2,750 ล้านบาท คาดว่าในครึ่งปีแรกจะสามารถปิดยอดขาย 1,200 ล้านบาท โดยมีจุดเน้นนำเสนอนโยบาย Go Green ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มตลาดบ้าน Green Living ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วยเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย อาทิ Solar Roof และ EV chargers เป็นต้น พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำด้าน E-commerce อย่างต่อเนื่อง

นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า ในยุคโควิด 2 ปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจไทยผันผวนและไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้ บริษัทจึงมีการปรับกลยุทธ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ทำธุรกิจด้วยความรวดเร็วและปรับตัวเร็วทันต่อสถานการณ์

บริษัทมีกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง ซึ่งพัฒนาและต่อยอดจาก Customer Insight เป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญสูงสุด รวมถึงมีแผนเชิงรุกในด้านการขายทุกช่องทางผ่าน Multi-Channel เพื่อตอบโจทย์คนอยากสร้างบ้านในยุคโควิด

สำหรับปี 2565 แลนดี้ โฮม เน้นสร้างกลยุทธ์การตลาดบนแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อสอดรับกับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าในปัจจุบันของแลนดี้ โฮม โดยลูกค้าสามารถเลือกสร้างบ้านและทำธุรกรรมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-commerce เน้นความสะดวกรวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ลูกค้าสามารถตัดสินใจจองสร้างบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยแลนดี้ โฮมจัดแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษให้ลูกค้าที่จองสร้างบ้านผ่าน E-commerce ทุกๆ เดือน

“แลนดี้ โฮม ถือเป็นเจ้าแรกในธุรกิจรับสร้างบ้านที่สามารถจองสร้างบ้านผ่านทาง E-commerce ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าสามารถรูดบัตรจองสร้างบ้าน online ผ่านเว็บไซต์ landyhome.co.th”

นอกจากนี้ ในปี 2565 มีการเปิดตัวแบบบ้าน Pool Villa Series ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ช่วงโควิด-19 สำหรับกลุ่มลูกค้าครอบครัวเริ่มต้นที่มีลูกเล็ก ไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้ แบบบ้านซีรี่ส์ใหม่จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุดเพราะสามารถเล่นน้ำในสระว่ายน้ำส่วนตัวได้

นายพานิช มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวถึงเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยของแลนดี้ โฮม ว่า แลนดี้ โฮมการสร้างบ้านบนที่ดินตัวเองในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการอยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้ อาทิ

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด CAP+ (แค็พพลัส) ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้าน ช่วยลดการสะสมของคาร์บอนไดออกไซด์กรองฝุ่น PM 2.5, ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ภายในห้อง ซึ่งบริษัทติดตั้งให้บ้านทุกหลังที่สร้างบ้านกับแลนดี้ โฮม ถือเป็นจุดขายที่มีผลตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า

แลนดี้ โฮม มีความร่วมมือกับ Co-Partner กับบริษัทต่างๆ เพื่อให้การสร้างบ้านกับเป็นแบบ One Stop Service รวมบริการต่างๆ ในการสร้างบ้านให้จบครบในที่เดียว เช่น Co-Partner กับบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน, บริษัทรับจัดสวน

บริษัทรับสร้างสระว่ายน้ำ, บริษัทติดตั้งลิฟต์ โดยพาร์ตเนอร์ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการ พร้อมรับส่วนลดและสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ได้เฉพาะลูกค้าแลนดี้ โฮมเท่านั้น


นอกจากนี้ บริษัทนำเสนอ Green Technology หรือเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมสำหรับการอยู่อาศัย อาทิ ลดการใช้พลังงานและทดแทนด้วยพลังงานสะอาด มีแผนร่วมมือกับพันธมิตรในการนำเสนอสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้า เช่น EV Charger, Solar Panel และระบบป้องกัน รวมถึงระบายความร้อนจากภายนอกเพื่อการใช้พลังงานที่ลดลง ทั้งหมดนี้เพื่อตอบโจทย์วิสัยทัศน์แลนดี้ โฮม ในการส่งมอบบ้านเพื่อการอยู่อาศัยที่มีความสุขอย่างยั่งยืน