เมตาเวิร์สกับวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ขานรับกันอย่างคับคั่ง
ล่าสุด “MQDC-บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ประกาศความร่วมมือกับเอคเซนเชอร์ (Accenture) บริษัทผู้ให้บริการด้านพัฒนาธุรกิจชั้นนำระดับโลก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
เป้าหมายเพื่อพัฒนา Metaverse ให้กับ MQDC ซึ่งเป็นโครงการที่จะมอบประสบการณ์เชื่อมต่อระหว่างโลกความจริงและโลกเสมือนที่นำมาซึ่งความสุขอันยั่งยืนสมบูรณ์แบบเหนือจินตนาการ
“วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC กล่าวว่า ธุรกิจ Metaverse จะทำให้ MQDC เป็นผู้สร้างประสบการณ์ใหม่ไร้ขีดจำกัดให้แก่ลูกค้าและผู้ใช้บริการ ตลอดจนพันธมิตรและผู้ที่สนใจเข้าร่วมในโลกแห่งนวัตกรรมใหม่
ในอนาคตโครงการเมตาเวิร์สของ MQDC นี้จะเชื่อมต่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล “ทรานส์ลูเซียเมตาเวิร์ส (Translucia Metaverse)” ซึ่งโครงการเมกะเมตาเวิร์สนี้ริเริ่มก่อตั้งและดำเนินการโดยบริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงและซีรีส์แอนิเมชั่นระดับโลก
“เราเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการทรานส์ลูเซีย เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาโลกเมตาเวิร์สของเราให้เป็นโลกใหม่ที่เป็นสังคมที่อบอุ่นและเปี่ยมสุขยั่งยืน” นายวิสิษฐ์กล่าว
คีย์แมนอีกราย “ภารุต เพ็ญพายัพ” ผู้อำนวยการโครงการเมตาเวิร์ส MQDC กล่าวว่า MQDC และเอคเซนเชอร์ ทำงานร่วมกันในการวางแผนออกแบบรูปแบบโครงการเมตาเวิร์สของ MQDC วิจัยตลาดความต้องการลูกค้าและผู้ใช้บริการ วางโครงร่างรูปแบบธุรกิจไปจนถึงการวางแนวทางการออกแบบประสบการณ์เหนือจินตนาการให้กับโครงการเมตาเวิร์สนี้
โดยแนวคิดโครงการแบ่งเป็น 3 ส่วน 1.การมอบประสบการณ์เหนือจินตนาการให้กับลูกค้าและผู้ใช้บริการในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ MQDC ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้บริการเดิมหรือลูกค้ารายใหม่
2.จะเป็นการพัฒนาพื้นที่ใหม่ให้กับคนที่มีความสนใจเข้าร่วมพัฒนาธุรกิจบนเมตาเวิร์ส และ 3.การสร้างพื้นที่ที่เชื่อมต่อระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนอย่างไร้ขีดจำกัด เพื่อให้ลูกค้าและบุคคลทั่วไปที่สนใจได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสัมผัสประสบการณ์แบบไฮบริดที่ยังไม่เคยมีที่ไหนในโลก
และ “ดิวีเยช วิทลานี่” กรรมการผู้จัดการใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทเอคเซนเชอร์กล่าวว่า เทคโนโลยีเว็บ 3.0 และเมตาเวิร์ส ให้โอกาสทางตลาดที่เหนือกว่าโอกาสทางเศรษฐกิจที่เกิดจากเทคโนโลยีเว็บ 2.0
“เราตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างมากที่ได้รับโอกาสมาร่วมขับเคลื่อนโครงการเมตาเวิร์สของ MQDC ให้เป็นจริง”
โมเดลธุรกิจเริ่มด้วยการก่อตั้งกลุ่มธุรกิจ Metaverse continuum ขึ้น ทำให้เอคเซนเชอร์มีบทบาทสำคัญในการกำหนดแผนงานและสนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ ให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงได้อย่างเต็มที่
“เราหวังว่าจะสามารถสนับสนุน MQDC ในการพัฒนาเมตาเวิร์สให้เป็นสังคมแห่งเศรษฐกิจยั่งยืนและเปี่ยมสุข ความร่วมมือครั้งนี้เป็นโครงการตัวอย่างชั้นเยี่ยมสำหรับวงการเมตาเวิร์สในการผสมผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรม สามารถสร้างคุณค่าเชิงธุรกิจและมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่ผู้ใช้บริการได้อย่างไร”
“ฮูซิน อดัม” กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจรีเทล เอคเซนเชอร์ ประเทศไทยกล่าวว่า การทำงานร่วมกันระหว่างเอคเซนเชอร์กับ MQDC จะช่วยขยายขอบเขตของโลกดิจิทัลให้กว้างไกลและนำผู้ใช้บริการไปสู่ประสบการณ์อันดื่มด่ำในสภาพแวดล้อมที่พร้อมพรั่งไปด้วยโลกกายภาพ โลกเสมือนจริง และแฟนตาซี
นอกเหนือจากโครงการ Translucia Metaverse แล้ว MQDC ยังได้ร่วมเป็น 1 ใน 11 พันธมิตรของที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอลในการร่วมออกยูทิลิตี้โทเค็น crown token ซึ่งเทรดบนแพลตฟอร์ม ZIPMEX เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
โดย crown token เป็นยูทิลิตี้โทเค็นที่ได้รับการพัฒนาบนระบบอีโคซิสเต็มครบวงจรด้วยความร่วมมือของพันธมิตรในไทยและนานาประเทศทั่วโลกจากหลากหลายวงการทั้งธุรกิจบันเทิง ฟินเทค อีสปอร์ต และสถาบันการศึกษา รวมทั้งยังเชื่อมโยงกับผลงานทรัพย์สินทางปัญญาที่พัฒนาโดยที แอนด์ บีฯ และพันธมิตรอีกด้วย
“MQDC ได้ดำเนินกลยุทธ์เพื่อพัฒนาโครงการต่าง ๆ ทั้งอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล โครงการล่าสุดระดับโลกอย่าง Metaverse เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามพันธกิจ For All Well-Being ที่ต้องการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับทุกชีวิตบนโลกใบนี้” คำกล่าวของ CEO MQDC