“บ้านและวัสดุออนไลน์ แฟร์ 2561” เปิดมิติใหม่งานอีเวนต์ธุรกิจรับสร้างบ้าน

ปีเก่าไปปีใหม่มา “สิทธิพร สุวรรณสุต”นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Builders Association : THBA) ระบุว่า สมาคมประเมินมูลค่ารวมตลาดบ้านสร้างเองทั่วประเทศปี 2560 อยู่ที่ 1.2-1.4 แสนล้านบาท กลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านคาดว่ามีส่วนแบ่งตลาด 10% หรือมีมูลค่าตลาดรวม 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท ขยายตัวใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า แนวโน้มปี 2561 คาดว่าบ้านสร้างเองทั่วประเทศเพิ่มเป็น 1.3-1.5 แสนล้านบาท ธุรกิจรับสร้างบ้านมีมาร์เก็ตแชร์เป็น 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท หรือมีอัตราเติบโต 8-10% โดยเป็นการเติบโตในแง่มูลค่าต่อหน่วยที่ปรับขึ้นตามต้นทุน

อย่างไรก็ตาม แม้ความต้องการสร้างบ้านบนที่ดินตนเองของผู้บริโภคในช่วงครึ่งหลังปี 2560 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่ตัวเลขที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4/60 มองว่าไม่สะท้อนรายได้ผู้ประกอบการสร้างบ้านในปีนี้มากนัก เนื่องจากการก่อสร้างและการจ้างงานส่วนใหญ่เริ่มลงมือในไตรมาส 1/61

“ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศในปี”60 ปรับตัวดีขึ้น จีดีพีคาดว่าเติบโตได้ถึง 3.9-4% ดีกว่าที่ประเมินกันไว้ ในขณะที่ผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านเองเริ่มปรับตัวและคลายความกังวลกับทิศทางเศรษฐกิจ สะท้อนได้จากการขอสินเชื่อปลูกสร้างบ้านเริ่มฟื้นตัวหลังจากก่อนหน้านี้ซบเซามาระยะหนึ่ง คาดว่าขยายตัวต่อเนื่องถึงปีหน้า ภายใต้เงื่อนไขธนาคารคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำไว้ได้ต่อเนื่อง”

สำหรับข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคสร้างบ้านเอง พบว่า ผู้บริโภคปรับตัวเข้าหาเทรนด์ 4.0 มากขึ้น โดยมีความต้องการเฉพาะเจาะจงมากกว่าในอดีต ทั้งประโยชน์ใช้สอยและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง สนใจและต้องการนวัตกรรมการก่อสร้าง วัสดุและอุปกรณ์ใหม่ ๆ การปรับตัวรองรับของผู้ประกอบการมีหลายรูปแบบ ทั้งการนำวัสดุทดแทนมาใช้ วัสดุประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นแผงโซลาร์เซลล์ อุปกรณ์สำหรับผู้สูงวัยและดูแลสุขภาพ อุปกรณ์ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติ ฯลฯ

ขณะเดียวกันในด้านกำลังซื้อพบว่า ผู้บริโภคที่สร้างบ้านด้วยเงินออมหรือเงินสด ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักธุรกิจ ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ เช่น แพทย์ วิศวกร นักวิเคราะห์การเงิน ผู้บริหารระดับกลางขึ้นไป กลุ่มเอสเอ็มอี ฯลฯ ซึ่งกำลังซื้อชะลอตัวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้น แนวโน้มปี 2561 หากรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อกลุ่มนี้ก็น่าจะกลับมาอีกครั้ง

สำหรับภาวะการแข่งขันพบว่า ปี”60 มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง ส่วนใหญ่มีการใช้กลยุทธ์ตั้งราคาขาย (price list) ในระดับสูง จากนั้นนำมาเป็นเงื่อนไขหรือทำเป็นข้อเสนอในการจัดโปรโมชั่นลดราคา 15-30% ควบคู่กับกลยุทธ์การแข่งขันของผู้ประกอบการรายเล็กที่เน้นทำสงครามราคา โดยตั้งราคาสร้างบ้านต่ำ ๆ แล้วไปถัวเฉลี่ยต้นทุนด้วยการลดสเป็กวัสดุ ในกรณีที่ลูกค้าต้องการปรับสเป็กวัสดุก็ต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย ทำให้ราคาสุดท้ายใกล้เคียงกับผู้ประกอบการรายใหญ่ในวงการ

ทั้งนี้ เรื่องใหม่ในปี 2561 THBA ร่วมกับสมาชิกแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ทั่วประเทศ เตรียมจัดงานมหกรรมบ้านสร้างเองบนออนไลน์ ชื่องาน “บ้านและวัสดุออนไลน์แฟร์ 2561” ภายในเดือนมีนาคม ซึ่งยังไม่เคยมีการอีเวนต์ออนไลน์รูปแบบนี้มาก่อน จึงถือเป็นมิติใหม่วงการแฟร์ของธุรกิจรับสร้างบ้าน

“วัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้เพื่อรองรับลูกค้ายุคเศรษฐกิจ 4.0 โดยเปิดกว้างให้มีการออกบูทได้ ทั้งผู้ประกอบการในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพราะการตลาดออนไลน์สื่อสารกับผู้บริโภคได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ช่วยผู้ประกอบการลดค่าการตลาดลง โดยสมาคมมั่นใจว่า ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ต่างกับการออกบูทงานแสดงสินค้าทั่วไป”