‘ม.เกษตร’ เปิดหลักสูตร KU CARE ครั้งแรกของประเทศ อบรมผู้นำองค์กรรัฐ-เอกชน สู่ธุรกิจยั่งยืน ภายใต้แนวคิด BCG- SDGs

ม.เกษตร

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ที่ห้องประชุมชั้น 6 อาคาร 4 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ผศ.ดร.กมลพรรณ แสงมหาชัย หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางธุรกิจ ภาควิชาการจัดการเทคโนโลยีและการปฏิบัติการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะผู้อำนวยการหลักสูตร ประกาศนียบัตรผู้นําระดับสูงด้านธุรกิจที่ยั่งยืน KU Change Agent Readiness Executive Program หรือ KU CARE  ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รศ.ดร.ศศิวิมล มีอำพล คณบดีคณะบริหารธุรกิจ ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และประธานที่ปรึกษาหลักสูตรฯ และผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมสีเขียวของกระทรวงอุตสาหกรรม และ คุณชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ นายกสมาคมศิษย์เก่าคณะบริหารธุรกิจ ในฐานะผู้ร่วมจัดหลักสูตรฯ ร่วมกันแถลงเปิดตัวโครงการหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้นําระดับสูงด้านธุรกิจที่ยั่งยืน KU Change Agent Readiness Executive Program หรือ KU CARE

โดยโครงการหลักสูตร KU CARE เปิดให้ผู้นำประเทศ ผู้นำองค์กรภาครัฐและเอกชน ที่ทำหน้าที่กำหนดวิสัยทัศน์องค์กร มาร่วมอบรมเพื่อกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด Bio-Circular-Green หรือ BCG ให้สอดคล้องกับภารกิจเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับพันธสัญญาหรือความยั่งยืน Sustainable Development Goals หรือ SDGs คือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ของสหประชาชาติ

ผศ.ดร.กมลพรรณ แสงมหาชัย กล่าวว่า การสร้างสรรค์หลักสูตรสำหรับผู้บริหารระดับสูงมาจากความท้าทายของโลกในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยผู้นำองค์กรต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง โดยหลักสูตร KU CARE จะมีวิทยากรระดับประเทศที่เป็นที่ยอมรับในระดับชาติและต่างประเทศมาร่วมให้ความรู้ในการยกระดับธุรกิจชีวภาพ (Bio-based Model) ให้เป็นธุรกิจหมุนเวียน (Circular Model) เพื่อทำให้ประเทศพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจสีเขียวอย่างแท้จริง

“หลักสูตรนี้เน้นการสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลง เราไม่เปลี่ยนไม่ได้แล้วเพราะเกิดวิกฤตค่อนข้างเยอะ จุดเด่นของหลักสูตรคือสร้างการเปลี่ยนแปลงโดยเริ่มจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรก่อน ถ้าผู้บริหารระดับสูงเปลี่ยนได้ เชื่อว่าทั้งองค์กรมีโอกาสที่จะเปลี่ยน โดยรูปแบบของหลักสูตรเรียนตามประสบการณ์ ให้วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับท็อปของประเทศ มาแชร์ประสบการณ์ร่วมกันในเรื่องความยั่งยืน การทำธุรกิจที่เป็นในรูปแบบรักษ์โลก โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับท็อปของไทยและแวดวงธุรกิจ อาทิ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงศ์ กิตยารักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร  ประธานกรรมการและกรรมการอิสระ GPSC และผู้บริหารระดับสูงจากหลายองค์กรที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับ

“อีกเรื่องที่เป็นหลักของหลักสูตร เน้นเรื่องการมองภาพอนาคตจะเกิดวิกฤตหรือปัญหาอะไรขึ้นบ้าง เราจะได้แลกเปลี่ยนเพื่อคิดว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ตรงนี้เป็นการเรียนในแนวใหม่ นอกจากนี้มีกิจกรรมหลากหลายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและเชื่อว่าผู้บริหารทุกท่านจะสนใจและทำได้แน่นอน” ผศ.ดร.กมลพรรณกล่าว และว่า

สำหรับคุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรม เป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ถ้าเป็นหน่วยงานภาครัฐ ระดับรองอธิบดี ขึ้นไป และภาคเอกชนผู้นำรุ่นใหม่มี อายุ 40 ปีขึ้นไป เป็นหลักสูตรที่อยากให้ทุกคนมาช่วยกันคิดสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประเทศและโลกใบนี้ แต่ละรุ่นรับ 80-100 คน ระยะเวลาในการอบรม ประมาณ 3 เดือน เริ่มหลังสงกรานต์ 2566 ถึงปลาย ก.ค. 2566 เรียนทุกวันศุกร์ช่วงบ่าย ที่สโมสรราชพฤกษ์ ค่าบำรุงหลักสูตรท่านละ 195,000 บาท ถ้าสมัครก่อนสิ้นเดือน ก.พ. 2566 ลดราคา 15% เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทางเว็บไซต์ KUCARE.INFO และเฟซบุ๊ก KUCARE

ด้าน ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ กล่าวว่า หลักสูตรนี้ถือว่าเป็นหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงครั้งแรกของ ม.เกษตรศาสตร์ ที่เชื่อมโยงหลักการบริหารและการดำเนินธุรกิจเข้ากับการเป็น ม.เกษตรศาสตร์ โดย ม.เกษตรศาสตร์พูดถึงความยั่งยืนมานานแล้ว ปัจจุบันเราใช้คำว่าเกษตรศาสตร์สร้างสรรค์ศาสตร์แห่งแผ่นดินสู่สากลเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนอยู่ในวิสัยทัศน์ของเรา เราเน้นเรื่องการเกษตร ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม

“ตอนนี้พูดถึงความยั่งยืนระดับโลก เราจึงถอดมาเป็นการใช้งาน ปัจจุบัน ม.เกษตรศาสตร์ มีวิชาที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนในทุกสาขาวิชา มีวิทยาลัยบูรณาการศาสตร์ เราวัดเรื่อง SDGs ในระดับมหาวิทยาลัย พบว่าเราอยู่ในระดับต้น ๆ ทางด้าน SDGs ของโลกก็ว่าได้ Green University ซึ่งเกี่ยวข้องกับความยั่งยืนเราอยู่ในอันดับ 1 ของประเทศ เราพยายามปลูกฝังนักศึกษาในเรื่องนี้ตลอดเวลา เรามีรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตและพัฒนาความยั่งยืนโดยเฉพาะ มาทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง เราเป็นหลักในการร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ทำเรื่องความยั่งยืน ม.เกษตรศาสตร์มีนิสิต 70,000 คน ที่อนาคตจะเป็นผู้นำขององค์กรต่าง ๆ เป็นเจ้าของกิจการ เป็นผู้นำภาครัฐและเอกชน เพราะฉะนั้นในมหาวิทยาลัยผมจะสร้างบรรยากาศของความยั่งยืนในทุกมิติ ผมต้องเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง

“ม.เกษตรศาสตร์ กำลังทำเรื่องการพลิกโฉมการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ เรื่อง อาทิ การใช้นวัตกรรมมายกระดับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ BCG ให้เข้มแข็งขึ้น หลักสูตรนี้ถ้าเปิดเมื่อไหร่ อยากให้ทุกคนมาเรียนรู้การพลิกโฉมการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนของประเทศ ผมยินดีสนับสนุนและคิดว่าจะส่งรองอธิการบดีมาเรียน 1 คน” อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าว

อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวต่อว่า ถ้าโฟกัสเรื่อง SDGs และ BCG หลักสูตร KU CARE เป็นหลักสูตรแรกที่จะพัฒนาผู้นำระดับสูงเพื่อให้เข้าใจเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง เราเป็นมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นมาก ๆ ด้าน BCG การเกษตร อาหาร ชีวภาพ และสิ่งแวดล้อม เมื่อผู้นำมาอบรมในหลักสูตรนี้เป้าหมายการเปลี่ยนแปลงเขาต้องกลับไปทำในองค์กรตัวเองให้ยั่งยืน เป็น BCG ก่อน และเป็นผู้นำการถ่ายทอด ภาคเอกชน ภาครัฐ NGO ต่อไปประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เข้มแข็งในด้านนี้ในอนาคต โดยหลักสูตรนี้จะมีรุ่นต่อ ๆ ไป

“ผมคิดว่าเราต้องเป็นผู้นำระดับโลก แทนที่จะอบรมในประเทศเท่านั้น ต่อไปเราจะต้องเป็นหนึ่งที่เป็นประเทศหลักในด้านนี้ เรามีชื่อเสียงด้านนี้ และเชิญนานาชาติมาอบรมกับเรา ที่ผ่านมานานาชาติหรือระดับโลกยังไม่มีการจัดอบรมหลักสูตรแบบนี้ ผมว่าน่าจะเป็นหลักสูตรที่โดดเด่นของโลก ถ้าเราทำเป็นภาษาอังกฤษและถ่ายทอด เพราะทุกคนอยากเรียนรู้เรื่องนี้ และประเทศไทยก็โดดเด่นด้านนี้ เพราะเรามีฐานจากการเกษตรชีวภาพ เราต่อยอดด้านนี้ทำให้เกิดความยั่งยืน รวมถึงโครงการของในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็โดดเด่น แม้แต่ SDGs ฐานส่วนหนึ่งก็มาจากประเทศไทย อาทิ เศรษฐกิจพอเพียง เรื่องความยั่งยืนที่เราใช้กันอยู่ เราจะต้องสร้างเรื่องนี้ให้มีอิมแพคต่อโลกมากขึ้น

“สถานการณ์ปัจจุบันธุรกิจหรือสินค้าส่งออก ถ้าเราไม่ทำให้เป็นธุรกิจสีเขียว หลายประเทศจะปิดกั้น อาทิ อเมริกา ยุโรป อย่างประมงป่าไม้ถ้าใช้ทรัพยากรไม่ยั่งยืน เขาก็ปิดกั้นเรา หรืออย่างเกษตรถ้าเราทำให้โลกร้อนมากๆ ก็อาจทำให้ถูกแบนได้ในอนาคต กลายเป็นการกีดกันทางการค้าซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ เราจึงต้องเรียนรู้และยกระดับสินค้าให้มีมูลค่าสูงขึ้น เพราะฉะนั้นองค์กรใหญ่ของไทยต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน

“เมื่อเช้าผมลงนามความร่วมมือร่วมกับ 32 บริษัทระดับโลก เรื่องทำบริษัทให้กลายเป็น Circular Economy Company หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน ร่วมกับสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ทุนวิจัยจากกระทรวงวิทย์ฯ ทำคู่มือการใช้ประโยชน์เรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน คิดว่าเดือน ส.ค.66 จะได้คู่มือที่เกิดจาก 32 บริษัท เอามาใช้ได้จริง โดยจะพาหลักสูตร KU CARE ไปดูงานด้วย นอกจากนี้จะต้องมีเวิร์กชอป เอามาแชร์และเป็นโมเดลต้นแบบ

“ทั้งนี้องค์กรที่อยากเน้นให้มาเรียนหลักสูตรนี้ คือ 1.ภาคธุรกิจ ชูธงว่าประเทศไทยมีสินค้าที่เป็น BCG เน้นความยั่งยืน และเพิ่มมูลค่า 2.สถาบันการศึกษา สอนคนให้เข้าใจ เรื่อง SDGs และ BCG และ 3.ผู้กำหนดนโยบาย หน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาท อาทิ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม มาเรียนรู้ว่าเอกชนจะทำได้ไหม หรือทำไม่ได้ตรงไหน เพราะการออกนโยบายควรรู้ว่าเอกชนทำได้หรือไม่ได้ตรงไหน ทั้งนี้หากทำองค์กรให้เป็น BCG ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คนไทยไม่มีความเหลื่อมล้ำ มีการศึกษาดี เท่าเทียม อยู่ดีกินดีสมบูรณ์แบบ และทำให้โลกเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีปัญหามลภาวะ”อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กล่าว

ส่วน รศ.ดร.ศศิวิมล มีอำพล กล่าวว่า แนวคิดเรื่องการบริหารองค์กรธุรกิจในอนาคต เน้นให้ความสำคัญกับพันธสัญญาด้านการไม่เพิ่มผลกระทบทางด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศคู่ค้า ดังนั้นผู้บริหารองค์กรที่ทำธุรกิจกับต่างประเทศ ต้องเน้นการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจยั่งยืน ม.เกษตรศาสตร์ เราลงไปถึงชุมชน เป็นจุดเริ่มต้นที่เราสามารถดึงเข้ามาเพื่อทำให้ BCGประสบความสำเร็จ เพราะเราเป็นชุมชนที่มารวมกันจริง ๆ

“การทำธุรกิจทุกวันนี้ไม่ได้อยู่ที่กำไรสูงสุดเหมือนในอดีต แต่วันนี้ต้องทำอะไรคืนให้กับชุมชนและสังคม เป็นสิ่งที่ควบคู่กับการทำให้ธุรกิจอยู่รอด ธุรกิจต้องปรับตัวเองให้ได้ รวมถึงผู้นำของภาครัฐต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย หลักสูตร KU CARE สร้างขึ้นมาสำหรับผู้นำองค์กรเอกชนและผู้นำรัฐบาล เพราะฉะนั้นเราต้องบริหารให้เกิดความยั่งยืนลงไปสู่ชุมชน ให้ชุมชนอยู่ได้ และให้ชุมชนสร้างความเข้มแข็งให้กับรากหญ้าของสังคม เชื่อว่าหลักสูตรนี้จะหล่อหลอมแลกเปลี่ยน นำ BCG ไปสู่การปฏิบัติ” รศ.ดร.ศศิวิมลกล่าว

ด้าน ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี กล่าวว่า การบริหารธุรกิจอุตสาหกรรมในวันนี้ไม่ได้เน้นแค่ 4 เรื่อง คือ  ต้นทุน คุณภาพ การบริการ และความรวดเร็ว แต่ต้องมีเรื่อง นวัตกรรม เทคโนโลยี ความรับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาที่ยั่งยืนเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วย

“วันนี้เราอยู่ภายใต้ความผันผวนความแปรปรวน ถูกกระแสกดดันจากการเปลี่ยนแปลงจากสภาพภูมิอากาศ หลักสูตรนี้สร้างมาเพื่อเปลี่ยนแปลงองค์กรไปสู่ความยั่งยืน  ประกอบกิจการยั่งยืนเป็นร้อยปี อยู่ยงคงกระพัน เราเป็นประเทศเกษตรกรรม มีความสามารถด้านเศรษฐกิจชีวภาพ มากที่สุด และเศรษฐกิจหมุนเวียนก็สำคัญ จะทำไงให้อุตสาหกรรมมีของเสียน้อยที่สุด ได้ประโยชน์สูงสุด เอามาหมุนเวียนใช้ และ เศรษฐกิจสีเขียว มุ่งไปสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ผู้นำนโยบายเรื่องของ BCG เป็นเรื่องเหมาะสมที่ ม.เกษตรศาสตร์ จะพัฒนาสิ่งต่างๆเหล่านี้ เรายังไม่มีผู้นำที่จับต้องเรื่อง BCG อย่างแท้จริง และมาถ่ายทอดเป็นระบบได้ วันนี้กระแสโลกกดดันเราในการขายสินค้าที่ไม่ผ่านกระบวนการรับรองความยั่งยืนหรือกระบวนการสีเขียว ขายได้ยากขึ้น ดังนั้นในหลักสูตร KU CARE จะเน้นหลักสูตรที่ตกผลึกจริงๆ เชิญวิทยากรที่มีประสบการณ์  นอกจาก BCG และ SDGs แล้ว ยังมี ESG คือ  Environment, Social, และ Governance เป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน รวมถึง DJSI คือ ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices) และ COP 27 หรือ การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นกระบวนการซึ่งมีผลต่อกระบวนการผลิตของเรา มีผลต่อสินค้าและบริการที่เราจะขายต่อไป” ดร.วิฑูรย์ กล่าว

ขณะที่ นางชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนจะเกิดผลกระทบอะไรกับสิ่งแวดล้อมที่ตามมา จากเดิมคิดว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว ดีแล้ว พอเวลาผ่านไปโลกร้อนขึ้น สิ่งที่เราทำไม่ถูก เกิดมลพิษ ทั้งหมดต้องเปลี่ยนให้กลายเป็นสีเขียว

“เรื่องความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้อย่างไร จะเกิดได้ต่อเมื่อคุณเป็นผู้รอดเท่านั้น ทำให้เกิดเป็นสีเขียว ในการทำสีต่างๆให้กลายเป็นสีเขียว ต้องทำอุตสาหกรรมทั้งประเทศ ทั้งโลก ต้องพยายามไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หรือทิ้งไว้ข้างหลังน้อยที่สุด แต่ในกระบวนการถามว่าเราจะทำได้อย่างไร สิ่งที่เราคิดได้เอามาบรรจุในหลักสูตร KU CARE

“หลายคนได้เรียนรู้จากโลกออนไลน์ แต่ยังไม่เพียงพอในการทำธุรกิจ การที่คุณเอาตัวเองมาอยู่ในหลักสูตรนี้ แล้วเจอคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน เท่ากับว่าอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่จะมีเพื่อนฝูงเข้ามาช่วยเหลือ และนำพาในฐานะปัจเจกบุคคลหรือในฐานะบริษัทองค์กร เข้าไปเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสีเขียวได้ จริงๆ BCG เกี่ยวกับเรื่องความยั่งยืน แทบจะเป็นเนื้อหาใหม่ หลักสูตรใหม่ ม.เกษตรศาสตร์ เป็นที่แรก ๆ ที่จัด และการันตีได้ว่าเป็นเนื้อหาที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน เหมาะกับผู้นำองค์กรทุกท่าน ทั้งภาครัฐและเอกชน” นางชนาพรรณกล่าว

สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและสมัครเรียนหลักสูตร KU CARE ได้ทางเว็บไซต์ KUCARE.INFO และเฟซบุ๊ก KU CARE