
เรามาเรียนรู้เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เคยเกิดและรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไปพร้อมกันเลยดีกว่า https://thaiseismic.com/ ได้สรุปข้อมูลเด็ดมาให้คุณเรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวอาจไม่ใช่สิ่งที่พวกเราพบเจอกันจนคุ้นเคย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในแต่ละครั้งที่มีโอกาสได้ประสบเหตุการณ์นี้กันด้วยตัวเองแล้วถือเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างความวิตกกังวลและผลกระทบกับธรรมชาติส่วนอื่น ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว และเชื่อว่าหลายคนคงอยากจะรู้ว่าแล้วภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวที่เคยเกิดแล้วรุนแรงที่สุดในโลกนั้นเป็นอย่างไรและเหตุการณ์นั้นสร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลกเราอย่างไรบ้าง วันนี้ https://thaiseismic.com/ ได้ทำการเก็บข้อมูลเรื่องนี้มาฝากคุณกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
- เปิดค่าตอบแทน “ผู้บริหาร” ยักษ์ บจ. BBL จ่ายพันล้านต่อปี ทิ้งห่างคู่แข่ง
ความเป็นมาของเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในโลก
เราต้องขอเริ่มต้นด้วยการเล่าให้คุณสบายใจกันก่อนว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในโลกครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกว่า 3,800 ปีที่แล้ว ไม่ใช่เหตุการณ์ที่พึ่งจะเกิดขึ้นแต่อย่างใด เมื่อรู้แบบนี้แล้วเราลองมาดูเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติธรรมชาติครั้งนี้กันเลย
เหตุการณ์ในครั้งนี้ทาง https://thaiseismic.com/ พบข้อมูลว่าเกิดขึ้นทางชายฝั่งตอนเหนือของประเทศชิลี ซึ่งเป็นการค้นพบข้อมูลจากเหล่านักวิทยาศาสตร์ของชิลีและอีกหลากหลายประเทศในยุโรปเพื่อที่จะศึกษาความเป็นมาเป็นไปแล้วนำเอาเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นมาเป็นแนวทางป้องกันสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อให้มนุษย์เราใช้ชีวิตกันได้อย่างปลอดภัยและเข้าใจธรรมชาติกันเพิ่มมากขึ้น
เหตุการณ์เมื่อ 3,800 ปีที่ผ่านมานั้นได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากถึง 9.5 ริตเตอร์ ความรุนแรงขนาดนี้และอยู่ใกล้กับชายฝั่งทำให้เกิดภัยธรรมชาติรุนแรงอย่างสึนามิขึ้น โดยคลื่นจากทะเลสูงกว่า 20 เมตรเทียบให้เห็นภาพมากขึ้นก็สูงพอ ๆ กับตึกสูง 6-7 ชั้นเลยทีเดียว และในส่วนของความไกลที่คลื่นลูกนี้สามารถทำลายล้างได้ก็ไปได้ไกลจนถึงฝั่งตะวันออกของประเทศนิวซีแลนด์ นับเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรเลยทีเดียว
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งที่รุนแรงที่สุดในโลก
เมื่อเกิดผลกระทบในวงกว้างมากขนาดนี้เชื่อว่าทุกคนคงอยากรู้แล้วว่าเหตุการณ์หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นอย่างไรต่อ โดยทาง https://thaiseismic.com/ ค้นพบข้อมูลว่าความเสียหายเหล่านี้ทำให้พื้นที่เกิดเหตุไม่มีคนใช้เป็นถิ่นฐานในการอยู่อาศัยยาวนานกว่า 1,000 ปีเลยทีเดียว และยังเป็นผลกระทบมาถึงเรื่องของความขัดแย้งทางสังคมที่เกิดขึ้นในเหล่าชุมชนใกล้เคียง ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่ในแถบของทะเลทรายอาตากามานั่นเอง
โดยก่อนที่จะมีการค้นพบเหตุแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมาตั้งแต่สมัยโบราณในครั้งนี้ก็มีการบันทึกเอาไว้ว่าในช่วงปี 1960 ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ในลักษณ์นี้ด้วยความแรง 9.4 ริตเตอร์ ที่เมืองวัลดิเวีย ซึ่งเป็นเมืองในตอนกลางของประเทศชิลี และส่งผลกระทบไปทั่วมหาสมุทรแปซิฟิกจนมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้มากกว่า 6,000 คน และเมื่อเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงมากขนาดนี้ขึ้นจึงทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์พยายามหาที่มาและความเป็นไปได้ต่าง ๆ จนค้นพบเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในโลกที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วเมื่อ 3,800 ปีก่อนอย่างที่เราได้เล่าให้คุณได้รับทราบกันไปนั่นเอง
เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในโลกเกิดจากอะไร
เมื่อทำการศึกษาย้อนเวลาไปจนพบเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในโลกกันได้แล้วแน่นอนว่าเหล่านักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบด้วยว่าปัจจัยไหนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขนาดนี้ขึ้นกับพื้นโลกของเราได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นเหตุผลที่น่าสนใจและยังสามารถนำมาศึกษาลักษณะทางภูมิศาสตร์ของโลกเรากันต่อได้อีกด้วย โดยคุณสามารถที่จะเข้ามาสนุกกับเนื้อหาเหล่านี้กันได้ที่ https://thaiseismic.com/ ต่อได้ แต่ตอนนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากอะไรกันแน่
ผลการศึกษาครั้งนี้ได้รับการตีพิม์เอาไว้ในวารสารอย่าง Science Advances พร้อมทั้งระบุและนิยามถึงชื่อของเหตุการณ์นี้เอาไว้ว่าเป็นเหตุการณ์ธรณีพิโรธในชนิดที่เรียกกันว่าเมกะทรัสต์ (Megathrust Earthquake) โดยแผ่นดินไหวแบบนี้จะรุนแรงมากที่สุดอย่างไม่มีชนิดไหนเทียบติดและแน่นอนว่าแค่เห็นชื่อประเภทของมันเราก็พอจะรู้แล้วว่าใครได้เจอก็คงจะต้องเกิดความเสียหายอย่างรุนแรงขึ้นแน่นอน
เหตุผลที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงมากที่สุดขนาดนี้ขึ้นมาได้ก็เป็นเพราะว่ามีการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลก ทำให้มีบางส่วนเข้าไปอยู่ใต้แผ่นเปลือกโลกอีกแผ่น เมื่อรู้แบบนี้แล้วลองจินตนาการตามการค่อย ๆ เคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ของแผ่นเปลือกโลกทั้งสองแผ่นแบบนี้ก็พอจะคาดเดาได้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นว่าจะเป็นวงกว้างมากขนาดไหนกันแล้ว และสรุปผลลัพธ์ของความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ก็ทำให้โลกของเราเกิดรอยเลื่อนยาวกว่า 1,000 กิโลเมตรขึ้น และรอยเลื่อนเหล่านี้ก็ได้ทำการปลดปล่อยแรงสั่นสะเทือนออกมาในระดับที่มากที่สุดเท่าที่จะปล่อยออกมาได้
หลังจากทุกอย่างผ่านพ้นไป แผ่นดินหยุดเคลื่อนไหวสร้างความเสียหาย สิ่งที่หลงเหลืออยู่จากเหตุการณ์ณืนี้ก็คือ ตะกอนดิน หิน และบรรดาเม็ดทรายจากท้องทะเลกลับไปอยู่บนบกแทนที่จะได้อยู่ในน้ำเหมือนเคย พ่วงไปถึงเหล่าไอโซโทปกัมมันตรังสีคาร์บอน-14 ซากพืช ซากสัตว์ต่าง ๆ ถูกพัดพาไปไกลจากจุดที่คาดว่าจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก กำแพงหินเก่าแก่มีร่องรอยล้มพังตามทิศทางของคลื่น และเป็นที่มาของความขัดแย้งทางสังคม เพราะกลุ่มชนเผ่าทั้งหลายที่ได้รับผลกระทบน่าจะมีความขัดแย้งกันในเรื่องของการแย่งทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่อย่างจำกัดนั่นเอง
ความรุนแรงของแผ่นดินไหวแบ่งออกเป็นกี่ระดับ
เชื่อว่าสภาพภูมิประเทศของไทยเราน่าจะไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงเท่าเหตุการณ์ที่เราเล่าไปอย่างแน่นอน แต่เราลองมาหาความรู้เพิ่มเติมกันดีกว่าว่าจริง ๆ แล้วเหตุการณ์แผ่นดินไหวแบ่งออกเป็นกี่ระดับเพื่ออย่างน้อยเราจะสามารถเข้าใจถึงสภาพของสถานการณ์หากเกิดภัยธรรมชาติเหล่านี้ขึ้นใกล้ตัว
ระดับ 1 ถ้าเกิดขึ้นพวกเราจะไม่รู้สึกแต่เครื่องวัดระดับของแผ่นดินไหวจะสามารถวัดระดับได้ โดยระดับนี้มักไม่ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นเท่าไรนัก
ระดับ 2 ถ้าใครที่เป็นคนไวต่อความรู้สึกจะเริ่มสัมผัสถึงความเคลื่อนไหวในระดับนี้ได้
ระดับ 3 ส่วนใหญ่คนเราจะสามารถสัมผัสและรู้สึกได้ว่าพื้นนั้นมีความสั่นเล็กน้อย
ระดับ 4 คนที่เดินทางสัญจรอยู่ก็จะเริ่มสัมผัสได้ถึงความสั่นไหวไม่ต่างจากคนที่อยู่กับที่
ระดับ 5 รุนแรงเพิ่มมากขึ้นจนทำให้แทบทุกคนสัมผัสได้
ระดับ 6 ความรุนแรงในระดับนี้สามารถเริ่มสร้างความเสียหายให้เหล่าทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างได้
ระดับ 7 ถือเป็นความรุนแรงมากและอาจเกิดความเสียหายในโครงสร้างต่าง ๆ ของบ้าน อาคารต่าง ๆ ได้
ระดับ 8 หากเกิดระดับนี้ขึ้นจำเป็นต้องหยุดการสัญจรและอาจต้องเตรียมรับมือกับความเสียหายของสิ่งรอบตัว
ระดับ 9 บ้านเรือนอาคารจะเกิดความเสียหายอย่างแน่นอน และอาจเกิดอันตรายเพิ่มเติมจากแก๊สรั่ว น้ำรั่ว
ระดับ 10 นับเป็นระดับแผ่นดินไหวที่เป็นวินาศภัย แผ่นดินแตก ตึกถล่ม รางรถไฟเสียหาย ดินถล่ม
ระดับ 11 เป็นวินาศภัยในระดับที่แรงขึ้นอาจทำให้ ตึกถล่ม สะพานขาด ท่อน้ำสายไฟใต้ดินเสียหาย แผ่นดินถล่ม และเกิดเป็นปัญหาน้ำท่วมได้
ระดับ 12 ถือเป็นระดับสูงสุดของแผ่นดินไหวในตอนนี้โดยจะเรียกกันว่ามหาวิบัติ ทุกอย่างในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจะเสียหาย ดินจะกลายเป็นคลื่น
เมื่อเราได้เข้าใจความเป็นมาของเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในโลกที่ทาง https://thaiseismic.com/ ได้รวบรวมข้อมูลมาฝากกันในวันนี้แล้วเชื่อว่าคุณจะสนุกกับการศึกษาข้อมูลเรื่องแผ่นดินไหวกันมากขึ้น เพราะโลกของเรานั้นนับวันยิ่งเจอกับความเปลี่ยนแปลงที่มาขึ้นเรื่อย ๆ พวกเราจึงควรรู้ทันสิ่งที่อาจเกิดขึ้นเพื่อหาวิธีป้องกันความเสียหายและช่วยกันแชร์ข้อมูลให้ทุกคนมีความรู้ในเรื่องนี้กันแพร่หลายมากขึ้น บอกเลยว่าต่อไปจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับแผ่นดินไหวมาฝากคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันกันแบบง่าย ๆ อย่างแน่นอน