“กรมการศาสนา” เดินหน้าขับเคลื่อนงานศาสนา ผ่าน “9 ดี 12 เดือน 12 เด่น” เน้นนำเทคโนโลยีเข้าถึงคนรุ่นใหม่

สังคมไทยมีหลักปฏิบัติและวิถีชีวิตอยู่บนหลักของธรรมทางศาสนา ซึ่งยึดถือและปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน ทั้งหลักธรรมคำสอนและความเชื่อ ตลอดจนแนวปฏิบัติตนตามหลักศาสนาได้ซึมซาบอยู่กับวิถีชีวิตของคนไทยทุกคน

และเมื่อคนไทยรับเอาหลักธรรมทางศาสนามาเป็นแบบอย่างแห่งการดำเนินชีวิต ก่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรมขึ้นมาแล้ว หน่วยงานสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านศาสนาของไทยอย่าง กรมการศาสนา ภายใต้สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งมีบทบาทในการดำเนินงานทั้งการทำนุบำรุง ส่งเสริมและให้ความอุปถัมภ์คุ้มครองกิจการของทุกศาสนา ตลอดจนส่งเสริมพัฒนาความรู้คู่คุณธรรม และสร้างความสมานฉันท์ระหว่างศาสนิกชน เพื่อให้คนไทยนำหลักธรรมของศาสนาต่างๆ มาปรับใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เป็นคนดีและมีคุณธรรม
จนเกิดเป็นนโยบาย ‘9 ดี 12 เดือน 12 เด่น นำธรรมะสู่ใจประชาชน’ ที่มุ่งปลูกฝังคุณธรรมเสริมสร้างจริยธรรมแก่เยาวชนตั้งแต่ระดับปฐมวัย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และให้ศาสนิกชนของทุกศาสนาได้อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข พร้อมนำข้อคิดเห็นของประชาชนร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมสานสัมพันธ์ทุกศาสนาอีกด้วย

พลิกโฉมงานด้านศาสนา ต่อยอดการทำงานที่ยิ่งใหญ่

คุณชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เล่าถึงที่มาและความสำคัญของนโยบาย ‘9 ดี 12 เดือน 12 เด่น นำธรรมะสู่ใจประชาชน’ ว่า เมื่อประเทศไทยขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจด้วยวัฒนธรรม จึงต้องเร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจและสังคมสู่ความมั่นคงและยั่งยืน ตามนโยบายของ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และแผนดำเนินการของ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ในการขับเคลื่อนงานด้านวัฒนธรรม ภายใต้หัวข้อ ‘Paradigm Shift : เปลี่ยนฉากทัศน์วัฒนธรรม สู่ก้าวที่มั่นคงและยั่งยืน’

โดยมีเป้าหมายเพื่อให้คนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีความพร้อมในทุกมิติ ทั้งสติปัญญา คุณธรรมจริยธรรม และมีจิตวิญญาณที่ดีปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ดังนั้น กรมการศาสนาจะต้องมีการตอบโจทย์และปรับบทบาทงานด้านศาสนา ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนสถานการณ์โลกในยุคหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการปรับโฉมการขับเคลื่อนงานด้านศาสนา และนําแนวทางของวัฒนธรรม 9 ดี เป็นเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนงาน โดยแปลงเป็นแผนปฏิบัติการให้เกิดเป็นรูปธรรม 9 ด้าน

“กรมการศาสนายังให้ความสําคัญในการจัดงานด้านศาสนาในเชิงรุก และสร้างจุดแข็งด้วยการสร้างความตระหนักรู้ในงานด้านศาสนา ด้วยการกําหนดกิจกรรมเด่นๆ ในแต่ละเดือน เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมให้เข้มข้นและเป็นต้นแบบการจัดกิจกรรมเพื่อต่อยอดการทํางานให้ยิ่งใหญ่ สร้างการรับรู้แก่ประชาชนและสาธารณชนในวงกว้าง จึงเกิดเป็นนโยบาย ‘9 ดี 12 เดือน 12 เด่น นําธรรมะสู่ใจประชาชน’ โดยมีเป้าหมายสูงสุด เพื่อให้คนเป็นคนดี คนเก่ง คนมีความสุข”

“9 ดี 12 เดือน 12 เด่น นำธรรมะสู่ใจประชาชน” นโยบายที่สืบสานและสร้างสรรค์งานศาสนาอย่างยั่งยืน

เมื่อกรมการศาสนา มีการขับเคลื่อนนโยบายโดยมีแนวทางพลิกโฉมกรมการศาสนา จึงได้ชูนโยบาย ‘9 ดี 12 เดือน 12 เด่น นําธรรมะสู่ใจประชาชน’ ที่มุ่งให้เด็กและเยาวชนเป็นคนดี คนเก่ง และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

“กรมการศาสนาได้ให้ความสําคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมและสานสัมพันธ์กิจกรรมทางศาสนาและอุปถัมภ์ ทํานุบํารุง และคุ้มครองกิจการด้านศาสนา ทั้งยังมีการดําเนินงานสนองงานพระราชพิธี พระราชกุศล รัฐพิธี และศาสนพิธี เพื่อปลูกฝังและเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมแก่เยาวชนตั้งแต่ระดับปฐมวัย”

ขณะเดียวกัน การดําเนินงานด้านศาสนาในปี 2566 จะมุ่งเน้นให้วัดและศาสนสถานทุกศาสนาเป็นศูนย์กลางของประชาชน พัฒนาวัดและศาสนสถานให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนบนฐานวัฒนธรรมแบบบูรณาการ ซึ่งแนวทางในการขับเคลื่อนงานด้านศาสนาที่สำคัญของนโยบาย 9 ดี มีดังนี้

1. แบ่งปันความรู้สู่สาธารณะและค่ายธรรมะ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการปฏิบัติตามหลักศาสนาด้วความสงบสุข

2. ธรรมะบันเทิง เป็นการสร้างสรรค์สื่อที่เหมาะสมกับเยาวชน เช่น เกมคุณธรรม เพลงธรรมะ ธรรมะอารมณ์ดี และการจัดธรรมะสัญจร สู่สถานศึกษา

3. ค่ายธรรมะ ส่งเสริมเยาวชนทุกศาสนาได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

4. การจัดวิปัสสนาเพื่อคนทั้งมวล กล่อมเกลาจิตใจให้ปฏิบัติตามหลักธรรม ด้วยการละเว้นความชั่ว ทําความดี โดยเฉพาะการทําจิตใจให้บริสุทธิ์ด้วยเจริญจิตภาวนา

5. การพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้นําทางศาสนา โดยส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมแด่พระสงฆ์การศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ศูนย์อบรมศาสนาอิสลามและจริยธรรมประจํามัสยิด

6. การตักบาตรพระสงฆ์ด้วยอาหารสุขภาพ จัดทําหนังสือรายการอาหารสุขภาพ และจัดสาธิตการทําอาหาร สําหรับตักบาตรให้กับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยกันดูแลสุขภาพและป้องกันโรคของพระภิกษุ

7. การยกย่องคนดี ศรีจังหวัด โดยสนับสนุนให้แต่ละจังหวัดประกาศยกย่องบุคคลที่ทําความดี เป็นแบบอย่างให้กับสังคม

8. การจัดงานศาสนิกสัมพันธ์และศาสนสัมพันธ์กับนานาประเทศ เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีของ ศาสนิกชนทุกศาสนา และสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคม

9. ตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา โดยจัดเส้นทางบุญสู่วัดและศาสนสถาน การจัดงานเสน่ห์วันวาน เทศกาลงานวัด การจาริกแสวงบุญตามรอยพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นต้น

ส่วนกิจกรรม 12 เดือน 12 เด่น ขับเคลื่อนด้วยกิจกรรมหลักที่สําคัญ อาทิ เทศกาลกฐิน แผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ การสวดมนต์ข้ามปี การยกย่ององค์กรคุณธรรมต้นแบบ การส่งเสริมพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตําบล ประเทศอินเดีย-เนปาล งานเทศกาลวันมาฆบูชาและวันวิสาขบูชา งานพิธีพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรแก่ผู้ทําคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา พิธีศาสนามหามงคล 5 ศาสนา การส่งเสริมการผลิตสื่อคุณธรรมจริยธรรม เทศกาลวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา และการจัดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมะสวนะ พาครอบครัวเข้าวัด เป็นต้น

นับเป็นการพลิกโฉมการทํางานด้วยการ ‘นําธรรมะสู่ใจประชาชน’ ซึ่งเป็นความท้าทายและตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนที่ส่งผลดีต่อศาสนิกชนและประเทศชาติ

หน่วยงานที่ได้รับรางวัลองค์กรคุณธรรมต้นแบบ

‘กรมการศาสนา’ พร้อมยกระดับบทบาทด้านศาสนาของไทยสู่เวทีโลก

“การยกระดับบทบาทด้านศาสนาสู่เวทีโลก ถือเป็นการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พัฒนาองค์ความรู้ด้านศาสนา ตลอดจนการดําเนินงานด้านศาสนสัมพันธ์กับประเทศอาเซียน ประเทศคู่เจรจาและนานาประเทศ รวมถึงพัฒนาสมรรถนะบุคลากรทางศาสนาเพื่อประโยชน์ในการดําเนินงาน และขับเคลื่อนงานศาสนากับต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าของประเทศในภาพรวม” อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวพร้อมบอกต่อว่า

ในปีนี้ กรมการศาสนาได้มีการจัดกิจกรรมทางศาสนาในต่างประเทศ โดยเริ่มต้นจากการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีอาเซียนและต่างประเทศ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน 15 จังหวัด

ขณะที่ในต่างประเทศ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประสานความร่วมมือไปยังวัดไทยและวัดทางพระพุทธศาสนาในต่างประเทศทั่วโลกร่วมจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เช่น วัดธัมมปทีป ประเทศเดนมาร์ก วัดนวมินทรราชูทิศ ลียง ประเทศฝรั่งเศส วัดไทยสุชาดาธรรมจาริกสังฆวิหาร ประเทศสหรัฐอเมริกา วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นต้น

สำหรับระยะต่อไปกรมการศาสนาจะจัดกิจกรรมมาฆบูชาอาเซียน ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย และนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว ตลอดจนได้ให้ความสําคัญกับการเจรจาหารือเพื่อแสวงหาความร่วมมือด้านศาสนากับประเทศในภูมิภาคเอเชีย การดําเนินการดังกล่าวยังช่วยเสริมบทบาทให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากลและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและประชาคมโลกได้

กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ต้อนรับศักราชใหม่ ปี 2566

ปรับบทบาทงานด้านศาสนา ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

ปัจจุบันกรมการศาสนา มีการพลิกโฉมปรับบทบาทงานด้านศาสนาสู่ความคิดสร้างสรรค์ พร้อมนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยการสร้างองค์ความรู้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จนเกิดเป็นภูมิทัศน์ใหม่แห่งการเรียนรู้ ที่เน้นการมีส่วนร่วมในการสร้างเนื้อหาตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย โดยสร้างความร่วมมือกับกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อความคิดและการตัดสินใจ พร้อมทั้งเน้นการใช้เทคโนโลยีที่เป็นช่องทางออนไลน์มากขึ้น อาทิ เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, ยูทูป และติ๊กต็อก

นอกจากนี้ มีการจัดโครงการแบ่งปันความรู้ทางศาสนาสู่สาธารณะ กิจกรรมธรรมะบันเทิง อาทิ เกมคุณธรรม เพลงธรรมะ กิจกรรมการประกวดสื่อธรรมะ 1 นาที และธรรมะทอล์ก เป็นต้น เพื่อนําเสนอในรูปแบบต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ ให้สามารถเล่าเรื่ององค์ความรู้ด้านศาสนาในหลากหลายมิติ ทั้งยังมีความสวยงาม น่าสนใจ เข้าใจง่าย และสามารถจดจําได้นาน ทําให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ถือได้ว่า กรมการศาสนา เป็นสื่อกลางที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสําคัญ และมีส่วนร่วมในการสืบสานงานศาสนาให้คงอยู่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ตลอดจนเกิดความเจริญก้าวหน้าของประเทศสืบต่อไป