POS คืออะไร? โปรแกรม pos ช่วยอะไรบ้าง? ผู้ทำกิจการค้าขายต้องรู้!

POS

ในปัจจุบันธุรกิจค้าขายเปลี่ยนแปลงไปมากมาย บางร้านไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านแต่มีเพียงร้านค้าออนไลน์ ร้าน มีเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้น บ้างก็ใช้ระบบต่างๆมาช่วยดูแลธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือ pos system ที่พบได้ตามจุดชำระเงินต่างๆ ทั้งหน้าร้านและออนไลน์

ในบทความนี้จะมาอธิบายแบบเข้าใจง่ายว่า pos คืออะไร? มีประโยชน์ต่อร้านค้าอย่างไรบ้าง ทำไมจึงควรใช้ และยังมีแนะนำโปรแกรม pos น่าใช้ เริ่มอ่านที่หัวข้อถัดไปได้เลย

ระบบ POS คือ

โปรแกรม POS คือ? คำว่า pos ย่อมาจาก Point of Sale แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า ระบบขายหน้าร้าน มักจะอยู่ที่จุดชำระเงิน คิดค่าบริการต่างๆ เป็นจุดที่ลูกค้าต้องจ่ายเงินให้กับคุณไม่ว่าจะเป็นร้านออนไลน์หรือหน้าร้าน แต่ระบบ pos ทำได้มากกว่าคิดเงิน โดยระบบ pos เป็นการรวมทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ช่วยดูแลธุรกิจ โดยสิ่งที่ pos ครอบคลุมมีอยู่มากมาย เช่น

  • การออกใบเสร็จ
  • การตรวจสอบข้อมูลสินค้า
  • บันทึกข้อมูลการซื้อขาย
  • การคิดเงิน
  • สรุปรายรับรายจ่าย
  • ช่วยบริหารพนักงาน
  • ช่วยบริหารลูกค้า

และอื่นๆที่จะกล่าวในหัวข้อถัดไป เพราะเหตุนี้ pos คือสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับร้านค้าและธุรกิจในปัจจุบัน สามารถช่วยดูแลธุรกิจได้ครบวงจร ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของโปรแกรม pos สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ โปรแกรม POS ที่น่าสนใจได้ที่นี่ คลิก!

ทำไมระบบ POS ถึงจำเป็นต่อธุรกิจ

pos คือระบบที่ช่วยเรื่องการค้าขายอย่างครอบคลุม การใช้ระบบ pos ทำให้มีข้อได้เปรียบดังนี้

  1. ตรวจสอบข้อมูลได้แบบ Real Time

โปรแกรม pos สามารถรวบรวมข้อมูลต่างๆภายในร้านค้าเพื่อให้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้อย่างทันท่วงทีผ่านหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น สต็อกสินค้า ข้อมูลสินค้า ข้อมูลลูกค้า การเงินต่างๆ ช่วยให้แก้ปัญหาในร้านได้รวดเร็ว

  1. หมดปัญหาเรื่องเงินหาย เงินไม่ครบ

pos คือ ตัวช่วยที่สามารถตรวจสอบยอดขาย บัญชีต่างๆได้อย่างแม่นยำโดยที่คุณไม่ต้องคำนวณเอง และยังตรวจสอบได้อีกด้วยว่ายอดเงินปัจจุบันตรงกับในลิ้นชักเก็บเงินหรือไม่ ช่วยแก้ปัญหายอดเงินตกหล่นจากการค้าขายสินค้า ลดความผิดพลาดของพนักงาน ตรวจสอบรายรับรายจ่ายได้ตลอดเวลา

  1. ช่วยในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขาย

เนื่องจากรวบรวมข้อมูลต่างๆ ภายในร้านไว้ได้ คุณสามารถนำข้อมูลจากระบบ pos มาวิเคราะห์เพื่อพัฒนายอดขาย เช่น สินค้าที่ขายดี เทียบราคาสินค้ากับต้นทุน วางแผนค่าใช้จ่ายโดยรวมเพื่อลดต้นทุน และ โปรแกรม pos มักจะมาพร้อมกับ CRM ช่วยจัดการลูกค้า สร้างฐานลูกค้าจากระบบสมาชิก ทำให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าและว่าที่ลูกค้าได้ดีมากขึ้น

  1. ช่วยประหยัดเวลาในการบริหารจัดการร้านค้า

โปรแกรม pos มีข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้แบบ real time ไม่ต้องเดินเช็คสินค้าด้วยตนเอง มีฟีเจอร์ช่วยให้บริหารพนักงานในร้านได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดจำนวนพนักงานที่ต้องใช้ ตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายได้ง่ายดาย ตรวจสอบข้อมูลต่างๆย้อนหลังได้ ลดขั้นตอนต่างๆ จึงช่วยลดเวลาบริหารร้านค้าโดยรวมและมีเวลามาพัฒนาธุรกิจของตนเองมากขึ้น

  1. อำนวยความสะดวกในการขายสินค้าและบริการ

ความสำคัญที่สุดของ pos คือช่วยอำนวยความสะดวกในธุรกิจของคุณ ทั้งช่วยประหยัดเวลา สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ช่วยตรวจสอบยอดเงินต่างๆ นอกจากนี้ ระบบ pos ยังมีระบบสมาชิก สะสมแต้ม และ CRM ช่วยให้ลูกค้าอยากกลับมาใช้สินค้าและบริการของคุณมากขึ้น และนำข้อมูลลูกค้าเหล่านี้มาพัฒนาธุรกิจเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆได้ไม่ยาก

ส่วนประกอบของระบบ POS

ส่วนประกอบของ pos คือทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ได้แก่

  1. POS Program (โปรแกรม POS)

ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรม pos คือส่วนสำคัญโดยเป็นตัวจัดการ บันทึกข้อมูลต่างๆ โดยฟีเจอร์ที่โปรแกรม pos ควรมี คือ บริหารพนักงาน บริหารสินค้าบริการ และบริหารลูกค้า หากเป็น ระบบ pos ที่ฟีเจอร์ไม่มาก อย่างน้อยจะสามารถช่วยจัดการสินค้าได้ระดับหนึ่ง ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างลื่นไหล ที่สำคัญคือข้อมูลสามารถนำมาใช้ต่อยอดในธุรกิจได้

โปรแกรม pos ของ Rocket มีฟีเจอร์ครบครันและทันสมัย เหมาะกับธุรกิจในปัจจุบันอย่างมาก โดยมีจุดเด่นดังนี้

  • สามารถสร้างและเชื่อมหน้าร้านออนไลน์ได้
  • มีข้อมูลลูกค้าโดยละเอียด จัดเก็บเป็นรายบุคคล
  • มี CRM คอยโฆษณาสิทธิพิเศษ โปรโมชั่นต่างๆให้กับฐานลูกค้า
  • ระบบสมาชิกออนไลน์ ลูกค้าไม่ต้องพกบัตรแบบเดิมๆ
  • ปรับแต่งธีมได้
  • ครอบคลุมดูแลร้านสาขาต่างๆอย่างทั่วถึง
  • มีข้อมูลสถิติของธุรกิจให้ พร้อมใช้งาน
  • รองรับการจองคิว ออเดอร์ออนไลน์
  • จัดการออเดอร์ต่างๆได้เพียงปลายนิ้ว

และยังมีฟีเจอร์อื่นๆอีกมากมาย หากสนใจระบบ pos สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Rocket

  1. Accounting Software (เครื่อง POS)

อุปกรณ์ที่ติดตั้งโปรแกรม pos และอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ด้วยกัน ได้แก่

  • ลิ้นชักเก็บเงิน
  • เครื่อง POS ที่ใช้ประมวลผลเป็นหลัก
  • สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต
  • เครื่องสแกนบาร์โค้ด
  • เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ
  • จอแสดงราคาสำหรับลูกค้า

และอื่นๆที่โปรแกรมรองรับ จะใช้อุปกรณ์อะไรบ้างขึ้นอยู่กับประเภทของระบบ pos หากเป็นระบบที่เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ก็ต้องใช้ฮาร์ดแวร์มากขึ้นเพื่อใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ แต่หากเป็นระบบเล็กๆที่มีเพียงฟีเจอร์ไม่ซับซ้อนก็สามารถใช้เพียงแท็บเล็ตได้

ประเภทของระบบ POS มีอะไรบ้าง

การแบ่ง pos สามารถใช้ได้หลายหลักเกณฑ์ เช่น แบ่งตามประเภทร้านค้าอย่าง ระบบ pos ร้านอาหาร หรือแบ่งตามการทำงานของระบบอย่างในบทความนี้

ระบบ pos มีหลายประเภทเมื่อแบ่งตามระบบ มีจุดเด่นและธุรกิจที่เหมาะสมแตกต่างกันไปดังนี้

  1. Open-source POS systems
  • เป็รโปรแกรม pos ที่ใช้งานบนเว็บ มีการอัพเดตสม่ำเสมอ
  • เน้นการจัดการสินค้า
  • ปรับแต่งได้ละเอียดและหลากหลาย
  • ค่าใช้จ่ายสูงเพราะต้องมีวิศวกรซอฟต์แวร์ของดูแล
  • เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก องค์กรต่างๆ
  • ไม่เหมาะกับธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจการโรงแรมที่ต้องมีการจองคิว
  1. Multichannel POS systems
  • รวมหลายช่องทางไว้ด้วยกัน
  • ใช้ได้ทั้งแบบร้านออนไลน์และหน้าร้าน รวมถึงสาขาต่างๆ ครอบคลุมถึงโซเชียลมีเดียของธุรกิจด้วย
  • ข้อมูลทุกอย่างจะถูกรวมไว้ด้วยกัน เข้าถึงข้อมูลโดยรวมได้สะดวก เห็นภาพกว้าง
  • เหมาะกับธุรกิจที่มีหลายสาขา ธุรกิจที่มีทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ธุรกิจที่ค้าขายผ่านหลายช่องทาง
  1. Mobile Point-of-Sale systems
  • พกพาสะดวกเพราะเป็นโปรแกรม pos บนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต
  • ตัวโปรแกรมใช้งานง่าย จัดการข้อมูลจำนวนไม่มากได้
  • ส่งใบเสร็จผ่านอีเมลสะดวก
  • ต้องใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต
  • เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก
  1. Terminal POS systems
  • ระบบ pos ที่นิยมมากที่สุดโดยเฉพาะในธุรกิจค้าปลีก
  • มีฟีเจอร์ครบครัน ทำงานครบวงจร บันทึกข้อมูลได้ปริมาณมาก
  • ต้องใช้ฮาร์ดแวร์หลายเครื่อง ใช้อินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อ
  • ฮาร์ดแวร์ที่ใช้มักประกอบด้วย ลิ้นชักเก็บเงิน, เครื่องปริ้นท์ใบเสร็จ, เครื่องสแกนบัตร, เครื่องสแกนบาร์โค้ดหรือคิวอาร์โค้ด, เครื่องประมวลผล pos และจอแสดงผล
  • เหมาะกับธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดใหญ่
  1. Self-service kiosk POS
  • ลูกค้าบริการตนเอง ชำระเงินด้วยตนเองได้ เช่น ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ หรือใช้สั่งสินค้าต่างๆในร้านอาหาร
  • ทำให้ลูกค้าชำระสินค้าบริการได้เร็วขึ้น ลดเวลาการรอ
  • ลดจำนวนพนักงาน
  • เหมาะกับธุรกิจที่ลูกค้ามีจำนวนมากพร้อมกัน
  1. Tablet POS systems
  • ใช้งานผ่านแท็บเล็ต แต่ฟีเจอร์ครอบคลุมกว่า Mobile Point-of-Sale systems
  • ช่วยบริหารพนักงานได้
  • สามารถพกพาได้
  • เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจขนาดกลาง
  1. Online point-of-sale system
  • ใช้งานผ่านอุปกรณ์ส่วนตัว ฟีเจอร์มีจำกัด
  • ส่วนมากใช้เพียงซื้อขายสินค้าและบริการ บันทึกการใช้จ่าย
  • เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก เหมาะกับผู้ที่ต้องการลองใช้โปรแกรม pos

สรุปเกี่ยวกับระบบ POS

pos คือ ระบบที่เป็นตัวช่วยสำคัญในธุรกิจค้าขายไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ โปรแกรม pos ครอบคลุมทั้งการจัดการสินค้า พนักงาน การเงินภายในร้าน และการดูแลลูกค้าต่างๆ ช่วยให้บริหารธุรกิจง่ายขึ้นทั้งยังนำข้อมูลที่ระบบ pos บันทึกไว้มาใช้วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดได้

ระบบ pos มีหลายประเภทหากแบ่งตามการทำงานของระบบ บางระบบสามารถพกพาได้แต่ฟีเจอร์อาจไม่ครอบคลุมมาก เน้นใช้ในการซื้อขาย บันทึกรายรัยรายจ่าย เช่น Mobile Point-of-Sale systems, Tablet POS systems, Online point-of-sale system สำหรับธุรกิจใหญ่โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก เหมาะกับระบบที่สามารถจัดการสินค้าได้เป็นจำนวนมากและบันทึกข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการขายไว้ เช่น ประเภทสินค้า ลูกค้า อย่างระบบ Terminal POS systems, Open-source POS systems เป็นต้น ธุรกิจบางประเภทก็ต้องการโปรแกรม pos ที่เฉพาะมากขึ้น เช่น ธุรกิจร้านอาหาร ควรใช้โปรแกรมที่รองรับการจองคิว สามารถรับออเดอร์จากลูกค้าส่งถึงในครัว

ถ้าสนใจโปรแกรม pos ที่ฟีเจอร์ครบครัน เหมาะกับธุรกิจหลากหลายประเภท แนะนำโปรแกรม pos ของ Rocket ใช้งานไม่ยาก รูปลักษณ์ทันสมัย มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา และยังสามารถช่วยดูแลลูกค้าได้ด้วยระบบ CRM, ระบบสมาชิก Loyalty Program ต่างๆ ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจของคุณพัฒนามากขึ้น Rocket พร้อมให้บริการ MarTech ครบวงจร