8 ข้อควรสังเกต อาการแบบไหนที่ควรมาตรวจกับหมอเฉพาะทางโรคหัวใจ

8 ข้อควรสังเกต อาการแบบไหนที่ควรมาตรวจกับหมอเฉพาะทางโรคหัวใจ

โรคหัวใจ เป็นภัยเงียบและสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย การตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ และสังเกตอาการผิดปกติ รู้เท่าทันสัญญาณเตือน และรีบเข้ารับการตรวจรักษากับหมอเฉพาะทางโรคหัวใจตั้งแต่เนิ่น ๆ มีความสำคัญมาก จะช่วยให้เราสามารถป้องกัน ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ทันท่วงที บทความนี้มาพร้อมกับ 8 เช็กลิสต์อาการที่ควรมาพบหมอเฉพาะทางโรคหัวใจ 8 กลุ่มบุคคลเสี่ยง และ 8 วิธีดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคหัวใจ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

8 อาการที่ควรมาตรวจกับหมอเฉพาะทางโรคหัวใจ

  • เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก: รู้สึกเหมือนถูกกดทับ หรือรัดแน่น ร้าวไปที่กราม แขน ไหล่ หรือลิ้นปี่ มักเกิดบริเวณหน้าอกกลาง
  • หายใจลำบาก: หายใจไม่เต็มอิ่ม หายใจหอบเหนื่อย หายใจถี่ โดยเฉพาะเวลานอนราบ
  • เหนื่อยง่าย: เหนื่อยง่ายผิดปกติ อ่อนเพลีย หมดแรง
  • ใจสั่น: หัวใจเต้นเร็ว หรือเต้นผิดจังหวะ หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ
  • คลื่นไส้ อาเจียน: รู้สึกไม่สบาย
  • หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ: รู้สึกเหมือนจะเป็นลม
  • บวม: บวมตามแขน ขา เท้า
  • ไอเรื้อรัง: ไอแห้ง ๆ ไอเรื้อรัง โดยเฉพาะเวลานอน

8 กลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ

  • ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป: เมื่ออายุมากขึ้น หลอดเลือดหัวใจจะเสื่อมสภาพ แข็งตีบ และเกิดความดันโลหิตสูง ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักและเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวหรือญาติสายตรงเป็นโรคหัวใจ: โรคหัวใจบางชนิดมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม 
  • ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง: ความดันโลหิตสูงจะเพิ่มแรงดันต่อผนังหลอดเลือดหัวใจ ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักและเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
  • ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง: ไขมันในเลือดสูง โดยเฉพาะไขมันเลว หรือ LDL จะเกาะตัวตามผนังหลอดเลือดหัวใจ ทำให้หลอดเลือดตีบ ส่งผลให้หัวใจขาดเลือด
  • ผู้ที่มีโรคเบาหวาน: โรคเบาหวานจะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง รวมถึงโรคหัวใจ
  • ผู้ที่สูบบุหรี่: สารเคมีในบุหรี่จะทำลายหลอดเลือดหัวใจ
  • ผู้ที่มีภาวะอ้วน: น้ำหนักตัวเกิน มีไขมันพอกตามร่างกายและระบบภายใน จะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้
  • ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย: อีกสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักตัวเกิน และมีไขมันพอกตามระบบภายในของร่างกาย 

8 วิธีดูแลตัวให้ห่างไกลจากโรคหัวใจ

  • ควบคุมอาหาร: ทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้
  • ออกกำลังกาย: ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์
  • ควบคุมน้ำหนัก: ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • งดสูบบุหรี่: เพื่อลดสารเคมีที่จะไปทำลายหลอดเลือดหัวใจ
  • ควบคุมความดันโลหิต: ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ควบคุมไขมันในเลือด: ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ตรวจสุขภาพ: เป็นประจำทุกปี

การสังเกตอาการ รู้เท่าทันสัญญาณเตือน ตรวจสุขภาพเป็นประจำกับหมอเฉพาะทางโรคหัวใจ และดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและรักษาโรคหัวใจได้ทันท่วงที หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา จะช่วยให้ห่างไกลจากโรคหัวใจ และมีสุขภาพที่ดี