ชาวไร่มัน-อ้อย ค้าน ร่าง AEDP 2024 หดเอทานอล E10 รายได้หาย 30,000 ล้าน

ชาวไร่มัน-อ้อย ค้าน ร่าง AEDP 2024

18 มิถุนายน 2567 ตัวแทนจากภาคเกษตรกร และภาคเอกชน เข้าร่วมงานรับฟังความคิดเห็น ร่างแผนปฏิบัติการด้านพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก 2567-2580 (AEDP 2024)  ณ โรงแรมปริ้นซพาเลซ กรุงเทพมหานคร ช่วงเช้า 09.00-12.00 น. เพื่อร่วมแสดงความเห็นในประเด็นภาคพลังงานเชื้อเพลิงที่จากร่างแผนมีแนวทางในการปรับลด E20 เป็น E10 ให้เป็นน้ำมันพื้นฐาน ค้านหน่วยงานจัดทำร่างแผนฯ ถึงผลกระทบและความยั่งยืนพลังงานของไทยที่ได้จากพืชผลทางการเกษตร  และมีข้อกังวลว่าการจัดทำแผน AEDP และ OIL PLAN ควรสอดรับกัน วอนหน่วยงานจัดทำประสานงานผู้มีส่วนได้ส่วนเสียครบทุกมิติในการจัดทำแผนนี้

ปัจจุบันประเทศไทยได้มีการวางยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนพัฒนาประเทศตามหลัก BCG Model และยังได้มีการสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน  (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ.2050 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ.2065 เอทานอลที่ผสมในน้ำมันเบนซินถือได้ว่าเป็นเชื้อเพลิงสะอาดที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว แต่ในขณะเดียวกัน ภาครัฐกลับมีการปรับลดเป้าหมายและลดการสนับสนุนการใช้เอทานอลในภาคการขนส่งลง ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ขัดแย้งต่อการบรรลุเป้าหมาย

ประโยชน์จากการส่งเสริม E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน แบ่งเป็น 3 ด้าน ดังนี้  

ด้านเศรษฐกิจ 

  • เพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตรในพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง  
  • รักษาเสถียรภาพราคาพืชพลังงาน สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับภาคเกษตร
  •  ประเทศไทยไม่เสียดุลการค้า เนื่องจากเอทานอลช่วยลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ โดยการใช้แก๊สโซฮอล์ E20 ที่ผลิตเองในประเทศ เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน ช่วยลดการนำเข้าน้ำมันดิบ 10,493 ล้านลิตร/ปี รวมทั้งสร้างรายได้ต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรม 56,000 ล้านบาท/ปี (กรมธุรกิจพลังงาน)
  • ถ้าส่งเสริม E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน รายได้ 21,900 ล้านบาท/ปี (กรมธุรกิจพลังงาน) สู่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยและมันสำปะหลัง ถือเป็นการกระจายรายได้สู่เกษตรกรไทย จำนวน 1.2 ล้านครัวเรือน (กรมส่งเสริมการเกษตร, สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร)
  • ก่อให้เกิดความต้องการใช้เอทานอล 1,620 ล้านลิตร/ปี ทำให้เกิดการสร้างรายได้ประมาณ 41,200 ล้านบาท/ปี (กรมธุรกิจพลังงาน)
  • ในช่วง 10 ปีหลัง ราคาหัวมันสดเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.15 บาท/กก. ผลผลิตเฉลี่ย 30 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 34,500 ล้านบาท (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร)
  • กากน้ำตาลราคาสูงขึ้น 5 บาท/กก. ผลผลิตเฉลี่ย 4 ล้านตัน/ปี คิดเป็นมูลค่า 20,000 ล้านบาท  และคิดเป็นส่วนเพิ่มราคาอ้อยกลับสู่เกษตรกรประมาณ 150 บาท/ตันอ้อย ถ้าผลผลิตตันอ้อยเฉลี่ย 100 ล้าน/ปี คิดเป็นมูลค่าเพิ่มกลับไปสู่ชาวไร่ 15,000 ล้านบาท 

ADVERTISMENT

ด้านสังคมและความมั่นคงทางพลังงาน

  • ปริมาณการใช้เอทานอลผสมในน้ำมันเบนซินเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ปีละ 1,350 ล้านลิตร ช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันเบนซิน 950 ล้านลิตร (เอทานอลให้พลังงานคิดเป็นประมาณ 70% ของเบนซิน)
  • ลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ โดยมีแหล่งพลังงานทดแทนที่ผลิตจากวัตถุดิบภายในประเทศ 
  • การกระจายรายได้สู่ภาคเกษตร ลดการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าสู่เมือง เป็นการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ด้านสิ่งแวดล้อม 

ADVERTISMENT
  • ลดการเกิดมลพิษทางอากาศ เช่น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เอทานอล 1 ลิตร ลดการปล่อย CO2 ได้ 1.51 kgCO2  ส่งผลให้การใช้เอทานอลในปี 2566 เฉลี่ยวันละ 3.5 ล้านลิตร สามารถลดการปล่อย COได้ประมาณ 1.929 ล้านตัน (สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดสภาวะแก๊สเรือนกระจก และการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยังช่วยลดฝุ่น pm 2.5 

ผลกระทบหากไม่ส่งเสริม E20  

  • กระทบราคาสินค้าเกษตร ส่งผลให้อ้อย มันสำปะหลัง ราคาลดลง เกษตรกรขาดรายได้
  • ผู้ลงทุนขาดความมั่นใจซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายรัฐที่ไม่ต่อเนื่ิอง
  • ไม่สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐตามหลัก BCG Model และเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน  (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ.2050 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ.2065

 

ข้อเสนอแนวทางการสนับสนุนจากภาครั

ทาง 4 สมาคมฯ มีการชี้แจงกับภาครัฐกระทรวงพลังงานในหลายการประชุมให้กำหนดและวางแนวทางเป็นรูปธรรม คือ

  • ส่งเสริมให้ E20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานของประเทศ และลดชนิดของน้ำมันเบนซินในตลาดให้น้อยลง 
  • ระยะสั้นเสนอให้มีการปลดล็อคกฏระเบียบเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายสุราสามทับ ให้สามารถจำหน่ายเอทานอลสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ ภายในประเทศได้ เช่น อุตสาหกรรม ยา สมุนไพร เครื่องสำอาง เคมี อาหาร บรรจุภัณฑ์ ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม เป็นต้น  
  • ระยะยาว วางแนวทางในการเปลี่ยนผ่านพลังงานไปสู่การส่งเสริมส่งเสริมให้ใช้วัตถุดิบภายในประเทศ ให้เอทานอลเป็นวัตถุดิบในการผลิตโอพลาสติกชนิด Poly Ethylene (PE) และนำไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF)