รวมสิ่งควรเช็กเมื่อต้องใช้รถในฤดูฝน!

รวมสิ่งควรเช็กเมื่อต้องใช้รถในฤดูฝน!

ในช่วงฤดูฝนพายุกระหน่ำแบบนี้ หลายอย่างก็เปลี่ยนไป ถนนลื่น ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี การเดินทางก็มีความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้นผู้ขับขี่ควรตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน วันนี้เรามี 6 จุดสำคัญที่ควรเช็กเมื่อต้องใช้รถช่วงหน้าฝน พร้อมแล้วไปดูกันเลย!

6 สิ่งที่ต้องเช็กเมื่อใช้รถในฤดูฝนมีอะไรบ้าง?

สำหรับคนที่ต้องใช้รถยนต์ในช่วงฤดูฝน คงจะรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อยว่า หากต้องนำรถไปเช็กสภาพจะต้องเช็กอะไรบ้าง แต่ไม่ต้องกังวล เพราะในบทความนี้เรารวมมาให้แล้ว

1. เช็กยางรถยนต์ทั้ง 4 เส้น

ยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่สัมผัสกับถนนโดยตรง เมื่อขับในสภาพถนนที่เปียกลื่น หากยางรถสึกหรอมาก ดอกยางตื้น ก็จะทำให้เกาะถนนได้ไม่ดี เสี่ยงต่อการลื่นไถล ดังนั้นควรตรวจดูสภาพยางรถยนต์ทั้ง 4 เส้นอย่างสม่ำเสมอ สังเกตความลึกของดอกยาง รอยแตกร้าว หรือเม็ดยางที่หลุดออก หากพบว่ายางรถเริ่มผิดปกติหรือเสื่อมสภาพ ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนยางรถยนต์ราคาไม่แพงอย่างที่คิด แต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มาก

2. เช็กยางปัดน้ำฝน

ในช่วงฤดูฝน ยางปัดน้ำฝนเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นมาก เพราะหากฝนตกหนัก น้ำฝนบดบังทัศนวิสัยการมองเห็น หากยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ ปัดไม่เต็มประสิทธิภาพ ก็จะทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นถนนและสิ่งกีดขวางได้ไม่ชัดเจน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นควรตรวจเช็คยางปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ ไม่ฉีกขาด แตกหัก ซึ่งหากใช้งานมานานเกิน 1 ปี แนะนำให้เปลี่ยนใหม่จะดีที่สุด

3. เช็กของเหลวที่สำคัญ

ADVERTISMENT

นอกจากยางรถแล้ว ฤดูฝนยังเป็นช่วงที่ต้องระวังสภาพของเหลวต่างๆ ในรถด้วย ทั้งน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก และน้ำยาล้างกระจก เพราะฝนตกหนักน้ำอาจซึมเข้าไปผสมหรือเจือจางของเหลวเหล่านี้ได้ทำให้การหล่อลื่นหรือประสิทธิภาพการทำงานลดลง ดังนั้นหากสังเกตเห็นว่าน้ำมันเครื่องเปลี่ยนสี มีความขุ่นขาว หรือน้ำมันเบรกเหลืองจัดควรรีบเช็กและเปลี่ยนใหม่ทันที

4. เช็กระบบเบรก

ระบบเบรกเป็นส่วนสำคัญที่ต้องพร้อมใช้งานและทำงานได้ดีที่สุด โดยเฉพาะยิ่งในช่วงฝนตกถนนลื่น หากเบรกไม่อยู่ นอกจากจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงแล้ว ยังไม่สามารถควบคุมรถให้หยุดได้ทันตามต้องการ ดังนั้นผู้ขับขี่ต้องคอยเช็กการทำงานของระบบเบรกอยู่เสมอว่ายังคงมีประสิทธิภาพ ไม่มีเสียงดัง หรือมีอาการเบรกไม่อยู่

ADVERTISMENT

5. เช็กระบบปรับอากาศในห้องโดยสาร

เมื่อขับรถท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำ ระบบปรับอากาศในรถก็ต้องพร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นระบบทำความร้อนเพื่อไล่ความชื้น หรือระบบปรับอากาศเพื่อลดความเย็นชื้น การตรวจเช็กระบบเหล่านี้จะช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตัว ไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อต้องนั่งรถนานๆ นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันกลิ่นอับ หรือเชื้อราในรถได้อีกด้วย

6. เช็กระบบเช็กช่วงล่าง

ระบบช่วงล่างของรถที่ดี จะช่วยลดการสั่นสะเทือนในขณะขับขี่ รวมถึงเพิ่มความนุ่มนวลในการขับเคลื่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นอย่างมากในการขับรถช่วงฝนตกหนัก หากสังเกตพบว่ารถเริ่มส่ายหรือโคลงมากเกินไป ลองตรวจเช็กสภาพโช้คอัพ ผ้าเบรก หรือปีกนก ว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ หากพบปัญหาก็ให้รีบซ่อมแซมก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

ทั้งหมดนี้คือ 6 สิ่งที่ควรตรวจเช็กเมื่อต้องใช้รถยนต์ในช่วงหน้าฝน อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็สำคัญไม่แพ้การขับขี่อย่างระมัดระวัง ยิ่งเราดูแลรักษารถ ตรวจเช็กสภาพให้พร้อมใช้อยู่เสมอ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้มาก ทำให้เราเดินทางท่ามกลางสายฝนอย่างปลอดภัย มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง 

และถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะไปเช็กรถที่ไหนดี เราขอแนะนำ EZY FIT ที่มีบริการดูแลรถถึงบ้านแบบครบวงจร ทั้งการตรวจเช็กและซ่อมบำรุงรักษาระบบช่วงล่าง เปลี่ยนโช้คอัพ บริการเปลี่ยนยาง ตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ เติมลมไจโตรเจน บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตลอดจนบริการล้างทำความสะอาดระบบแอร์แบบไม่ถอดตู้ พร้อมอบโอโซนห้องโดยสารเพื่อฆ่าเชื้อโรค ด้วยช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยเครื่องมือที่มีมาตรฐานเช่นเดียวกับศูนย์บริการ ซึ่งคุณสามารถมั่นใจในมาตรฐานการให้บริการ อุ่นใจในราคาและคุณภาพสินค้าที่เราคัดสรรมาเพื่อคุณได้อย่างแน่นอน สนใจสอบถามโทร. 090-956-5566