Forbes Thailand จัด The Next Tycoons 2024 ระดมผู้นำธุรกิจยุคใหม่

Forbes Thailand จัด The Next Tycoons 2024 ระดมผู้นำธุรกิจยุคใหม่

Forbes Thailand จัด The Next Tycoons 2024 ระดมผู้นำธุรกิจยุคใหม่  The FUTURPRENEUR
เปิดมุมมองใหม่ องค์ความรู้ใหม่ สู่ปรัชญาแห่งความสำเร็จยุคดิจิทัลฉบับ The Next Tycoon 2024 

  • นิตยสาร Forbes Thailand จัดงานเสวนาใหญ่ประจำปี The Next Tycoons 2024 ในหัวข้อ The FUTURPRENEUR ในวันที่  21 สิงหาคม 2567 ที่ World Ballroom ชั้น 23 โรงแรม Centara Grand & Bangkok Convention Centre at Central World โดยงานดังกล่าวประกอบด้วย 3 เวที Reimagine: New-Age Leadership Mindset; Reinvent: Business with Technology Integration; และ Refine: Philosophy of Success of the New Era เจาะลึกมุมมองใหม่ องค์ความรู้ใหม่ ปรัชญาแห่งความสำเร็จในยุคใหม่ ฉบับ The Next Tycoon
  • นักธุรกิจรุ่นใหม่จากหลากหลายอุตสาหกรรมร่วมแสดงวิสัยทัศน์แบ่งปันนวัตกรรมที่เข้ามาขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
  • ธุรกิจยุคใหม่ต้องมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้คนเข้าถึงได้ง่าย และตอบโจทย์ได้ทุกความเปลี่ยนแปลง

กรุงเทพฯ (21 สิงหาคม 2567) — วานนี้ นิตยสาร Forbes Thailand มีความยินดีที่จะประกาศว่า เสวนาใหญ่ประจำปี The Next Tycoons 2024 ภายใต้หัวข้อ The FUTURPRENEUR: Reimagine, Reinvent, Refine ปิดฉากลงอย่างสวยงาม โดยนิตยสาร Forbes Thailand มีโอกาสต้อนรับผู้นำธุรกิจแถวหน้ารุ่นใหม่จาก 

หลากหลายอุตสาหกรรม มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ แบ่งปันนวัตกรรม ที่เข้ามาขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่าน 3 เวที ได้แก่ Reimagine: New-Age Leadership Mindset; Reinvent: Business with Technology Integration; และ Refine: Philosophy of Success of the New Era ซึ่งล้วนแล้วแต่มีส่วนช่วยวางพิมพ์เขียว สู่ความเป็นผู้นำทางธุรกิจยุคใหม่ สไตล์ The FUTURPRENEUR ในขณะที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และ สังคมกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก 

ท่ามกลางภูมิทัศน์ธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนผ่านในปัจจุบัน เราจำเป็นต้องก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิก ออกค้นหา “มุมมองใหม่” ของผู้นำทางธุรกิจยุคใหม่ สู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับองค์กรของตน และนี่คือที่มาของ เวที Reimagine: New-Age Leadership Mindset เวทีดังกล่าวได้ 2 ผู้บริหารระดับ C-Level มาร่วมแบ่งปันมุมมองการเป็นผู้นำยุคใหม่ ปกเขตร รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด กล่าวว่า สินทรัพย์ดิจิทัลยังเป็นสิ่งใหม่สำหรับเมืองไทย และยอมรับว่าการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลยังมีความเสี่ยงสูง จึงแนะนำให้เป็นการลงทุนทางเลือกไม่เกิน 3-5% แต่ในส่วนของแมกซ์บิท ธุรกิจที่ทำอยู่ในปัจจุบันเป็นการจับกลุ่มองค์กรหรือบีทูบี ซึ่งจะมีความเข้าใจเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลพอสมควร ขณะที่การลงทุนส่วนบุคคลยังต้องระมัดระวัง แต่เทรนด์ดิจิทัลเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

ธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บอกเล่าประสบการณ์เปลี่ยนผ่านธุรกิจสินเชื่อรายย่อยด้วยเป้าหมายการเป็นธุรกิจสะดวกซื้อด้านการเงิน ผ่านศรีสวัสดิ์ทั้ง 6,000 สาขา วางเป้าหมายเป็นแหล่งสินเชื่อรายย่อยของกลุ่มรากหญ้า ต้องการสร้างการเติบโตไปพร้อมกับสังคม ในฐานะนันแบงก์ที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ด้วยพอร์ตสินเชื่อที่มีกว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมก้าวสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีเติบโตควบคู่ไปกับสังคม 

Advertisment

เวที Reinvent: Business with Technology Integration เป็นการบอกเล่าประสบการณ์ในการบูรณาการองค์ความรู้ใหม่เข้ามาให้ธุรกิจ โดย ณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทในเครือ MTS Gold แม่ทองสุก กล่าวว่าธุรกิจค้าทองคำในปัจจุบันต้องเปิดกว้างและก้าวให้ทันโลก การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการค้าทองคำทำให้เปิดโอกาสในตลาดใหม่ๆ และพร้อมแข่งขันในตลาดทั่วโลก MTS เป็นผู้ค้าทองรายแรกของไทยที่ขายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังก์ซึ่งร่วมกับธนาคารกรุงไทย เปิดให้คนลงทุนทองคำผ่านระบบดิจิทัล และเพิ่มช่องทางขายผ่านโมบายแบงกิ้ง K+ ของธนาคารกสิกรไทย เป็นอีกก้าวของการทำธุรกิจทองคำในยุคดิจิทัล 

Advertisment

นักธุรกิจรุ่นใหม่อีกราย พรรณอวิกา ลิมปะพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิลิงก์ ประเทศไทย จำกัด ถ่ายทอดประสบการณ์เปิดตลาดจีนผ่านสื่อสังคมออนไลน์จีนทุกแพลตฟอร์ม นำสินค้าไทยหลายแบรนด์บุกตลาดจีน และนำนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเพิ่ม ซึ่งล่าสุดได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ WEITAIGUO เพื่อดึงคนจีนกลุ่มตลาดกลาง-บนเข้ามาเที่ยวไทย โดยทำมินิแอปผูกกับแพลตฟอร์ม WeChat ของจีนที่เป็นแอปพลิเคชั่นที่คนจีนทุกคนใช้ โดยนำผู้ประกอบการไทยทั้งแหล่งท่องเที่ยว อาหาร และกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มตลาดบน ซึ่งมีผลสำรวจว่ากลุ่มนี้ใช้จ่ายในการท่องเที่ยววันละ 40,000-100,000 บาทต่อวัน ให้เข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น โดยมินิแอปใหม่นี้จะพร้อมเปิดบริการในเดือนกันยายน

ส่วน เวที Refine: Philosophy of Success of the New Era เปิดพื้นที่ให้ผู้นำธุรกิจรุ่นใหม่ได้เสนอปรัชญาสู่ความสำเร็จในแบบใหม่ ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด กล่าวถึงธุรกิจของจิตตะ เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนวิเคราะห์การลงทุน ซึ่งเป็นกลไกของสมองกลอัจฉริยะ หรือ AI เข้ามใช้ตั้งแต่ 10 ปีก่อนปัจุบันยิ่งตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตทิศทางการงทุนจะมีเรื่องของเทคโนโลยี และ AI เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น 

นักธุรกิจอีกราย ดร.จักรพล จันทวิมล ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารการตลาด บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นผู้บริหารยุคใหม่ที่มีแนวคิดใหม่ในการรักษาแบรนด์และสินค้าที่อยู่มานานถึง 71 ปีอย่าง “นันยาง” ให้ยืนหยัดครองใจผู้บริโภคด้วยรูปแบบสินค้าเดิมไม่เปลี่ยน ด้วยการวางแผนสื่อสารแบรนด์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ยืนหยัดได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้อีกธุรกิจของครอบครัวคือ ซีคอนสแควร์ ศูนย์การค้าที่มีอายุยืนยาวกว่า 30 ปี ต้องปรับตัวรองรับความต้องการยุคใหม่ ด้วยการดึความส่วนร่วมของชุมชนเข้ามาเพิ่มสีสันให้ศูนย์การค้ามีแรงดึงดูดกับชุมชน 

ทั้งหมดนี้คือพิมพ์เขียวสู่ความเป็นผู้นำทางธุรกิจยุคใหม่ในสไตล์ The FUTURPRENEUR ในห้วงเวลาที่ความสำเร็จ ไม่สามารถได้มาด้วยวิธีการเดิมๆ อีกต่อไป เราจำเป็นต้องจับมือกัน ออกแบบขีดเขียน “ปรัชญาสู่ความสำเร็จ ฉบับใหม่” ฉบับ The Next Tycoon 2024 ธุรกิจยุคใหม่ต้องมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้คนเข้าถึงได้ง่ายและตอบโจทย์ได้ทุกความเปลี่ยนแปลง Forbes Thailand รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยวางพิมพ์เขียวสู่ความเป็นผู้นำทางธุรกิจยุคใหม่ ผ่านเวทีเสวนาที่ผู้นำธุรกิจแถวหน้ารุ่นใหม่จากหลากหลายอุตสาหกรรม ได้แลกเปลี่ยนแบ่งปันมุมมองและองค์ ความรู้ใหม่ ที่ใช้ขับเคลื่อนองค์กรของตนให้เติบโตอย่างยั่งยืน และยังคำนึงถึงส่วนรวม  หากแต่ยังรวมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ตลอดจนสังคมและโลก เป็นปรัชญาแห่งความสำเร็จฉบับใหม่