หัวใจของการทำ SEO ในตลาดออนไลน์ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด

หัวใจของการทำ SEO ในตลาดออนไลน์ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด

การตลาดแบบ SEO เรียกได้ว่า “เป็นการ ให้ความสำคัญกับความอยากรู้ของคน” ที่มาพร้อมกับ “วิธีเล่นเกมการเปรียบเทียบในเชิงจิตวิทยา”

ลองคิดดูว่าถ้าลูกค้า Search ด้วยคำค้นหาอะไรสักอย่าง หรือพิมพ์ถามสักประโยค แน่นอนนั่นคือความสงสัย และขั้นต่อไปคือเขาต้องเปรียบเทียบแน่ ๆ จากรายการที่ปรากฏขึ้นบน Search Engine นั้น ส่วนที่น่าสนใจคือ ไม่ใช่อันดับแรกของหน้าแรกเสมอไปที่ลูกค้าจะเลือก “ซื้อ” ในที่สุด 

ภายใต้ระยะเวลาสั้น ๆ ในการค้นหา เปรียบเทียบ จนตัดสินใจคลิก หรือกดซื้อแบบออนไลน์ ใช้เวลาไม่กี่นาที แต่การซื้อซ้ำ และการมี Loyalty กับแบรนด์ ก็เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็อยากได้จากลูกค้าของตนเองทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากการทำการตลาดที่ใส่ใจ จริงจัง และวัดผลได้

เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้ ท่านก็จะสังเกตเห็นได้ว่า ประเด็นที่เราเกริ่นมา จะมีคีย์เวิร์ดที่สำคัญเพียงแค่ 3 อย่าง ได้แก่ ความอยากรู้, การเปรียบเทียบ และการซื้อซ้ำ เป็นหลักการที่ง่ายมาก เรื่องนี้นักการตลาดรู้ทุกคน แต่มีไม่กี่คนที่ “ทำถึง!”

ทำไมหลักการเรียบง่าย ถึงทำยาก มีอะไรซ่อนอยู่?

อย่างที่บอกไปแล้วว่า ความอยากรู้, การเปรียบเทียบ และการซื้อซ้ำ 3 คำนี้ นักการตลาดทุกคนล้วนกล่าวถึงและอวดอ้างความเหนือชั้นของตน ที่มีสไตล์การเล่น รวมทั้งกลยุทธ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ บริษัท Search Monopoly มีอะไรที่น่าสนใจ และสามารถพลิกเกมให้กับหลายธุรกิจให้มีส่วนแบ่งตลาดที่น่าประทับใจได้ นั่นก็คือ…

ADVERTISMENT

การจัดอันดับข้อมูล ให้ดูเหมือนดูเป็นพรหมลิขิต: การวางแผนจัดการขั้นตอนในการรับข้อมูลของผู้ใช้งาน และการจัดอันดับข้อมูลในผลการค้นหาตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ และยังสามารถส่งต่อกระบวนการแต่ละอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การค้นหา ให้ข้อมูล สร้างทางเลือกที่น่าสนใจ และการจูงใจ เพื่อให้เกิดการตัดสินใจ นับว่าเป็นการคิดวางแผนที่ได้ผลมาก และทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการเข้าถึงนั้น ได้รู้สึกว่า เขาได้เลือกมาดีแล้วในทุกขั้นตอน 

ยกตัวอย่าง เช่น การรับข้อมูลจากการ Search มีการวางแผนงานด้าน SEO ที่ดี พอเข้าเว็บมาก็เจอข้อมูลที่ตรงกับความต้องการ และเมื่อออกจากเว็บไซต์ ก็ได้เจอข้อมูลที่ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้นจากโซเชียลมีเดีย ก็จะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกประทับใจและมีความต้องการซื้อในที่สุด ถือว่าจัดอันดับข้อมูลที่ส่งออกไปยังผู้ใช้งานได้ดี 

ADVERTISMENT

ในทางตรงกันข้าม หากผู้ใช้งานได้รับข้อมูลที่ชวนให้สับสน หรือว่าเกิดความรำคาญมากเกินไป ก็จะทำให้โอกาสในการตัดสินใจซื้อของคนคนนั้นหายวับไปทันที

การโฆษณาออนไลน์ที่ถูกจังหวะเวลา: การใช้เครื่องมือทางการตลาดที่เป็นการโฆษณาออนไลน์ เป็นที่นิยมอย่างมาก เรียกได้ว่า “ไม่ทำไม่ได้” ซึ่งนั่นก็คือ การใช้ Google Ads หรือ Bing Ads นั่นเอง กล่าวได้ว่าการใช้ Ads นี้ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่ใคร ๆ ก็ใช้ แต่คนที่ทำได้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด มักจะเป็นผู้ที่สามารถแสดงโฆษณาให้ตรงกับคำค้นหาของผู้ใช้งาน และยังสามารถแสดงเนื้อหา คีย์เวิร์ด ประโยคจูงใจ ให้ถูกที่ถูกเวลาเพื่อเข้าไปนั่งอยู่ในใจว่าที่ลูกค้าได้อีกด้วย 

นอกจากนี้ สิ่งที่วัดผลว่าใครจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สมน้ำสมเนื้อกับต้นทุนทางการตลาด นั่นก็คือ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงจะทำให้ “ถูกจังหวะ” และสร้างการคลิกโฆษณาที่เกิดผลตอบแทนเป็นเม็ดเงินกลับมาได้

การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจุดนี้เป็นกลยุทธ์ในการตอบสนองต่อข้อมูลที่และพฤติกรรมของผู้ใช้งานประเภทต่าง ๆ ที่มาในรูปแบบออนไลน์ กล่าวคือ การใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตทั้งหมดในหนึ่งวินาที มีการเสิร์ชหาข้มูลอะไรบางอย่างแบบมหาศาล จะหยิบจับอะไรก็เจอข้อมูลเต็มไปหมด ทำให้การใช้เครื่องมือการเก็บข้อมูล แยกแยะ และนำมาวิเคราะห์ต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นไม่ยาก แต่คนที่จัดการเก่ง วิเคราะห์เก่ง จะทำให้ชุดข้อมูลอันล้นหลามนั้นนำไปสร้างมูลค่าได้ง่าย 

เมื่อมีการเก็บรวบรวมอยู่เสมอ วิเคราะห์ตรงจุด จัดลำดับได้ดี และส่งต่อไปในรูปแบบโฆษณาที่ติดตามผลได้ ก็จะทำให้การทำ SEO และการทำตลาดออนไลน์แบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ!

การพัฒนาและบำรุงรักษาเทคโนโลยีการค้นหา: เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ ถูกพัฒนาไม่หยุดหย่อน จากทั้งคน และปัญญาประดิษฐ์ บวกกับแนวโน้มด้านการบริโภคข้อมูลที่มีความมาไวไปไว ก็ทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นความท้าทายที่แบรนด์และคนทำการตลาดออนไลน์ต้องรู้เท่าทัน 

การพัฒนาเทคโนโลยีการค้นหา เช่น อัลกอริทึมการค้นหา, การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP), และการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) มีไว้เพื่อสนับสนุนพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้งานปรับปรุงความแม่นยำและประสิทธิภาพของการค้นหา ทั้งนี้ การพัฒนาและบำรุงรักษาเทคโนโลยีการช่วยเอื้อประโยชน์ให้กับภาพรวมของการทำการตลาดของแบรนด์ และยังเป็นสิ่งที่เอื้อประโยชน์ในด้าน ความสามารถในการเอาชะคู่แข่ง ความสามารถในการบริหารทรัพยากร ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการลดต้นทุนทางการตลาดลงได้

การสร้างแพลตฟอร์มที่หลากหลาย: คือการขยายบริการของตนไปยังผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ นอกเหนือจากการค้นหา เช่น ระบบปฏิบัติการมือถือ, บริการอีเมล, คลาวด์คอมพิวติ้ง, และอื่น ๆ ซึ่งเปรียบเสมือนการครองน่านน้ำทางการตลาดเป็นของตัวเอง (Positioning) 

แพลตฟอร์มยิ่งหลากหลาย ยิ่งเหมาะสม ยิ่งได้เปรียบ! และยังเอื้อต่อการนำข้อมูลมาต่อยอดเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจในอนาคตได้ง่ายขึ้นด้วย การมีแพลฟอร์มหลากหลายก็ทำให้มีโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคหลายกลุ่ม มีข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งานในหลายรูปแบบ อีกทั้งเป็นช่องทางนำเสนอ Product Line เดิมไปยังกลุ่มตลาดใหม่ และสร้างการรับรู้ที่ดีไปยังฐานลูกค้าเก่าที่ใช้งานหลายแพลตฟอร์มได้ด้วย

การทำ SEO นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดออนไลน์ ที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก และหากถามว่าทำไมแบรนด์ใหญ่ ๆ จึงต้องหาจ้างคนที่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยเฉพาะ และเลือกผู้ที่เล่นเกมเป็น? คำตอบนั้นง่ายมาก นั่นก็คือ “เขาต้องการมูลค่าที่เป็นเม็ดเงินตอบแทนกลับมาเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด” การเลือกผู้เล่นอย่าง บริษัท Search Monopoly ให้มาทำ SEO และช่วยให้การตลาดออนไลน์เป็นไปอย่างถึงพริกถึงขิง จะทำให้คนทั่วไปมีความอยากรู้อยากเห็นในธุรกิจ และการเข้าใจลูกค้าจะทำให้ผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้เกิดการเปรียบเทียบแล้วเห็นมูลค่าที่มากกว่า