รวบตึง ! ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาอะไรบ้าง ฉีดแล้วอันตรายไหม ที่นี่มีคำตอบ

ฟิลเลอร์ใต้ตา

นาทีนี้ต้องยกให้ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการด้านความงามที่ถูกนำมาแก้ไขปัญหาบริเวณใต้ตา ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ดูอิ่มฟูขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแรกครั้งแรกที่ฉีดโดยไม่ต้องผ่าตัด แถมหลังทำก็สามารถกลับไปใช้ชีวิต ช็อปปิ้งกินข้าวได้ตามปกติ ตอบโจทย์สาว ๆ หนุ่ม ๆ ทุกไลฟ์สไตล์ แต่ก่อนฉีดใต้ตาเราต้องรู้ก่อนว่าหัตถการนี้มีข้อดี ข้อกำจัดอะไรบ้าง หรือมีการเตรียมตัวและการดูแลตัวเองอย่างไรให้เหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ดี ทุกคำตอบพร้อมรวบตึงไว้ในนี้ !

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร แก้ไขปัญหาอะไรบ้าง

ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการรักษาด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารบริสุทธิ์ที่สามารถนำมาฉีดบริเวณใบหน้าได้ โดยสารชนิดนี้มีคุณสมบัติหลักคือการอุ้มน้ำได้ดี เหมาะแก่การนำมาฉีดเพื่อเติมชั้นผิวในบริเวณที่เป็นร่องแอ่ง ไม่เรียบเนียนให้ดูอิ่มฟูขึ้น เติมขึ้น อย่างบริเวณใต้ตาที่มักประสบปัญหาร่องใต้ตาลึก ถุงใต้ตา เบ้าตาลึก ตาโหล ที่ทำให้ผิวในบริเวณนั้นดูไม่เรียบเนียน อีกทั้งยังทำให้เกิดความหมองคล้ำร่วมด้วย ซึ่งเมื่อเติมใต้ตาเข้าไปแล้วมันก็จะช่วยฟื้นฟูได้ดังนี้

  • ผิวใต้ตาดูเต่งตึง กระชับขึ้น
  • ใต้ตาดูอิ่มฟู เต็มขึ้น ทำให้ผิวใต้ตาเรียบเนียน
  • ใต้ตามีความกระจ่างใส
  • แก้ไขริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา หรือรอยเหี่ยวย่นได้ดี
  • แก้ไขถุงใต้ตา หรือความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตา

และนอกจากใต้ตาแล้วฟิลเลอร์ยังสามารถแก้ไขปัญหาอื่น ๆ บนใบหน้าได้อีกด้วย เช่น การเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิว การเติมเต็มริมฝีปาก หรือการลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า เป็นต้น

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • งดทานยากลุ่มวิตามิน, แอสไพริน,  NSAIDs หรืออาหารเสริมอื่น ๆ ที่มีผลต่อการไหลเวียนเลือด หรือการฟกช้ำ
  • งดการผลัดเซลล์ผิว สครับ หรือแว็กซ์ผิว
  • งดดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมงก่อนฉีดfillerใต้ตา
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมใดก็ตามที่ทำให้เลือดสูบฉีด

4 ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ขั้นตอนที่ 1 : เจ้าหน้าที่ทำการเคลียร์ผิวหน้าให้สะอาด เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์
  • ขั้นตอนที่ 2 : เมื่อทำความสะอาดหน้าเสร็จแล้ว แพทย์ประเมินพร้อมวางจุดที่ต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • ขั้นตอนที่ 3 : หลังจากการประเมินเสร็จสิ้น แพทย์จะทำการแปะยาชาบริเวณใต้ตาทิ้งไว้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ 
  • ขั้นตอนที่ 4 : เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในจุดที่วางเอาไว้ในปริมาณ cc ที่เหมาะสมต่อชั้นผิว และเมื่อทำการรักษาเสร็จสิ้นแพทย์จะแนะนำข้อปฏิบัติหลังฉีดfillerใต้ตาให้กับผู้เข้ารับบริการ

วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวม หรือลดการอักเสบของผิวได้
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส เช่น การขยี้ตา การกด การนวด 
  • ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด ของหมักดอง อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในอุณหภูมิร้อน เช่น การอาบแดด การซาวน่า หรือการอยู่หน้าเตาร้อน
  • ทานผัก ผลไม้ที่มีวิตามินสูง เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ
  • ควรดื่มน้ำเปล่าวันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีอะไรบ้าง

เชื่อว่าหลายคนคงลังเลว่าจะฉีด filler ใต้ตาดีไหม ? และเพื่อให้ประกอบการตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้น เราก็เลยจะมาเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่าข้อดี-ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีอะไรบ้าง ควรค่าแก่การฉีดหรือไม่

ข้อดี

  • ช่วยแก้ไขริ้วรอยร่องลึก ความหย่อนคล้อยและความหมองคล้ำใต้ตาได้
  • เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบการผ่าตัด หรือไม่มีเวลาพักฟื้นนาน
  • หลังทำไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ
  • มีความปลอดภัย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ (หากฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และแพทย์มีประสบการณ์)
  • ปรับแต่งได้ง่าย ฉีดไปแล้วไม่พอใจก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาออก หรือถ้าต้องการฉีดเพิ่มก็สามารถกลับมาเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเพิ่มอีกได้ตามปริมาณที่เหมาะสม

ข้อเสีย

  • ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่สามารถอยู่ได้แบบถาวร สารเติมเต็มจะสลายไปตามระยะเวลาของแต่ละรุ่น
  • ต้องกลับมาฉีดซ้ำเรื่อย ๆ หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นาน
  • หลังฉีดอาจมีอาการบวม แดง หรือรอยช้ำขึ้นได้ตรงตำแหน่งที่ฉีด
  • หากได้รับฟิลเลอร์ปลอม คลินิกเถื่อน หมอเถื่อน อาจเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ เช่น หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวม เป็นก้อน บางเคสอาจอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น ตาบอด หรือเกิดภาวะเนื้อตาย
  • หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์อาจทำให้เกิดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนได้

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีผลข้างเคียงไหม

มีหลายคนกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนว่ามันจะอันตรายไหมหรือแก้ไขได้หรือเปล่า ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ ลักษณะที่พบได้ปกติ ไม่เป็นอันตราย และลักษณะที่เป็นอันตราย ควรรีบพบแพทย์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ADVERTISMENT
  • อาการที่สามารถพบได้ – อาการบวม แดง หรือมีรอยช้ำบริเวณที่ฉีด เป็นอาการที่พบได้บ่าย และสามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติอยู่แล้วหลังฉีด ซึ่งบางอาการจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก็หายเป็นปกติ สำหรับอาการบวมจะเกิดขึ้นราว ๆ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • อาการผิดปกติ เป็นอันตราย – หลังผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์ แต่ฟิลเลอร์ยังเป็นก้อนใต้ตา อีกทั้งยังมีอาการบวมมากขึ้นเรื่อย ๆ สัมผัสแล้วรู้สึกเจ็บ ร้อน อีกทั้งยังมีอาการอักเสบ ผิวในบริเวณนั้นเริ่มเปลี่ยนสี ตาพร่ามัว ให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่ถูกต้อง อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเกิดได้จากการได้รับฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

สรุปแล้วฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดีไหม ?

ปัจจุบันฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ถูกพูดถึงทั้งในไทยและต่างประเทศ ในแง่ของคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่ดูเสื่อมโทรม ไม่สดใสให้ดูดีขึ้น โดยหลังทำเสร็จก็ไม่ต้องกลับไปนอนพักฟื้น สามารถไปทานข้าว ช็อปปิ้ง หรือทำงานได้ตามปกติ นับเป็นหัตถการยอดนิยมทั้งในหมู่คุณผู้ชายและคุณผู้หญิงที่ต้องการแก้ไขใต้ตาให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง ใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับปัญหา ใช้ filler แท้ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพ ไม่เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา

ใครที่มองหาคลินิกสำหรับฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ Doctor Mek Clinic เราคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ ทุกเคสดูแลโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญด้านการรักษา โดยใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่วมกับการใช้ฟิลเลอร์มาตรฐานระดับสากล ผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในไทยและต่างประเทศ ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอเมฆมีราคาสมเหตุสมผล พร้อมโปรโมชั่นบ่อย ๆ สนใจปรึกษาและประเมินปัญหาใต้ตาเบื้องต้นได้ฟรี เราดูแลอย่างใกล้ชิดทุกเคส

ADVERTISMENT