วันที่ 18 ตุลาคม 2567 นายณัฏฐ์ เกษมอัครวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GET Venture เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าพอร์ตการลงทุนใน Private Credit จะเติบโตทะลุ 300 ล้านบาท ในปี 2567 และตั้งเป้าที่จะเพิ่มเป็น 750 ล้านบาท ในปี 2568 ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการขยายการลงทุนในทั้ง Private Credit และธุรกิจขายฝาก เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่กำลังขยายตัว นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างความหลากหลายและความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุน
ในการประชุมผู้ถือหุ้นล่าสุด นายณัฏฐ์ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์ในการขยายการลงทุนในตราสารหนี้นอกตลาดหรือ Private Credit รวมถึงการเริ่มต้นธุรกิจขายฝาก ซึ่งนายณัฏฐ์มั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างพอร์ตการลงทุนที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่าพอร์ตการลงทุนจะทะลุ 300 ล้านบาท ในปีนี้
GET Venture มุ่งเน้นการลงทุนใน Private Market ซึ่งเป็นตลาดที่เปิดโอกาสให้เฉพาะนักลงทุนที่มีศักยภาพทางการเงินสูง แตกต่างจาก Public Market ที่ใครก็สามารถลงทุนได้ นายณัฏฐ์ชี้ให้เห็นว่า Private Market มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจมากกว่า หากบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ โดยบริษัทตั้งเป้าพัฒนากลยุทธ์การลงทุนเพื่อตอบสนองความต้องการเงินทุนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
ในปี 2567 GET Venture ยังได้มีการลงทุนในโครงสร้างบริหารจัดการ รวมถึงระบบ IT การพัฒนาบุคลากร และจัดตั้งทีมกรรมการที่ปรึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตสำหรับปี 2568 บริษัทได้วางแผนการลงทุนออกเป็น 3 แนวทางหลัก ได้แก่
- Private Credit – ขยายการลงทุนไปยังอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง
- ธุรกิจขายฝาก – เป็นตลาดที่มีความต้องการสูง โดยมีลูกค้าที่สนใจขายอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก
- ธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ – มุ่งเน้นการบริหารจัดการธุรกิจภายในเพื่อควบคุมความเสี่ยงและสร้างโอกาสในการเติบโต
“เรามั่นใจว่าการขยายไปสู่ธุรกิจขายฝากและอสังหาริมทรัพย์จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายการเติบโตพอร์ตถึง 750 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและการคัดสรรโอกาสการลงทุนที่เหมาะสมจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับความสำเร็จในอนาคต” นายณัฏฐ์ ทิ้งท้าย