ระยะริดสีดวงแบบไหนต้องไปหาหมอ

“ก็ลมมันเย็น” ประโยคที่เต็มไปด้วยความรู้สึกจากโฆษณาที่น่าจะคุ้นหูกันมาบ้าง ซึ่งคำนี้เป็นหนึ่งในตัวแทนความรู้สึกของคนที่เป็นริดสีดวงทวาร เนื่องจากมีอาการเจ็บที่ก้น หรือมีติ่งเนื้อยื่นออกมาจนทำให้นั่งไม่ได้นั่นเอง แต่ก่อนจะชี้ชัดไปว่าเป็นริดสีดวง มาดูกันว่าที่จริงแล้วริดสีดวงมีอาการอย่างไร มีกี่ระยะ และอาการแบบไหนที่ควรต้องไปพบแพทย์

ริดสีดวงเกิดขึ้นจากอะไร

ริดสีดวง เกิดจากการโป่งพองที่ผิดปกติของเส้นเลือดดำที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ทวารหนัก ทำให้เกิดความดันในหลอดเลือดสูงขึ้น ซึ่งการโป่งพองนี้เกิดมาจากแรงดันภายในช่องท้องที่เพิ่มมากขึ้น เช่น การเคลื่อนไหวของลำไส้มากกว่าปกติ การยืนหรือนั่งเป็นเวลานาน ภาวะตั้งครรภ์ เป็นต้น

เช็กอาการริดสีดวง แบบไหนต้องไปหาหมอแล้ว

ADVERTISMENT

อาการของริดสีดวงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ริดสีดวงภายนอก และริดสีดวงภายใน แตกต่างกันที่บริเวณของเส้นเลือดที่ผิดปกติ โดยริดสีดวงภายนอก เส้นเลือดที่มีการโป่งพองจะอยู่บริเวณด้านล่าง ใกล้กับรูทวารมากกว่าริดสีดวงภายใน และมักมีเส้นประสาทรับความรู้สึกอยู่บริเวณนั้นมากกว่า ผู้ป่วยที่เป็นริดสีดวงภายนอกจึงมักจะรู้สึกเจ็บมากกว่าผู้ป่วยที่เป็นริดสีดวงภายใน แต่ทั้งนี้สามารถพบการเกิดริดสีดวงภายในและภายนอกได้ในเวลาเดียวกันได้ด้วยเช่นกัน

การแบ่งระยะของริดสีดวงจะมีการแบ่งระยะเฉพาะในริดสีดวงภายในเท่านั้น ประกอบด้วย 4 ระยะ ได้แก่

ADVERTISMENT

ระยะที่ 1 ติ่งเนื้อมีขนาดเล็ก ไม่ยื่นออกมา อาจมีเลือดสดปนมากับอุจจาระบ้าง

ระยะที่ 2 เริ่มมีติ่งเนื้อยื่นออกมาระหว่างถ่ายหรือหลังถ่าย และสามารถหดกลับไปได้เอง

ระยะที่ 3 มีติ่งเนื้อยื่นออกมาระหว่างถ่ายหรือหลังถ่าย แต่ไม่สามารถหดกลับเข้าไปเองได้ ต้องใช้มือช่วยดันเข้าไป

ระยะที่ 4 มีติ่งเนื้อยื่นออกมาระหว่างถ่ายหรือหลังถ่าย แต่ใช้มือดันแล้วไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้ รู้สึกปวดและ รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

จากการแบ่งระยะข้างต้น จะเห็นได้ว่าระยะที่เริ่มมีความรุนแรง คือระยะที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นระยะที่เห็นอาการของโรคได้ง่ายและชัดเจน แน่นอนว่าหากสังเกตเห็นว่ามีติ่งเนื้อยื่นออกมาแล้วควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว แต่ทั้งนี้ในคำแนะนำทางการแพทย์ ให้คำแนะนำไว้ว่าไม่มีความจำเป็นต้องรอให้มีอาการที่รุนแรงก่อนแล้วค่อยมาปรึกษาแพทย์ สามารถไปพบแพทย์ได้ตั้งแต่อาการน้อย ๆ เพราะยิ่งเริ่มรักษาได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งมีผลดีมากเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้หายเร็ว ยังช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้อีกด้วย

ซึ่งสามารถเริ่มสังเกตอาการง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช่น รู้สึกปวดในรูทวารหนักตลอดเวลา มีอาการคัน ระคายเคือง ปวด บวม หรือแดงบริเวณรูทวารหนัก การขับถ่ายมีมูกขาว ๆ ปนกับสีเลือดคล้ำ ๆ เป็นต้น หากมีอาการแบบนี้สามารถมาปรึกษาแพทย์ได้เลย ไม่ต้องรอเวลา

ส่วนการรักษาโรคริดสีดวงทวารก็มีการรักษาได้หลายวิธี ขึ้นกับความรุนแรงของโรคและประเภทของริดสีดวงที่เป็น เช่น การผ่าตัดออก การเลเซอร์ ใช้ยางรัด และการรับประทานยาเพื่อทำให้หลอดเลือดดำแข็งแรงขึ้น ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เส้นเลือดโป่งแตกง่าย ซึ่งการรับประทานยานั้นก็เป็นหนึ่งในวิธีรักษาริดสีดวงที่ทำได้ง่าย สะดวก ไม่ต้องเจ็บตัว เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลา ใช้ความสม่ำเสมอ และอาศัยการปรับพฤติกรรมควบคู่กันไป

ยาสมุนไพรประเภทยาตำรับ ใช้รักษาริดสีดวงได้ ไม่กลับมาเป็นซ้ำ

สำหรับการรับประทานยานั้นก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งยาแผนปัจจุบัน ยาสมุนไพรไทย ยาสมุนไพรจีน ซึ่งยาแต่ละชนิดก็จะมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสารสำคัญและการออกฤทธิ์ของยาชนิดนั้น จึงปฏิเสธไม่ได้ที่เราจำเป็นต้องใช้ยาหลายชนิดรวมกัน เพื่อให้ได้ผลการรักษาตามที่ต้องการ

แต่ก็มีการค้นพบว่า การใช้สมุนไพรจีนประเภทยาตำรับ คือ การนำสมุนไพรหลาย ๆ ชนิดมาสกัดให้ได้ปริมาณสารสำคัญที่ต้องการและนำมาผสมรวมให้อยู่ในยาเม็ดเดียวกัน ซึ่งพบว่าการรักษาด้วยสมุนไพรตำรับเป็นการรักษาแบบองค์รวม เพราะสมุนไพรต่าง ๆ ในตำรับนั้นมีฤทธิ์ที่แตกต่างกัน จึงสามารถลดสาเหตุของริดสีดวงได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ 

– ช่วยขับลม
– ลดแรงดันในช่องท้อง
– ช่วยขับของเสียและลดไขมันที่ทำให้เส้นเลือดอ่อนแอ
– เพิ่มน้ำในอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น ไม่ต้องออกแรงเบ่งถ่ายมาก
– ลดการเสียดสีริดสีดวง
– ช่วยบำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรง ไม่โป่งพองแตกง่าย
– ลดอาการอักเสบ บวมของริดสีดวง ลดการปวดเจ็บลง 

ปัจจุบันมีการพัฒนาสูตรตำรับยาสมุนไพรจีนนี้ให้อยู่ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น แต่คงไว้ด้วยสมุนไพรแท้ 100% ที่มีประสิทธิภาพในการรักษา หากคุณลองเข้าไปในร้านขายยาและเห็นยาตราปลามังกร นั่นคือยาที่เรากำลังพูดถึง นอกจากยาตราปลามังกรจะรักษาริดสีดวงได้แบบองค์รวมแล้ว ยังสามารถรักษาริดสีดวงได้ทุกระยะ และไม่ทำให้กลับมาเป็นซ้ำ ซึ่งใช้เทคโนโลยีในการผลิตให้เป็นเม็ดเล็ก เพื่อการกระจายตัวและแตกตัวได้ดีกว่า รวมถึงใช้การเคลือบยาสมุนไพรแยกเป็น 5 ชั้น จึงช่วยให้สารสำคัญสามารถออกฤทธิ์ทีละชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผ่านมาตรฐาน GMP จึงมั่นใจได้ทั้งในประสิทธิภาพการรักษา และมาตรฐานความปลอดภัย

สนใจปรึกษาหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของยาริดสีดวงตราปลามังกร ติดต่อได้ที่