8 กลุ่มผู้ประกอบการฯยื่นหนังสือถึงนายกขอให้รัฐบาลพิจารณาอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่าย2-5โมงเย็น

8 กลุ่มผู้ประกอบการฯ ยื่นหนังสือถึงนายกขอให้รัฐบาลพิจารณาอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่าย 2-5 โมงเย็นและการขายออนไลน์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ทำเนียบรัฐบาล – วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และการบริการ รวม 8 กลุ่มองค์กร นำโดย นายกวี นายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย และนายณัฐชัย อึ๊งศรีวงศ์ นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจคราฟท์เบียร์ เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลร่วมกันยื่นหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เรื่อง “โปรดพิจารณาอนุญาตการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเวลา 14.00 ถึง 17.00 น. และการขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อประสิทธิผลในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม ร้านอาหาร และค้าปลีก” โดยมีนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับหนังสือ

นายกวี สระกวี นายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย เปิดเผยว่า ครั้งนี้เครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และการบริการ ประกอบด้วย LINEMAN Wongnai, ชมรมสถานบันเทิงหาดป่าตอง, สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจคราฟท์เบียร์, สมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย, สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร, สมาคมผู้ประกอบการไวน์ไทย, สมาคมสุราท้องถิ่นไทย, และสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา รวม 8 กลุ่มองค์กร ได้ร่วมกันยื่นหนังสือถึงตัวแทนรัฐบาลเพื่อสนับสนุนและขอให้รัฐบาลพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย 2 เรื่องที่เกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเร่งด่วนเพื่อให้เหมาะสมกับบริบทประเทศที่เปลี่ยนไปและขจัดอุปสรรคในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2558 และ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 

นายกวี กล่าวว่า การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลา 14.00-17.00 น. ตามประกาศฯ นั้นทำให้สถานประกอบการทั้งหลายเสียโอกาสในการประกอบธุรกิจ อีกทั้งยังส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย เครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการฯ จึงขอให้รัฐบาลโปรดพิจารณาปรับปรุงแก้ไขประกาศฯ โดยเร่งด่วน ให้การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเวลา 14.00-17.00 น. สามารถกระทำได้ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจร้านอาหารและค้าปลีกที่เกี่ยวเนื่องให้เติบโตขึ้น อีกทั้งเพื่อให้การขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์สาขาการท่องเที่ยวและสาขาอาหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล พร้อมทั้งสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความมั่นคงด้านรายได้และด้านเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยแบบองค์รวม

“ทั้งนี้เพื่อความสมดุลด้านสังคมและเศรษฐกิจ เครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการฯ จึงขอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการทางเลือกในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดจากการดื่มอย่างไม่มีความรับผิดชอบด้วย ได้แก่ หนึ่ง บังคับใช้กฎหมายอื่นที่มีอยู่แทนอย่างเคร่งครัด เช่น การห้ามมิให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปีหรือผู้ที่ครองสติไม่อยู่ รวมถึงการห้ามเมาแล้วขับ, และสอง สนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการสร้างวัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อสังคมและการสร้างจิตสำนึกการให้บริการอย่างมีความรับผิดชอบ รวมทั้งส่งเสริมการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการดื่มอย่างพอประมาณ และผลกระทบจากการดื่มอย่างเป็นอันตราย การเมาแล้วขับ โดยมาตรการเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในเชิงรุกที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงดังที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ” นายกวี กล่าว

ส่วนประเด็นการห้ามขายออนไลน์นั้น นายณัฐชัย อึ๊งศรีวงศ์ นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจคราฟท์เบียร์ กล่าวว่า การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์ในลักษณะเด็ดขาดดังเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบันตามประกาศฯ ไม่สอดคล้องกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยี รูปแบบการค้า และนโยบายการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ เครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการฯ จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาปรับปรุงกฎหมายการค้าการห้ามขายออนไลน์เป็นการกำกับการขายออนไลน์โดยจัดให้มีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ โดยกำหนดมาตรการตรวจสอบและการดำเนินการขั้นต่ำ ได้แก่ การกำหนดให้ผู้ค้าต้องเป็นผู้จดทะเบียนและได้รับอนุญาติตามกฎหมาย, การตรวจสอบอายุของผู้ซื้อและผู้รับสินค้า, การยืนยันตัวตนว่ามีอายุตามเกณฑ์ผ่านระบบสมาชิก, การกำหนดวิธีชำระเงินที่ยืนยันอายุผู้ซื้อได้, และการฝึกอบรมให้ความรู้ในการปฏิบัติตามกฎหมายแก่ตัวแทนด้านการขนส่ง

นายณัฐชัย กล่าวต่อไปว่า การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และมาตรการกำกับดูแลดังกล่าวเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพและปฏิบัติได้จริง ช่วยป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่ายโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอุปสรรคร้ายแรงต่อการประกอบวิชาชีพของประชาชน และไม่จำกัดสิทธิผู้บริโภคเกินควร อีกทั้งยังสอดคล้องกับสภาพการณ์และรูปแบบการค้า ทั้งยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ผู้ประกอบการรายเล็ก และผู้ประกอบการระดับชุมชน

“อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม เป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การจ้างงาน และการเติบโตของ GDP ไทย อีกทั้งยังเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทยที่ทั่วโลกยอมรับ ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล่านี้ ซึ่งเครือข่ายผู้ประกอบการฯ ขอบคุณและชื่นชมรัฐบาลในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนไป และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนของประเทศ ครั้งนี้เราหวังว่ารัฐบาลจะพิจารณาอนุญาตให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็นและการขายออนไลน์ ส่วนพวกเราเครือข่ายผู้ประกอบการฯ นั้นก็พร้อมที่จะร่วมมือและสนับสนุนรัฐบาลในการทำงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ พัฒนามาตรฐานและขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ นอกจากนี้เราก็พร้อมที่จะร่วมกันทำงานเพื่อสร้างวัฒนธรรมการประกอบการและการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ เมาต้องไม่ขับต่อไปด้วย” นายณัฐชัย กล่าว.