5 เทคนิคออกแบบแพ็กเกจจิ้งเครื่องประดับ ให้แบรนด์ดูหรูหรา มีระดับ!

5 เทคนิคออกแบบแพ็กเกจจิ้งเครื่องประดับ ให้แบรนด์ดูหรูหรา มีระดับ!

หลายคนอาจมองว่าแพ็กเกจจิ้งเป็นเพียงบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่สินค้า แต่ในทางการตลาดแล้ว แพ็กเกจจิ้งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่า และสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ ทำให้สินค้าดูโดดเด่น น่าจดจำ โดยเฉพาะกับสินค้าประเภทเครื่องประดับ ที่มักถูกมอบให้กันเป็นของขวัญหรือของแทนใจ เมื่อถูกบรรจุลงในแพ็กเกจจิ้งสุดพรีเมียม อย่างกล่องใส่เครื่องประดับจาก Lussopack ก็สามารถช่วยสร้างประทับใจตั้งแต่แรกเห็นไปจนถึงตอนเปิดดูเลยทีเดียว แต่จะมีวิธีการออกแบบอย่างไรให้สวยหรูดูพรีเมียม มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย!

1. รูปทรงกล่องที่มีลูกเล่น

ควรเลือกรูปทรงของกล่องให้เหมาะกับประเภทของเครื่องประดับ และมีขนาดที่พอดีกับตัวสินค้า เพื่อให้สินค้าดูโดดเด่น และสะดวกในการใช้งาน อาจเพิ่มลูกเล่นให้แพ็กเกจจิ้งน่าสนใจมากขึ้น เช่น ฝาแบบแม่เหล็ก กล่องแบบลิ้นชักที่สามารถเลื่อนเปิดได้ด้วยการดึงริบบิ้น กล่องที่เปิดแบบหนังสือ กล่องที่สามารถมองเห็นของด้านในได้ กล่องที่ใช้ริบบิ้นเป็นตัวล็อกกล่อง 

2. โทนสีและดีไซน์ที่เรียบหรู ดูแพง

“Less Is More” ดีไซน์ที่เรียบง่าย สะอาดตา ดูทันสมัย จะให้ความรู้สึกพรีเมียม และมีระดับมากกว่าการออกแบบที่ซับซ้อน หรือใส่ลวดลายเยอะๆ จึงควรใช้สีไม่เกิน 3 สี และเน้นสีของแบรนด์ให้โดดเด่น ตกแต่งด้วยตัวหนังสือ หรือโลโก้ในโทนที่เข้ากัน หรือโทนกลางๆ เช่น ดำ ขาว เทา เงิน ทอง หากเป็นแพ็กเกจจิ้งสำหรับเทศกาลหรือของขวัญ อาจใช้สีที่สะท้อนถึงบรรยากาศของช่วงเวลานั้นๆ เช่น แดง ทอง เขียว สำหรับเทศกาลปีใหม่ หรือ สีพาสเทลหวานๆ สำหรับวันวาเลนไทน์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เทคนิคพิเศษ เช่น การปั๊มนูน, ปั๊มจมหรือปั๊มฟอยล์มาช่วยเพิ่มมิติ ทำให้แพ็กเกจจิ้งดูแพงขึ้นโดยไม่ต้องใส่ดีเทลที่มากเกินไป

3. วัสดุที่มีคุณภาพ

เครื่องประดับเป็นสินค้าที่มีความละเอียดอ่อน จึงควรเลือกใช้กล่องที่ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกได้ หากต้องการประหยัดงบประมาณ อาจเลือกเป็นกล่องกระดาษแบบหนาที่มีเท็กซ์เจอร์ เคลือบด้าน หรือเคลือบเงา แต่หากอยากให้พรีเมียมมากขึ้น อาจเลือกเป็นกล่องที่หุ้มด้วยหนัง กำมะหยี่ ผ้าไหม ผ้าซาติน หรือกล่องไม้

4. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly)

อีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงคือ แพ็กเกจจิ้งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติ แต่ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์อีกด้วย ตัวอย่างเช่น กล่องกระดาษจั่วปังที่ผลิตจากกระดาษใช้แล้วนำมารีไซเคิล หรือถุงผ้าที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล เส้นใยธรรมชาติ แพ็กเกจที่สามารถเก็บไว้ใส่ของได้ ไม่ต้องทิ้งให้เป็นขยะ 

5. ใส่ใจรายละเอียดและการออกแบบภายใน

การออกแบบภายในที่ดี นอกจากจะช่วยเพิ่มความหรูหรา ยังช่วยปกป้องเครื่องประดับจากรอยขีดข่วนได้ด้วย อาจจะเลือกบุด้วยฟองน้ำ ผ้ากำมะหยี่ ผ้าไหม ผ้าซาติน ฯลฯ รองด้วยกระดาษ ใส่กล่องซ้อนกล่อง มีช่องหรือตัวล็อกเครื่องประดับให้อยู่กับที่ และอาจสกรีนคำขอบคุณ ข้อความเก๋ๆ หรือใส่การ์ดขอบคุณ คู่มือการใช้งาน ลงไปด้วย รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้สำคัญมาก เพราะจะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ใส่ใจและให้ความสำคัญกับลูกค้า

ADVERTISMENT

การลงทุนในแพ็กเกจจิ้งที่มีคุณภาพ ไม่เพียงช่วยปกป้องสินค้า แต่ยังสร้างความประทับใจ ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความพิเศษตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้สัมผัส มีโอกาสสูงที่จะบอกต่อ หรือถ่ายรูปแชร์ลงโซเชียลมีเดีย ทำให้แบรนด์ของคุณถูกพูดถึงและเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะฉะนั้นการออกแบบแพ็กเกจจิ้งที่ดีจึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ที่จะช่วยให้แบรนด์เติบโต และเข้าไปนั่งอยู่ในใจลูกค้าได้ไม่ยากเลย