เสิร์ฟรอยยิ้มแห่งความสำเร็จ จบแล้วไปต่อ! รับปริญญาพีไอเอ็มรุ่นที่ 14 พร้อมสร้างคนสู่เส้นทางมืออาชีพ

วันที่ 14 มีนาคม 2568 - 10:37 น.

สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) ร่วมฉลองความสำเร็จและแสดงความยินดีกับ ดุษฎีบัณฑิต มหาบัณฑิต และบัณฑิต รุ่นที่ 14 ในพิธีมอบปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2566 ภายใต้แนวคิด “พีไอเอ็ม SMILEY สี่ภาค – รอยยิ้มคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ PIM SAY CHEESE!” แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจำนวน 5,136 คน จากทั้งหลักสูตรไทย หลักสูตรนานาชาติ หลักสูตรจีน ที่พร้อมก้าวสู่โลกการทำงานด้วยความรู้ ความเชี่ยวชาญทั้งวิชาการและวิชาชีพ ครอบคลุมหลากหลายสาขาวิชา อาทิ บริหารธุรกิจ ธุรกิจอาหาร วิศวกรรมศาสตร์ ด้านหุ่นยนต์ ยานยนต์ คอมพิวเตอร์และAI นิเทศศาสตร์ ภาษาเพื่อการสื่อสารจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น การท่องเที่ยว ธุรกิจการบิน โลจิสติกส์ การเกษตร และการพยาบาล พร้อมชูเป้าหมายความสำเร็จใหม่ หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต 2.5 ปี รุ่นแรก ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างพยาบาลวิชาชีพนักจัดการที่มีมาตรฐานระดับสากล พร้อมบรรจุงานทันทีหลังสำเร็จการศึกษา ยืนยันคุณภาพด้วยอัตราการสอบผ่านใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลจากสภาการพยาบาลสูงถึง 91.3% และ สอบผ่านใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ถึง 82.6% โดยพิธีมอบปริญญาบัตรจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ อาคารหอประชุมปัญญาภิวัฒน์ ถนนแจ้งวัฒนะ

วันแห่งความสำเร็จนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจของบัณฑิต ผู้บริหาร คณาจารย์ และครอบครัว ที่ได้เห็นผลลัพธ์ของความมุ่งมั่นตั้งใจตลอดระยะเวลาการศึกษา ผ่านระบบการเรียนการสอนที่เน้นประสบการณ์จริง หรือ Work-based Education ซึ่งผสมผสานการเรียนภาคทฤษฎีควบคู่กับการฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ ทำให้นักศึกษาได้ค้นพบความถนัด ฝึกฝนทักษะ และพัฒนาความเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพของตนเอง ส่งผลให้พวกเขามีความพร้อมทำงานทันทีหลังสำเร็จการศึกษา (Ready to Work)

รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีพีไอเอ็ม กล่าวถึงแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนว่า “พีไอเอ็มมุ่งมั่นสร้างผู้สำเร็จการศึกษาให้มีความรู้เท่าทัน 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ เทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) สุขภาพ (Healthcare) การเงิน และภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและตลาดแรงงานยุคปัจจุบัน โดยพีไอเอ็มออกแบบหลักสูตรให้มีความยืดหยุ่น ทันต่อเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล กล้าคิด กล้าทำ ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ขอให้ผู้สำเร็จการศึกษาทุกท่านใช้โอกาสแห่งความสำเร็จนี้เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาตนเอง นำความรู้ ความสามารถ และความเป็นมืออาชีพไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมต่อไป” รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ กล่าว

ในด้านของผู้ใช้บัณฑิต การเป็นมหาวิทยาลัยเครือข่าย (Networking University) ทำให้พีไอเอ็มได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากองค์กร สถานประกอบการต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพของหลักสูตรและศักยภาพของบัณฑิตที่จบจากที่นี่ คุณกรกฤช จุฬางกูร ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิท โอโต บอดี้ อินดัสตรี จำกัด เสริมว่า “บริษัทให้การสนับสนุนโดยรับนักศึกษาฝึกงานและบัณฑิตจากพีไอเอ็มอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 ประทับใจในแนวทางการสอนที่แตกต่าง ทำให้นักศึกษามีทั้งความรู้และประสบการณ์ทำงานจริง บัณฑิตที่จบมาพร้อมทำงานทันที มีทักษะการทำงานและการปฏิสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติสำคัญของบุคลากรมืออาชีพที่อุตสาหกรรมต้องการ ปัจจุบันบริษัทยังคงร่วมมือกับพีไอเอ็มเพื่อพัฒนาบุคลากรคุณภาพ รับนักศึกษาจากพีไอเอ็มทุกปีและยังเปิดโอกาสให้เข้าทำงานกับบริษัทหลังสำเร็จการศึกษา”

พีไอเอ็มภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบุคลากรคุณภาพมาตลอดระยะเวลากว่า 18 ปี และพร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์การศึกษา การบริการวิชาการ เพื่อสนับสนุนสังคมและประเทศชาติ พร้อมมอบทุนการศึกษาเพื่อเยาวชน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน

ADVERTISMENT

มุมมองจากสองบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมการผลิตยานยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์เเละเทคโนโลยี ปัจจุบันทำงานที่ บริษัท ซัมมิท โอโต บอดี้ อินดัสตรี จำกัด “โช๊ค” นายณัฐดนัย อ่วมเกตุ ตำแหน่ง Production Engineer (ขวา) และ “นัท” นายธณพล ผลชล ตำแหน่ง New Project Engineer (ซ้าย) “รู้สึกภูมิใจที่ได้จบการศึกษาจากพีไอเอ็ม ที่นี่สอนให้เราพร้อมทั้งในด้านวิชาการและการทำงานจริง ได้เรียนรู้ทักษะสำคัญ ทั้งการวางตัวในองค์กร การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการพัฒนาทักษะวิศวกรรมที่ตรงกับสายงาน อีกทั้งสิ่งที่ประทับใจที่สุดคือตอนฝึกงาน ที่ได้รับโอกาสสัมผัสประสบการณ์ตรงจากหลากหลายแผนก ได้เรียนรู้การทำงานจริงแบบเข้มข้น ซึ่งช่วยให้เราเติบโตและพร้อมสำหรับการทำงานทันทีหลังจบการศึกษา โดยจะตั้งใจทำงานเเละหมั่นเรียนรู้ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง”

ADVERTISMENT

“น้ำผึ้ง” นางสาวภูริชนิดา จันทา บัณฑิตคณะพยาบาลศาสตร์ รุ่นแรก พยาบาลวิชาชีพ แผนกหอผู้ป่วยวิกฤติรวม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ขวา) กล่าวว่า “การเรียนพยาบาล 2.5 ปี ทำให้เราได้ใช้ความเป็นผู้ใหญ่ในการคิดไตร่ตรองด้วยเหตุผล พร้อมทั้งเรียนรู้การใช้หลักการในการวิเคราะห์ปัญหาจากสถานการณ์จริง การฝึกทักษะภาวะผู้นำในทุกสถานการณ์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการเห็นอกเห็นใจผู้อื่นในฐานะพยาบาลนักจัดการ การเรียนการสอนในหลักสูตรนี้ไม่เพียงแต่เรียนจากอาจารย์ แต่ยังได้เรียนรู้จากเพื่อนร่วมชั้นที่มีประสบการณ์ทำงานในโรงพยาบาลมาก่อน ซึ่งช่วยแบ่งปันประสบการณ์และเสริมสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้การเรียนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

“เมย์” นางสาวศิริรัตน์ ป้อมผาลา บัณฑิตคณะพยาบาลศาสตร์ รุ่นแรก พยาบาลวิชาชีพ แผนก IPD ศัลยกรรมกระดูก โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต (ซ้าย) กล่าวเสริมว่า “ระยะเวลาเรียน 2.5 ปีเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นพยาบาลวิชาชีพอย่างรวดเร็ว ทำให้เรามีความรับผิดชอบต่อชีวิตผู้อื่นมากขึ้น ประสบการณ์จากการฝึกงานในสถานพยาบาลชั้นนำที่ได้ทำงานร่วมกับสหวิชาชีพ และได้รับคำแนะนำจากอาจารย์และพยาบาลพี่เลี้ยงเป็นอย่างดี ทำให้เราได้ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และมั่นใจในคุณภาพของการเรียนการสอนที่ได้รับการรับรองจากสภาการพยาบาลและกระทรวง อว.”

ด้าน Miss ROM Sokkanika บัณฑิตสาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจสมัยใหม่ หลักสูตรนานาชาติ วิทยาลัยนานาชาติปัจจุบันทำงาน Business Development, ประเทศกัมพูชา เผยถึงสิ่งที่ประทับใจที่สุดในรั้วพีไอเอ็ม คือได้สนุกกับการเรียนรู้ในช่วงการฝึกปฏิบัติ และเรียนรู้จากการทำงานจริง ซึ่งรูปแบบการเรียน Work-based Education ได้มอบประสบการณ์โลกแห่งการทำงานจริงทำให้สามารถนำไปใช้กับอาชีพในอนาคตได้ดีมาก

“อิ่ม” นางสาวรฐพร ทองนวล บัณฑิตสาขาวารสารศาสตร์และคอนเวอร์เจ้น คณะนิเทศศาสตร์ ตำแหน่ง Live Streaming บริษัท กลอรี่ ออฟฟิเชียล จำกัด บอกถึงความประทับใจว่า วันนี้ดีใจมากที่ได้กลับมาเจอเพื่อนๆ อาจารย์ ได้ร่วมยินดีกับความสำเร็จของกันและกัน ตั้งแต่ตอนเรียนจนถึงตอนนี้ก็รู้สึกอบอุ่นเสมอ การเรียนที่พีไอเอ็มทำให้ได้นำความรู้ ประสบการณ์ ไปใช้ในการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม รู้สึกว่าตัวเองมีความแข็งแกร่ง โตขึ้น มีความรับผิดชอบ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ภูมิใจกับตัวเองในเวอร์ชั่นนี้มาก จบแล้วมีงานทำ จบแล้วเวิร์คจริงๆ ค่ะ