6 เทคนิคพิชิตแกรมม่า เก่งภาษาอังกฤษไว ไม่ต้องท่องจำ

6 เทคนิคพิชิตแกรมม่า เก่งภาษาอังกฤษไว ไม่ต้องท่องจำ

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาในการฝึกภาษาอังกฤษด้วยตนเอง โดยเฉพาะแกรมม่า หรือไวยากรณ์ที่ดูจะเป็นเรื่องซับซ้อน ยุ่งยาก มีกฎมากมายเต็มไปหมด ยิ่งอ่านก็ยิ่งไม่เข้าใจ ทางออกที่ดีสุดคือ การไปเรียนที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเพราะจะมีคุณครูช่วยอธิบายและตอบคำถามที่สงสัยได้ทันที แต่ถ้าไม่มีเวลาไปเรียน หรืออยากให้ภาษาอังกฤษพัฒนาเร็วขึ้น ลองปรับวิธีการฝึกใหม่ ด้วยเทคนิคง่ายๆ ที่เรานำมาฝากกันได้เลย

1. ปูพื้นฐานด้วย Part of speech 

หลายคนมักเริ่มจากการท่อง Tense แต่หากยังแยกชนิดของคำไม่ออกก็จะไม่เข้าประโยคนั้น หรือสร้างประโยคเองไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นจึงต้องทำความเข้าใจเรื่อง Part of speech หรือประเภทของคำให้แม่นเสียก่อน เช่น คำนาม (Noun), คำกริยา (Verb), คำคุณศัพท์ (Adjective), คำบุพบท (Preposition), คำสันธาน (Conjunction) ฯลฯ จะช่วยให้แยกส่วนต่างๆ ของประโยคได้ง่าย รู้ว่าอะไรควรวางตรงไหน และเข้าใจว่าส่วนใดที่เปลี่ยนแปลงไปตาม Tense เพราะบางครั้งอาจเจอประโยคยาวๆ เช่น The experienced chef, who had been preparing the dish for hours, finally served the exquisite meal that his guests had eagerly awaited. แต่จริงๆ ทั้งประโยคนี้เป็นประธานไปแล้วครึ่งหนึ่ง อีกกว่าครึ่งก็เป็นส่วนขยาย พอแยกได้ก็จะทำให้เข้าใจเรื่องการผัน Verb หรือใช้ Tense เพื่อลำดับเหตุการณ์ในรูปประโยคได้ง่ายขึ้น

2. ปรับวิธีการเรียนใหม่

การเรียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีท่องจำ นอกจากจะน่าเบื่อยังลืมง่าย จึงควรเรียนด้วยความเข้าใจ รู้ว่าอะไรมีที่มาที่ไปอย่างไร เช่น บางคนเอาแต่ท่องว่า He ต้องตามด้วย does ส่วน They ต้องตาม do แต่พอไปเจอชื่อคน หรือคำนามอื่นๆ อย่างเช่นตัวอย่างก่อนหน้าที่ประธานมีส่วนขยายยาวๆ ก็จะใช้ไม่ถูก ตรงกันข้ามหากเข้าใจว่า He, She, It หรือประธานใดก็ตามที่เอกพจน์ กริยาจะต้องตาม -s หรือ -es ก็จะเข้าใจว่าที่ใช้ does มาจาก do ที่เติม es ลงไปนั่นเอง 

3. เขียนสรุปในแบบของตัวเอง

เมื่อเข้าใจแล้วลองเขียนสรุปอีกครั้งในแบบของตัวเองให้อ่านง่าย อาจจะเป็น Short Note หรือ Mind Mapping และจัดระเบียบให้เป็นหมวดหมู่ เช่นเรื่อง Tense ให้อยู่รวมกัน เรื่อง If-Clause หรือ Conditional Sentence ให้อยู่รวมกัน จะได้มองเห็นภาพรวม และหยิบมาทบทวนได้ง่าย 

4. ทำแบบฝึกหัด

การทำแบบฝึกหัดจะเป็นตัววัดว่าเข้าใจสิ่งที่เรียนมาจริงไหม ตรงไหนที่เป็นจุดอ่อนหรือผิดซ้ำๆ จะได้อ่านทบทวนเพิ่มเติม นอกจากนี้ข้อสอบมักมีแนวทางหรือรูปแบบเฉพาะ หากฝึกทำบ่อยๆ ก็จะจับทางได้ว่าข้อสอบมักออกแนวไหน คำถามประเภทไหนที่เจอบ่อย รวมถึงกฎหรือข้อยกเว้นที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน และยังช่วยฝึกให้ทำข้อสอบได้เร็วขึ้นด้วย

5. อ่านให้เยอะ

หมั่นอ่านเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษ เช่น หนังสือ นิยาย บทความ ข่าว ฯลฯ จะทำให้จำสำนวนหรือรูปแบบการใช้ประโยคบางอย่างได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้ได้อย่างถูกต้องโดยไม่ต้องท่องจำ หากใครไม่ชอบอ่าน อาจจะเปลี่ยนเป็นการดูหนัง หรือเล่นเกมที่มีเนื้อหาภาษาอังกฤษแทนก็ได้

ADVERTISMENT

6. ฝึกใช้บ่อยๆ 

นำคำศัพท์และไวยากรณ์ที่ได้เรียนรู้มาฝึกใช้เป็นประจำให้คุ้นเคย อาจจะเริ่มจากสิ่งง่ายๆ เช่น เขียนไดอารี่เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เขียนแคปชั่นบนโซเชียลมีเดีย หรือฝึกคุยกับเจ้าของภาษา ไม่ต้องกังวลหากจะพูดผิด เขียนผิดไปบ้าง เพราะสิ่งเหล่านี้คือหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้ที่จะทำให้เราเก่งขึ้น!

สุดท้ายนี้การเรียนภาษาอังกฤษจะไม่ใช่เรื่องยากเลย หากเราทำให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แทนที่จะจำกัดตัวเองให้อยู่แค่ในตำรา เช่น กดติดตามเพจที่เป็นภาษาอังกฤษ ดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษ จะทำให้เราซึมซับการใช้ภาษาอังกฤษเข้าไปทีละน้อย และไม่รู้สึกเบื่อเหมือนว่ากำลังเรียนอยู่เลย

ADVERTISMENT