
บางจากฯ กับการเติบโตอย่างน่าสนใจ ขยายปีกธุรกิจสถานีบริการน้ำมันและ NonOil หลังการซื้อขายหุ้นเอสโซ่สำเร็จ เพราะทุกก้าวคือการตอบโจทย์ผู้บริโภค
นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้พูดคุยถึงการเติบโตของธุรกิจสถานีบริการน้ำมันบางจากและธุรกิจบริการเสริม (NonOil) หลังการซื้อขายหุ้นเอสโซ่ หรือ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) สำเร็จ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับกลยุทธ์ของธุรกิจสถานีบริการน้ำมันที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน
๐ เริ่มต้นที่ High Quality Products พลังงานน้ำมันคุณภาพสูงที่ดูแลทั้งรถและสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันบางจากฯ มีโรงกลั่นมาตรฐานระดับโลกถึง 2 แห่ง ได้แก่ โรงกลั่นบางจากพระโขนงและโรงกลั่นบางจากศรีราชา ที่ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงส่งตรงถึงผู้บริโภค เพราะให้ความสำคัญกับคุณภาพเป็นอันดับ 1 บางจากฯ จึงเป็นองค์กรแรกของประเทศไทยจากภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับรางวัลในด้านการบริหารจัดการ Global Performance Excellence Award ระดับ World Class การันตีได้ถึงการผลิตน้ำมันคุณภาพสูงที่มีจุดเด่นที่แตกต่าง ตอบสนองต่อเทคโนโลยียานยนต์ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง สามารถดึงสมรรถนะสูงของเครื่องยนต์ออกมาได้เต็มที่ ทั้งยังดีต่อเครื่องยนต์และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว และบริษัทยังเป็นเจ้าแรกๆ ที่ผลิตน้ำมันมาตรฐาน Euro 5 อีกด้วย
นอกจากนั้น สถานีบริการน้ำมันบางจากยังเป็นแบรนด์ที่ผ่านการรับรอง “หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน” ระดับสีเงินจำนวนมากที่สุดถึง 529 สาขา จากโครงการของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ มีเป้าหมายเพื่อรักษามาตรฐานของสถานีบริการน้ำมันของบางจากทั่วประเทศ สร้างความเชื่อมั่นและความโปร่งใสในการให้บริการเชื้อเพลิงแก่ผู้บริโภค
๐ อินทนิล สำหรับวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและสุขภาพ
ด้วยรูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคที่มีความต้องการหลากหลายในแต่ละช่วงเวลาของวัน นอกจากเครื่องดื่มคุณภาพสูงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากแล้ว อินทนิลยังมุ่งเน้นที่จะเติมเต็มการใช้ชีวิตที่หลากหลายมิติด้วยสินค้ากลุ่ม Non-Drink รูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการ อาทิ มื้อเช้าเครื่องดื่มอินทนิลกับเมนูอาหารเช้าที่อร่อยและคุ้นเคย เช่น โจ๊ก ไข่กะทะ หมูปิ้ง ไก่ปิ้ง ข้าวเหนียว มื้อสายเครื่องดื่มอินทนิลกับขนมไทย เช่น ข้าวเหนียวปิ้ง ข้าวต้มมัด ที่จับคู่กับเครื่องดื่มได้ตลอดวัน พร้อมด้วยเมนูเพื่อสุขภาพ เช่น น้ำผลไม้คั้นสด และผลไม้ปั่น ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี
ล่าสุดนี้ อินทนิลยังเปิดตัวเมนูซิกเนเจอร์ใหม่พร้อมกันทั่วประเทศ เมนูมัทฉะซีรีส์สุดพรีเมียม (Uji Matcha) นำเข้าจากเมือง Uji แหล่งชาชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น เพิ่มเติมจากเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ยอดนิยมอย่าง อเมริกาโน่เย็น โกโก้เย็น และชาไทยลาเต้เย็น ตอกย้ำจุดแข็งของแบรนด์อินทนิลที่มุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง และปีนี้อินทนิลตั้งเป้าขยายเป็น 1,400 สาขา พร้อมผลักดันรูปแบบการเพิ่มเติมสินค้ากลุ่ม Non-Drink ทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศ เพื่อพลิกโฉมร้านอินทนิล สู่รูปแบบใหม่ที่ตอบรับวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและสุขภาพได้อย่างลงตัว
การเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับสังคมและสิ่งแวดล้อมของอินทนิล ยังสะท้อนผ่านเมล็ดกาแฟที่เลือกใช้ นั่นคือการสนับสนุนเมล็ดกาแฟที่ปลูกใต้ร่มไม้เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ผืนป่า การเป็นแบรนด์ร้านกาแฟแรกที่เลือกใช้แก้วย่อยสลายได้ 100% ทั้งแก้วเครื่องดื่มร้อนและแก้วเครื่องดื่มเย็น ตลอดจนการเลือกใช้ฝาแบบยกดื่ม เพื่อช่วยลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง
๐ วิถีชีวิตที่แตกต่างของแต่ละ Community ที่มาของความหลากหลายของร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมันบางจาก
ปัจจุบันบางจากฯ มีสถานีบริการน้ำมันรวมกว่า 2,100 แห่ง สิ่งที่นักเดินทางจะได้จากการเข้าสถานีบริการน้ำมันบางจาก นอกจากจะได้เติมน้ำมันคุณภาพแล้ว เรายังมีร้านสะดวกซื้อและร้านค้ามินิมาร์ทหลากหลายรูปแบบและแบรนด์ไว้รองรับ “เราจะดูความเหมาะสมว่าในพื้นที่ไหน มีวิถีชีวิตของคนในชุมชนนั้นๆ เป็นรูปแบบใดเพื่อจะเลือกรูปแบบการเปิดร้านสะดวกซื้อให้สอดคล้องกันไปและตอบโจทย์ สอดรับวิถีชีวิตของผู้บริโภคในพื้นที่เหล่านั้น”
แบรนด์ร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมันบางจากปัจจุบัน มีทั้งมินิบิ๊กซี ท็อปส์เดลี่ โลตัส โกเฟรช ร้านเลมอนฟาร์มที่เน้นสินค้าเพื่อสุขภาพ และตอนนี้บางจากฯ กำลังพัฒนาร้าน “เลมอนกรีน” ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อของบางจากเอง ซึ่งข้อดีคือ บริหารจัดการเองได้ ทำให้เราสามารถจัดหาของใช้อุปโภคบริโภคต่างๆ ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเพื่อรองรับความต้องการของนักเดินทางได้อย่างเหมาะสม
๐ ธุรกิจเสริมด้าน Health & Wellbeing ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพที่เข้าถึงได้สะดวกและง่ายขึ้น
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า หนึ่งในวิสัยทัศน์ของบางจากฯ คือการพัฒนาสถานีบริการน้ำมันให้เป็น One Stop Service ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคและวิถีการใช้ชีวิตยุคใหม่ บางจากฯ จึงมีธุรกิจที่ช่วยให้การดูแลชีวิตและสุขภาพสะดวกและง่ายขึ้น โดยได้ให้บริการธุรกิจเสริมด้าน Health & Wellbeing ทั้งการดูแลสุขภาพร่างกาย โภชนาการที่ดี ควบคู่ไปกับการเป็นศูนย์กลางของชุมชน โดยในปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันบางจากมีร้านค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพแล้วกว่า 200 ร้านค้า เช่น ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ฟิตเนส ร้านจำหน่ายยาทั้งแผนปัจุบันและแผนไทย และจะเพิ่มเป็น 300 ร้านค้าในปีนี้ ล่าสุดนี้ ร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เปิด “คลินิกปันรักษ์” ในสถานีบริการน้ำมันบางจากสาขาอ่อนนุช 55 เพิ่มช่องทางให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการด้านสุขภาพพื้นฐานได้ง่ายและสะดวกขึ้น ที่พิเศษคือสามารถให้บริการรองรับทั้งผู้ป่วยสิทธิบัตรทองและผู้ที่ชำระเงินเองในการรักษาพยาบาลเบื้องต้น โดยได้รับความร่วมมือจาก สปสช. ในการบริหารสิทธิการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลและเชื่อมต่อข้อมูลการเบิกจ่าย โดยคลินิกปันรักษ์จะเปิดให้บริการรักษาพยาบาลและการป้องกันพื้นฐานได้แก่ การรักษาโรคทั่วไป ครอบคลุมการรักษาโรคเบื้องต้น เย็บแผล อุบัติเหตุฉุกเฉิน ฉีดวัคซีน ตรวจสุขภาพประจำปี ในระยะแรก บริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดคลินิกปันรักษ์ 5 สาขาภายในปี 2568
๐ สถานีบริการน้ำมันบางจาก Greenovative Destination สำหรับชีวิตทุกช่วงวัย
กลยุทธ์การตลาดหลักของบางจากฯ คือ การพัฒนาสถานีบริการน้ำมันให้เป็น One Stop Service ทั้งการให้บริการพลังงานคุณภาพสูงที่มีบริการครบครันตอบพร้อมสนองความต้องการปัจจุบันและอนาคต และยังมีสถานีชาร์จแบตเตอรี่รถไฟฟ้า (EV Quick Charging Station) ที่มีมากกว่า 420 สาขา ทุกระยะ 100 กิโลเมตร ทั่วประเทศ ธุรกิจเสริมด้าน Health & Wellbeing ที่ครอบคลุมการสร้างความสมดุลของชีวิต ทั้งการดูแลสุขภาพร่างกาย จิตใจ ควบคู่ไปกับการเป็นศูนย์กลางของชุมชนที่มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ฯลฯ เพื่อตอบโจทย์วิถีการใช้ชีวิตยุคใหม่
ทั้งหมดนี้คือการเติบโตและความเคลื่อนไหวของบางจากฯ ที่น่าจะกล่าวได้ว่า เป็นการเติบโตของธุรกิจ ที่ไม่เพียงสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจเท่านั้น แต่หากมองโดยรอบด้าน จะเห็นถึงการร่วมสร้างชุมชน สังคมที่ยั่งยืนไปด้วยพร้อมกัน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า สังคมที่ยั่งยืน ก็คือรากฐานสำคัญที่จะให้ธุรกิจนั้นๆ เติบโตได้อย่างยั่งยืนเช่นกัน