กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ เกิดจากอะไร? กินอะไรช่วยให้หายเจ็บคอเร็วขึ้น

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ

เคยไหม? แค่กลืนน้ำลายก็รู้สึกเจ็บจี๊ดแปลกๆ ในลำคอ อาการเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่าสัญญาณเตือนนี้อาจซ่อนโรคร้ายไว้มากกว่าที่คุณคิด! อย่าปล่อยให้ความเจ็บคอเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่บานปลาย มาร่วมกันสำรวจสาเหตุ อาการ และวิธีรับมือกับอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ เพื่อให้คุณดูแลสุขภาพลำคอได้อย่างถูกวิธีและทันท่วงที

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอเกิดจากอะไร?

เจ็บคอ กลืนลําบาก ไม่มีไข้

อาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่แล้วต้นตอของอาการดังกล่าว มีดังนี้

  • กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอจากเชื้อไวรัส เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ เช่น ไข้หวัดทั่วไป, ไข้หวัดใหญ่ , หรือเชื้อไวรัสโควิด-19 ไวรัสเหล่านี้มักทำให้เยื่อบุลำคออักเสบ ส่งผลให้รู้สึกระคายเคืองและเจ็บเมื่อกลืนอาหารหรือน้ำลาย โดยอาการมักมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ เช่น คอแดง, ไอ, มีน้ำมูก, คัดจมูก, เสียงแหบ และบางครั้งอาจมีไข้ต่ำร่วมด้วย
  • กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอจากแบคทีเรีย หากอาการมีเจ็บคอมาก กลืนน้ำลายไม่ได้ที่รุนแรงมากขึ้น อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อสเตรปโตคอกคัส (Streptococcus Pyogenes) ซึ่งเป็นสาเหตุของคออักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย โดยอาการที่สามารถสังเกตได้เมื่อเจ็บคอจากสาเหตุดังกล่าว ได้แก่ มีการเจ็บคอรุนแรง, กลืนน้ำลายลำบาก, มีเสมหะ, มีไข้สูง, ต่อมทอนซิลบวมแดงหรือมีหนอง และอาจพบจุดสีขาวในลำคอ 
  • กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ไม่ใช่ทุกอาการเจ็บคอจะเกิดจากเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรียเสมอไป แต่ในบางครั้งก็อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกรดไหลย้อน ภาวะที่กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาระคายเคืองลำคอ ทำให้รู้สึกแสบ เจ็บ และมีอาการเรอเปรี้ยวร่วมด้วย การใช้เสียงมากเกินไป การตะโกน ร้องเพลง หรือพูดนาน ๆ อาจทำให้สายเสียงอักเสบ และทำให้เกิดอาการเจ็บคอได้ หรือแม้กระทั่งอากาศแห้งหรือการแพ้สารระคายเคือง การอยู่ในห้องแอร์นาน ๆ สูดฝุ่นละอองและมลภาวะอาจทำให้ลำคอแห้ง ระคายเคือง และเกิดอาการเจ็บคอได้ 

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ โรคที่ควรระวัง?

แม้ว่าอาการเจ็บคอเวลากลืนน้ำลายอาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดาที่ใคร ๆ ก็ต้องเคยเป็นมาก่อน แต่รู้หรือไม่ว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงของโรคบางอย่างที่ไม่ควรมองข้าม ดังนี้ 

  • ภูมิแพ้
  • คออักเสบ
  • ต่อมทอนซิลอักเสบ
  • โควิด-19
  • ไซนัสอักเสบ
  • ปอดอักเสบ

อาหารช่วยลดอาการเจ็บคอ มีอะไรบ้าง

เมื่อเริ่มกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ควรให้ความสำคัญในเรื่องของอาหารการกิน เพราะอาหารบางชนิดยิ่งกินยิ่งเจ็บคอ ยิ่งกินคอยิ่งอักเสบ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากฟื้นฟูสภาพลำคอให้กลับมาหายดี ควรกินอาหารจากลิสต์ต่อไปนี้ 

  • น้ำผึ้ง มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยลดการอักเสบ โดยแนะนำให้นำน้ำผึ้งผสมกับน้ำอุ่นหรือชาสมุนไพร แล้วจิบจะช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองที่ลำคอให้ดีขึ้นได้
  • ขิง มีสารต้านการอักเสบและช่วยลดอาการบวมของลำคอ หากกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอให้ลองดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ สักหน่อย หรือจะลองรับประทานอาหารที่มีขิงเป็นส่วนผสมเพื่อช่วยบรรเทาอาการก็ได้เช่นกัน
  • น้ำอุ่นผสมเกลือ การกลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่นช่วยฆ่าเชื้อ ลดการอักเสบ และบรรเทาอาการบวม
  • ซุปไก่ อุดมด้วยโปรตีนและคอลลาเจน ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว และลดการระคายเคืองที่ลำคอ
  • กล้วย นอกจากจะอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโพแทสเซียมแมงกานีส และสารอาหารมากมายแล้ว ยังเนื้อนุ่ม เคี้ยวง่าย ไม่ระคายเคืองลำคอ แถมยังมีวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย
  • โยเกิร์ต อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ ช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียในร่างกาย และบรรเทาอาการอักเสบในลำคอ
  • ชาคาโมมายล์ มีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ ลดอาการระคายเคือง และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ พร้อมอาการร่วมที่ต้องเฝ้าระวัง

หากใครที่มีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ แต่เป็นมาสักระยะแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น โดยมีอาการอื่นร่วมด้วย ควรเฝ้าระวังอาการเหล่านี้เป็นพิเศษ

ADVERTISMENT
  1. เจ็บคอแล้วมีไข้ หากคุณมีอาการเจ็บคอร่วมกับไข้สูง อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น คออักเสบจากเชื้อสเตรป (Strep throat) 
  2. เจ็บคอแถวลูกกระเดือกข้างเดียว (ต่อมทอนซิล) อาการเจ็บคอข้างเดียว ซึ่งอาจจะเจ็บคอข้างซ้ายหรือเจ็บคอข้างขวา อาจเกิดจากฝีหนองที่ต่อมทอนซิล (Peritonsillar abscess) ซึ่งอาจทำให้กลืนลำบาก กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ปวดหู เสียงแหบ ต่อมทอนซิลบวม ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอโต และอาจมีกลิ่นปากร่วมด้วย
  3. เจ็บคอไอแล้วมีเลือด การมีเลือดปนออกมาพร้อมไอหรือกลืนน้ำลาย อาจเป็นสัญญาณการอักเสบรุนแรง หรือสัญญาณเตือนสุขภาพที่ไม่ควรมองข้ามอย่างโรคร้ายต่าง ๆ  เช่น มะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นต้น
  4. เจ็บคอแล้วมีผื่น ต้องสังเกตลักษณะผื่นดังกล่าวว่าเป็นผื่นแบบไหน หากเจ็บคอมีผื่นขึ้น ไม่ได้มีลักษณะเป็นผื่นแดงอาจเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ แต่ถ้าเป็นอาการเจ็บคอที่มาพร้อมผื่นแดงอาจเป็นโรคไข้อีดำอีแดง (Scarlet fever) ได้
  5. เจ็บคอหายใจไม่ออก หากเจ็บคอแล้วรู้สึกหายใจติดขัด หรือเสียงเปลี่ยน อาจเป็นภาวะกล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน หรืออาการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) นอกเหนือจากนี้ยังรวมไปถึงความเสี่ยงในโรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) ได้อีกด้วย

การดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ

เจ็บคอมาก กลืนน้ําลายไม่ได้ ทําไงดี? อาการนี้สามารถบรรเทาได้ด้วยวิธีดูแลตัวเองให้ลำคอชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ดังนี้

  • จิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ ช่วยให้ลำคอชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง และช่วยบรรเทาอาการเจ็บ
  • กลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่น ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ และช่วยให้ลำคอโล่งขึ้น
  • ดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว ช่วยปลอบประโลมลำคอ ลดอาการไอ และมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดและของทอด การรับประทานอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเผ็ด หรือเปรี้ยว รวมไปถึงของทอดของมันอาจกระตุ้นให้ลำคออักเสบมากขึ้น
  • พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • ใช้เครื่องทำความชื้น โดยจะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ลดความแห้งภายในลำคอ ช่วยให้อาการเจ็บคอนั้นดีขึ้น
  • งดใช้เสียงมากเกินไป เพื่อลดการระคายเคืองของเส้นเสียงและกล้ามเนื้อลำคอ
  • กินอาหารอ่อน ๆ เช่น ซุปไก่ โจ๊ก หรือกล้วย ที่กลืนง่ายและไม่ระคายเคืองลำคอ
  • เลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ลำคอแห้งและอักเสบมากขึ้น
  • หากอาการไม่ดีขึ้นใน 3-5 วัน ควรพบแพทย์ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อรุนแรง เช่น คออักเสบหรือทอนซิลอักเสบ

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ สัญญาณเตือนโรคที่ไม่ควรมองข้าม! H2

อาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคออาจเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การระคายเคืองเล็กน้อยไปจนถึงโรคร้ายแรง หากอาการเป็นต่อเนื่อง รุนแรงขึ้น หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยอาการและรับการรักษาที่เหมาะสม

ADVERTISMENT