ดอลลาร์อ่อนค่า ตลอดจับตาผลการเจรจาการค้าช่วงปลายสัปดาห์

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/2) ที่ระดับ 31.12/14 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (18/2) ที่ระดับ 31.24/26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่าวันครบกำหนดการเจรจาการค้าอาจเลื่อนออกไปได้ ขณะเดียวกันนักลงทุนส่วนใหญ่จับตาการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีนที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ โดยการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน คือพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่จะถึงนี้ (21-22/2) ขณะที่ทั้งสองฝ่ายก็คาดหวังที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าให้ได้ก่อนสิ้นเดือนนี้ หลังจากที่การประชุมระดับรัฐมนตรีช่วยได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ (19/2)

ทั้งนี้สหรัฐกำลังเรียกร้องให้จีนรักษามูลค่าของเงินหยวนให้มีเสถียรภาพ และไม่แทรกแซงเพื่อประโยชน์ทางการค้า ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็ได้รับแรงกดดันจากถ้อยคำแถลงของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ที่กล่าวว่า เขาพอใจกับระดับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในขณะนี้ และไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกเสียจากว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือเงินเฟ้อจะเปลี่ยนไปสู่ระดับที่สูงเกินคาด สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ (21/2) สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 62 ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน แต่เมื่อเทียบรายปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลง 9 จุดในเดือน ก.พ. โดยระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.08-31.16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.08/09 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/2) ที่ระดับ 1,1350/52 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับ ปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (18/2) ที่ระดับ 1.1315/17 ดอลลา์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ตลาดเริ่มคลายความกังวลประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลให้ความต้องการดอลลาร์สหรัฐในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง ขณะเดียวกับค่าเงินยูโรและค่าเงินปอนด์ก็ได้รับแรงหนุนหลังจากนักลงทุนซึมซับรายงานข่าวที่ว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมเข้าพบนายฌอง-คล็อต ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ในวันนี้ โดยนางเมย์จะเสนอร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่เพื่อหาทางออกให้กับนโยบาย backstop ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1331-1.1358 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1345/47 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/2) ที่ระดับ 110.84/86 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (18/2) ที่ 110.60/62 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงิน
เยนปรับตัวอ่อนค่าลงหลังกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยยอดขาดดดุลการค้าเดือน ม.ค. อยู่ที่ 1.42 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี เนื่องจากการส่งออกไปยังประเทศจีนร่วงลงอย่างรุนแรง โดยตัวเลขยอดส่งออกเดือน ม.ค.ร่วงลง 8.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 5.57 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2560 ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 0.6% สู่ระดับ 6.99 ล้านล้านเยนในเดือน ม.ค. อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกก็ยังคงสนับสนุนให้นักลงทุนถือครองค่าเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 110.54-110.94 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 110.85/87 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ธนาครกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุม (20/2) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ (21/2) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ธ.ค. (21/2) ดัชนีการผลิตเดือน ก.พ.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย (21/2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือน ก.พ. จากมาร์กิต (21/2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือน ก.พ. จากมาร์กิต (21/2)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.9/-1.6 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -1.7/-1.2 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ