“เล่า ฤา สื่อ IV” ภาพยนตร์แฟนตาซีที่สอดแทรกปรัชญาชวนให้คนทำดี

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทีมงานภาพยนตร์ “เล่า ฤา สื่อ IV” (อ่านว่า เล่าลือสื่อสี่) เดินทางมาที่กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ เพื่อโปรโมตภาพยนตร์ที่กำลังฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ในช่วงนี้

“เล่า ฤา สื่อ IV” เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัย ดรามา แฟนตาซี ที่สอดแทรกปรัชญา โดยได้ มิ้งค์-เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร ที่เคยฝากผลงานภาพยนตร์ “ดารัมซาล่า” ทั้งสองภาค และ “777 นะชาลีตี” มากำกับและเขียนบทภาพยนตร์ มีนักแสดงนำอย่าง กากัน มาลิค (Gagan Malik) นักแสดงบอลลีวูดชาวอินเดียจากละครชุดรามเกียรติ์ และภาพยนตร์ศรีสิทธัตถะ โคตามะ, แจ็ค-จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม หรือที่รู้จักกันในนาม Black Jack, ฟิฟิม-สิริอมร อ่อนคูณ จากไทบ้าน เดอะซีรีส์, พลอย ศรนรินทร์ จากภาพยนตร์อาปัติ และนักแสดงสมทบอีกคับคั่ง

เนื้อเรื่องของ “เล่า ฤา สื่อ IV” เป็นเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว “คาน” (ไตรรงค์ ชัยนรานนท์) จิตต่างดาวในร่างมนุษย์ทนไม่ไหวในความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ที่มัวเมาในกิเลส หลงในลาภยศเงินทอง ต่อสู้ทำร้ายกันเอง ทำลายธรรมชาติ ส่งผลให้จักรวาลเสียหาย จึงเปิดประชุมสภาจักรวาลให้มีมติทำลายล้างโลก กับ “วิน” (จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม) จิตต่างดาวในร่างมนุษย์ผู้เชื่อว่ายังมีคนอีกมากมายที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น จึงมาเตือนอาจารย์หมอ (นึกคิด บุญทอง) ให้ชี้ทางผู้คน และรวบรวมผู้มีความสามารถพิเศษอีก 4 คน มาร่วมกันหยุดยั้งไม่ให้คานทำลายโลก

ผู้อำนวยการสร้าง พอ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา จากมูลนิธิจิตเป็นผู้ให้ใจเป็นนิพพาน เล่าความเป็นมาของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “เล่า ฤา สื่อ IV” เป็นการรวบรวมข้อความจากเบื้องบนที่เขาได้เรียนรู้มากว่า 30 ปีว่า ทุกภัยพิบัติ ทุกโรคระบาด ทุกเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้เป็นสัญญาณเตือนให้มนุษย์เปลี่ยนแปลงตนเอง และเขาเชื่อว่าภาพยนตร์สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนได้ จึงได้ถ่ายทอดแนวคิดนี้ให้ทางผู้เขียนบทนำไปต่อยอดทำเป็นบทภาพยนตร์

ส่วนมิ้งค์-เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร ผู้กำกับและผู้เขียนบท กล่าวถึงคอนเซ็ปต์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า เธอนำแนวคิดที่ได้รับมาสร้างเป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่ไม่เชื่อใจมนุษย์และหวังจะทำลายโลกใบนี้ เพราะโลกตกต่ำจนเกินเยียวยา กับฝั่งมนุษย์ต่างดาวที่เชื่อใจมนุษย์ ผู้รวบรวมคนที่มีพลังวิเศษทั้ง 4 เพื่อออกไปเผยแพร่ความดี และร่วมกันหยุดยั้งภัยพิบัติ ซึ่งคอนเซ็ปต์ที่ว่านี้ หากจะทำเป็นหนังไซ-ไฟ อิงปรัชญาทางศาสนาอย่างที่เคยทำ หนังก็อาจจะน่าเบื่อ จึงเชิญนักแสดงตลกมาร่วมกันสร้างสีสันในภาพยนตร์ด้วย รวมถึงเชิญทีมงานผู้เชี่ยวชาญมาช่วยในส่วนของฉากภัยพิบัติที่ต้องใช้ CG เพื่อความสมจริงด้วย