เอไอเอส สู้ภัยโควิด-19 ติดอาวุธดิจิทัล อสม. นักรบเสื้อเทา

เพิ่มฟีเจอร์ คัดกรองและติดตามโควิด-19 บนแอปฯ อสม.ออนไลน์ รับคลายล็อคเฟส 3
พร้อมเยี่ยมชมการทำงานเชิงรุก อสม. บางคล้า

จากมาตรการของภาครัฐ ภาคเอกชนและความร่วมมือของประชาชน รวมไปถึงการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และ อสม. ทั่วประเทศที่ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ในการป้องกัน รักษา และฟื้นฟู การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด -19 ทำให้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศไทยมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่ามาตรการคลายล็อกดาวน์ที่ภาครัฐกำลังผ่อนปรนให้หลายๆ ธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง อาจจะเป็นตัวจุดชนวนการแพร่ระบาดของเชื้อในระลอกที่ 2 ได้ จึงเป็นโจทย์สำคัญที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันยับยั้งไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก เอไอเอส ในฐานะผู้นำบริการดิจิทัลที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตและพร้อมอยู่เคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์ ขอนำพาประเทศฝ่าวิกฤตสู้ภัยโควิด-19 ต่อเนื่อง ด้วยการนำเทคโนโลยีและดิจิทัล โซลูชันเข้าเสริมทัพผนึกกระทรวงสาธารณสุข ติดอาวุธ อสม.นักรบเสื้อเทา เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 แบบครบวงจร ตั้งแต่ระดับรากฐานไปจนถึงการรายงานผลภาพรวมในระดับประเทศ โดยการพัฒนาใหม่ฟีเจอร์บนแอปพลิเคชัน อสม. ออนไลน์ ที่ช่วย อสม. ให้สามารถเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง คัดกรอง และติดตามกลุ่มเสี่ยงได้แบบเรียลไทม์ โดยเปิดตัวและเริ่มใช้งานเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “แม้ว่าสถานการณ์ภาพรวมประเทศไทยในวันนี้จะดีขึ้นมาก แต่ก็ยังเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่เราต้องทำงานอย่างหนัก เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ เอไอเอส ได้นำความรู้ความเชี่ยวชาญที่มีอยู่มาสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพผ่าน แอปฯ อสม.ออนไลน์ และยังได้พัฒนาฟีเจอร์คัดกรองและติดตามโควิด-19 เพื่อให้ อสม.ใช้เป็นเครื่องมือในการเฝ้าระวังความเสี่ยง คัดกรอง และติดตามผลกลุ่มเสี่ยงในชุมชน ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า แอปฯ อสม.ออนไลน์ พร้อมฟีเจอร์ใหม่เฝ้าระวังไวรัส โควิด-19 จะเป็นเสมือนการติดอาวุธดิจิทัลให้กับเจ้าหน้าที่นักรบเสื้อเทาของเรา สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการนำพาประเทศก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดี”


ล่าสุด เอไอเอส นำโดย นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายระพี ผ่องบุพกิจ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมฐานปฏิบัติการเพื่อสุขภาพคนไทย ส่งมอบกำลังใจและเทคโนโลยีดิจิทัลให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) รพ.สต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา และเยี่ยมชมการทำงานเชิงรุก ในการเป็นด่านหน้าเฝ้าระวัง และติดตามกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 อย่างใกล้ชิด

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า “ครั้งนี้เราได้นำความรู้ ความเชี่ยวชาญ พร้อมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและขีดความสามารถของเครือข่าย 5G ร่วมเสริมการทำงานของภาคสาธารณสุขไทย ภายใต้โครงการ “เอไอเอส 5G สู้ภัยโควิด-19” โดยมุ่งเน้นไปที่สาธารณสุขระดับมูลฐานทั่วประเทศ ผ่านการทำงานอย่างใกล้ชิดกับ อสม. เพื่อร่วมแบ่งเบาและเสริมขีดความสามารถของ อสม. ยุคดิจิทัลในสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุด เอไอเอส ได้พัฒนาฟีเจอร์คัดกรองและติดตามโควิด-19 บน แอปฯ อสม.ออนไลน์ เพื่อให้ อสม.ใช้เป็นเครื่องมือในการเฝ้าระวังความเสี่ยง คัดกรอง และติดตามผลกลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน ด้วยรูปแบบรายงานดิจิทัลที่ อสม.สามารถบันทึกได้ง่าย สะดวก รวดเร็วในการติดตามผลและเรียลไทม์ ทางมือถือ ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต. สาธารณสุขอำเภอ และสาธารณสุขจังหวัด สามารถติดตามข้อมูลรายละเอียดการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นๆ สมาชิกในบ้านที่อาจมีความเสี่ยง รวมถึงการติดตามกลุ่มเฝ้าระวัง 14 วัน ในแต่ละครัวเรือน ได้อย่างเป็นระบบและทันต่อเหตุการณ์ นอกจากนี้เอไอเอส ยังมอบ “ซิมฮีโร่” เพื่อสมาชิก อสม. นักรบเสื้อเทา ปราการด่านหน้าต้านภัยโควิด-19 ให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้แบบไม่มีสะดุด พร้อมส่งความห่วงใยมอบฟรีประกันภัยโควิด-19 เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจป้องกันการแพร่ระบาดรอบ 2 ให้นักรบเสื้อเทา เพิ่มความอุ่นใจในการปฏิบัติงานอีกด้วย”

ด้าน นายนฤพนธ์ จินดาวัลย์ ผอ.รพ.สต.เสม็ดใต้ กล่าวว่า “ เดิมทีการทำงานของ อสม. จะใช้กระดาษใน
การสำรวจข้อมูล การส่งรายแต่ละครั้ง อสม. จะต้องเดินทางจากบ้านมาที่ รพ.สต. แต่ปัจจุบันเมื่อได้มีการนำ แอปฯ อสม. ออนไลน์ มาใช้ ทำให้ประหยัดเงินและเวลาในการทำงาน ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องใช้บุคลากรในการรวบรวมรายงาน โดยรายงานจะถูกส่งตรงมาที่ รพ.สต.และมีการรวบรวม ประมวลผลผ่านแอปฯ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.จะรับรู้ปัญหาได้ทันทีว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ซึ่งจำนวน อสม.เสม็ดใต้ มีทั้งหมด 96 คน ทุกคนใช้ แอปฯ อสม. ออนไลน์ หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ อสม. หนึ่งคนจะต้องรับผิดชอบดูแลชาวบ้าน 15-20 หลังคาเรือนและในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายให้ อสม. คัดกรองโดยการเคาะประตูเยี่ยมบ้านทุกหลังคาเรือน โดยใช้ แอปฯ อสม. ออนไลน์ ในการลงบันทึกรายงาน ส่งมาที่ รพ.สต. ซึ่งช่วยในการทำงานได้สะดวก รวดเร็ว และสามารถส่งรายงานได้อย่างแม่นยำ”

ด้าน นางสาวฉวีวรรณ พุ่มพวง อสม. เสม็ดใต้ กล่าวว่า “แอปฯ อสม. ออนไลน์ สามารถช่วยการทำงานได้ง่าย สะดวก และปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะการรายงานติดตามกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องทุกวัน นอกจากนี้ใน แอปฯ ยังมีข้อมูล คำแนะนำในการปฏิบัติตัวและจะประเมินผลให้ว่า คนนั้นอยู่ในกลุมเสี่ยงแค่ไหน ที่สำคัญเราสามารถรายงานถึงคุณหมอได้ทันที ท่านจะทราบว่า อสม.ปฏิบัติงานอยู่จุดไหนเพราะในแอปฯ จะมีพิกัดแต่ละครัวเรือนอยู่ด้วย ทำให้ทำงานได้รวดเร็ว ว่องไว ลดระยะเวลาในการทำงาน การส่งข้อมูลถึงคุณหมอทำให้ช่วยเหลือประชาชนได้ทันเหตุการณ์”

นางกุหลาบ นองเจริญ ชาวบ้านเสม็ดใต้ หนึ่งในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัว 14 วันและได้รับการดูแลจาก อสม. เสม็ดใต้ กล่าวว่า “เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เดินทางไปเยี่ยมน้องสาวและไปตลาดนัดที่จังหวัดชลบุรี จากนั้นกลับบ้าน 2-3 วัน รู้สึกมีอาการไอ เจ็บคอ จึงไปหาคุณหมอที่อนามัย และได้รับคำแนะนำให้กักตัว 14 วัน ซึ่งในช่วงนี้จะมี อสม.เข้ามาดูแล สอบถามอาการ วัดไข้ และให้คำแนะนำต่างๆในการดูแลตัวเอง และยังมาพูดคุยสอบถามอาการทุกวัน ทำให้รู้สึกสบายใจ ไม่เครียดและ มีกำลังใจมากขึ้นต้องขอขอบคุณ อสม. ทุกคน”

“อสม. เสม็ดใต้ นับได้ว่าเป็นกำลังสำคัญ ที่ทุ่มเททั้งแรงกาย และแรงใจ ออกปฏิบัติงาน เชิงรุกเพื่อทำให้สุขภาพของคนในชุมชนเสม็ดใต้ที่มีอยู่กว่า 1 พันครัวเรือน มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปลอดภัยจาก โควิด-19 ด้วยความตั้งใจในการปฏิบัติงานอย่างแรงกล้า ประกอบกับเทคโนโลยีดิจิทัล แอปฯ อสม. ออนไลน์ เชื่อว่าจะทำให้ อสม. และ รพ.สต. เสม็ดใต้ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างใกล้ชิดและรวดเร็วทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในรอบวัน” นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าว