‘ซีพีเอฟ’ รับสมัคร 8,000 คน ทั้ง สายงานปศุสัตว์-ไอที-วิศวะ-วิทยาศาสตร์

ภาพจาก เฟซบุ๊ก CPF

กระทรวงแรงงานร่วมกับ CPF รวมใจสู้วิกฤต MOU 3 โครงการ ตั้งเป้ารับพนักงานสูงถึง 8,000 อัตรา ทั้ง สายงานปศุสัตว์-ไอที-วิศวะ-วิทยาศาสตร์ พร้อมสร้างผู้ประกอบการร้านอาหารห้าดาว มอบคูปองซีพีเฟรชมาร์ทช่วยค่าครองชีพผู้ประกันตน

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 3 โครงการ ระหว่างนายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน และนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ

สำหรับ 3 โครงการดังกล่าว ประกอบด้วยโครงการรับสมัครนักศึกษาจบใหม่, โครงการสนับสนุนแฟรนไชส์ธุรกิจร้านอาหารและ โครงการคูปองแทนใจให้ผู้ประกันตนเพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแก้ปัญหาคนว่างงานจากผลกระทบโควิด-19

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงฯได้ดำเนินการตามนโยบาย รวมไทยสร้างชาติของรัฐบาลโดยมีเป้าหมายที่จะผนึกกำลังจากทุกภาคเพื่อกำหนดอนาคตประเทศไทย ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบถึงการจ้างงานของหลายบริษัท เกิดการว่างงานจำนวนมาก ตามมาด้วยปัญหาค่าครองชีพ และแนวโน้มการไม่มีงานทำของบัณฑิตจบใหม่ โครงการนี้จึงมีความสำคัญยิ่ง

ทางซีพีเอฟเป็นเอกชนที่มีความพร้อมและมีบทบาทในการช่วยเหลือประเทศชาติมาโดยตลอด ความร่วมมือในวันนี้ เชื่อว่าจะส่งผลให้แรงงานจบใหม่ของไทยมีงานทำ มีความมั่นคง ทั้งยังช่วยสร้างผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็ก-กลาง ซึ่งเป็นพื้นฐานด้านเศรษฐกิจอันเข้มแข็งของชาติ

ขณะเดียวกัน ภาระค่าครองชีพที่กระทบถึงแรงงานเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ควรได้รับการแบ่งเบา การมอบคูปองส่วนลดพิเศษในการซื้ออาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสี่ของการดำรงชีพ ให้แก่ผู้ประกันตนทุกคน จึงน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งต้องขอขอบคุณซีพีเอฟที่มอบส่วนลดพิเศษนี้ให้แก่ผู้ประกันตน

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ ระบุว่าบริษัทพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐในการช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญา 3 ประโยชน์ของบริษัท ที่ต้องการให้ บริษัทมีส่วนร่วมแก้ปัญหาการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่ สร้างโอกาส สร้างความมั่นคงทางอาชีพ และสร้างประโยชน์ต่อประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วงวิกฤติโควิด-19

ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร จึงเปิดรับตำแหน่งงานได้อย่างหลากหลายตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ครอบคลุมหลายสาขาอาชีพ อาทิ สัตวแพทย์ สัตวบาล วิศวกร นักวิจัยพัฒนาอาหาร นักวิทยาศาสตร์ รวมถึง IT ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนางานด้าน Smart Farming , Smart Factory ตลอดจน งานด้านโลจิสติกส์ และงานบริการในร้านซีพีเฟรชมาร์ทและร้านอาหาร

“การรับนักศึกษาจบใหม่นี้ ตั้งเป้าเปิดรับจำนวนสูงถึง 8,000 อัตรา แบ่งเป็นงานในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 4,000 อัตรา และต่างจังหวัดในทุกภูมิภาคทั่วประเทศอีก 4,000 อัตรา”

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.cpfwolrdwide.com หรือ พบบูธ CPF ได้ในงาน JOB EXPO THAILAND 2020 จัดโดยกระทรวงแรงงาน วันที่ 26 -28 กันยายน 2563 ณ ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการสร้างผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็ก-กลาง ผ่าน โครงการสนับสนุนแฟรนไชส์ธุรกิจร้านอาหาร” เช่น ธุรกิจห้าดาวและสตาร์คอฟฟี่ โดยอบรมเสริมความรู้ยกระดับการเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร สร้างความเข้มแข็งให้ SMEs ไทยกว่า 4,500 ราย

ซึ่งทั้งสองธุรกิจนี้ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียงหลักหมื่นและพื้นที่ขนาดเล็กกะทัดรัดในทุกๆพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ก็สามารถประกอบอาชีพธุรกิจห้าดาวและสตาร์คอฟฟี่ได้ทันที โดยบริษัทมีหลักสูตรอบรมและเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา เพื่อช่วยยกระดับทักษะฝีมือให้ทุกท่านเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร-ร้านกาแฟได้อย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพที่เป็นพื้นฐานการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี

ผู้สนใจเข้าเป็นแฟรนไชส์ธุรกิจห้าดาว สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ http://fivestar.in.th และหากสนใจธุรกิจสตาร์คอฟฟี่ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://Starcoffee.in.th

สำหรับโครงการคูปองแทนใจให้ผู้ประกันตนจะเป็นการมอบคูปองส่วนลดสินค้าจากร้านซีพีเฟรชมาร์ทให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของแรงงานในระบบ โดยมอบเป็นส่วนลดมูลค่ากว่า 2,000 บาทต่อคน

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถเข้าไปดูรายละเอียดส่วนลดได้ที่ Line : @CPFreshmart ตั้งแต่ 25 กันยายน-30 พฤศจิกายน 2563 นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังมอบซิมทรูโซเชี่ยลพลัส มูลค่า 49 บาท ให้แก่ผู้ประกันตนด้วย ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 1788

“การช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศเป็นหน้าที่ของทุกบริษัทที่มีขีดความสามารถ และโครงการที่กระทรวงแรงงานดำเนินการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก นับเป็นอีกโครงการใหญ่ของซีพีเอฟที่ได้ทำร่วมกับภาครัฐ และตอกย้ำการเป็น Good Corporate Citizen ของบริษัท ท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีการระบาดในประเทศต่างๆอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าความร่วมมือของทุกภาคส่วนจะทำให้ประเทศไทยก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปได้” นายประสิทธิ์กล่าว