“รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นฟันเฟืองในระบบอุตสาหกรรม เราต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้”

เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่สามารถที่จะเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมได้ ทันทีที่เรียนจบ “อภิวรรษ สุขพ่วง” ตัดสินใจที่จะกลับบ้านเพื่อตั้งสติและค้นหาตัวเองให้เจอว่า ชอบอะไร เพราะเมื่อรู้จักตัวเองก็จะทำให้สามารถไปหาความรู้เพื่อกลับมาพัฒนาตัวเองได้

เมื่อพบคำตอบ “ไร่สุขพ่วง” บนผืนดินที่เคยรกร้างใน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จึงถูกพลิกฟื้นด้วยเด็กหนุ่มที่ทั้งชีวิตไม่เคยจับจอบจับเสียม แต่เพราะการหาความรู้ทั้งจากบรรพบุรุษ และเรียนรู้จาก “ศาสตร์พระราชา” ภายในเวลา 2 ปี “อภิวรรษ” สามารถปลูกข้าวให้ครอบครัวได้กิน ปลูกผักและเลี้ยงไก่ไว้กินไข่ช่วยแม่ประหยัดค่ากับข้าวได้เกือบ 100%


เมื่อชีวิตสามารถพึ่งพาตัวเองได้ “อภิวรรษ สุขพ่วง” เริ่มคิดถึงการแบ่งปัน เริ่มต้นจากการให้ความรู้ จนนำไปสู่การรวมกลุ่มเพื่อสร้างรายได้ให้คนในชุมชน

จากบัณฑิตจบใหม่ที่ตัดสินใจวางใบปริญญาเพื่อกลับมาค้นหาความหมายของชีวิต ผ่านมา 10 ปี ถึงวันนี้ “อภิวรรษ สุขพ่วง” พูดได้เต็มปากว่า เขาค้นพบความสุขที่แท้จริงแล้วนั่นก็คือ เขาสามารถพึ่งพาตัวเองได้ แต่ที่เป็นความสุขยิ่งกว่า คือ ความสุขที่ได้จากการแบ่งปัน