เจาะลึก “DHB” ธุรกิจที่เป็นมากกว่าร้านขายยา ตอบโจทย์คนยุคใหม่ ที่ “ไม่ว่าใคร” ก็เป็นเจ้าของได้

หากพูดถึง “Drugstore” แล้วนั้น คือธุรกิจขั้นกว่าของการบริการด้าน 1 ในปัจจัย 4 ที่พัฒนาจากร้านขายยาเดิม ในบ้านเราธุรกิจประเภทนี้สามารถพบเห็นได้บ่อยๆ ตามห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง เป็นธุรกิจที่เริ่มได้รับความนิยมในบ้านเราช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะการใช้ชีวิตของคนที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน ผู้คนโหยหาความสะดวกสบายมากขึ้น ดังนั้นสิ่งไหนที่มอบความสะดวกสบาย ช่วยทุ่นแรงได้ และช่วยให้ชีวิตง่ายดายขึ้น จึงมักเป็นสิ่งแรกๆ ที่ถูกเลือกใช้บริการ

ในปัจจุบัน เราต่างเห็นแฟรนไชส์ของร้านเหล่านั้นอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ส่วนใหญ่จะอยู่ตามห้างสรรพสินค้าแทบจะทุกแห่งเลยก็ว่าได้ แต่ร้านประเภท Drugstore ก็อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกคน ทุกประเภท ด้วยข้อจำกัดด้านประเภทของสินค้าที่มีแค่ด้านสุขภาพ และส่วนของบิวตี้ เท่านั้น “DHB” จึงเป็นประสบการณ์การลงทุนด้านธุรกิจที่เรียกว่า “Health-Tech” ครั้งแรกในโลกเลยก็ว่าได้ ที่นอกจากให้บริการสินค้าด้านสุขภาพ กลุ่มผลิตภัณฑ์บิ้วตี้ แล้ว ยังมีสินค้าGadget ด้านสุขภาพที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย

ความแตกต่างอย่างน่าสนใจ

DHB มีความแตกต่างและน่าสนใจกว่าธุรกิจประเภท Drugstore อื่นๆ เพราะมีจุดยืนที่สำคัญคือ “พร้อมซัพพอร์ตให้ทุกคนประสบความสำเร็จในธุรกิจ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องพื่อให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนยุคใหม่” ด้วยแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ไม่ใช่ร้านแฟรนไชส์ แต่คล้ายรูปแบบพาร์ทเนอร์ที่ใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของได้และให้ความคุ้มค่าสูงสุด อาทิ

• ผู้ลงทุนจะได้เป็นเจ้าของร้านเอง

• บริหารจัดการทุกอย่างในร้านได้อย่างง่ายดาย ภายใต้แนวทางการบริหารจากบริษัทหลัก

• ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกว่า IoT มาช่วยในการจัดการและการบริหารร้านแฟรนไชส์อย่างเต็มรูปแบบ

• ด้วยระบบธุรกิจที่ขึ้นตรงกับชื่อที่อยู่ภายใต้บริษัทหลักบริษัทเดียว ไม่มีบริษัทย่อย จึงช่วยให้การจัดการเรื่องของภาษีประจำปี เจ้าของแฟรนไชส์ไม่ต้องยุ่งยากไปยื่นภาษีด้วยตัวเอง

• ไม่มีเงื่อนไขผูกมัดในการลงทุน

• สร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

• เป็นร้านที่บริการสินค้าด้าน Health-Tech ในรูปแบบ Modern Trade ที่มุ่งเน้นในการนำเสนอสินค้าที่มีความหลากหลาย มีระบบการจัดการ โดยอาศัยความรู้ความชำนาญและเทคโนโลยีมาช่วยในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า

รูปแบบการค้าแบบ Modern Trade ดีอย่างไร

เป็นรูปแบบการค้าปลีกสมัยใหม่ ที่มีกระบวนการจัดจำหน่าย ที่มุ่งเน้นในการนำเสนอสินค้าที่มีความหลากหลาย มีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพสูง สะดวกสบาย และมีต้นทุนต่ำ ลักษณะเด่นของร้านที่มีรูปการค้าแบบ Modern Trade คือ

• มีความหลากหลายของสินค้า ทั้งสินค้าเพื่อการบริโภค และอุปโภค

• มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกว่า IoT มาใช้ดำเนินการความรวดเร็วในการให้บริการ

• มีการบริหารจัดการ โดยความรู้ ความชำนาญ อย่างมืออาชีพ

• มีจัดเรียงสินค้าหลากหลาชนิดอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกซื้อได้เองตามความพอใจหรือเรียกว่า Self-service

ทั้งหมดนี้คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถคืนทุนได้อย่างรวดเร็ว และเตรียมรับผลกำไรแบบยาวๆ ได้ต่อเนื่อง

การบริการที่ครบ จบในที่เดียว

โดยปกติแล้วไม่มีใครที่เดินเข้าร้านขายยาทุกวัน DHB อยากเป็นมากว่าร้านขายยา อยากให้เป็นเหมือนร้านสะดวกซื้อที่ผู้คนสามารถเข้ามาใช้บริการได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ที่มีสินค้าทุกประเภทที่ลูกค้าจินตนาการถึง ร้าน Drugstore โดยทั่วไปจะเน้นขายสินค้าที่เป็น Mass Product หรือสินค้ายอดนิยมที่คนใช้ทั่วไป แต่สินค้าที่เป็น Value Product อาทิ คอนแท็คเลนส์ มีให้ลูกค้าเลือกค่อนข้างน้อยพอสมควร สำหรับร้านที่เป็น Drugstore ถึงมีก็อาจจะไม่ตรงกับความต้องการสักเท่าไหร่ รวมถึงสินค้าที่เป็น Gadget ต่างๆ ที่เป็นได้ทั้งแฟชั่น ด้านสุขภาพ ความทันสมัยไม่เหมือนใคร ก็มีให้เลือกสรรเช่นกัน

โมเดลธุรกิจหลายขนาด ตอบสนองทุกระดับ
โมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ของ DHB นั้น แบ่งออกเป็น 3 ระดับ

• ระดับ Shop มีพื้นที่ขนาด 32 ตร.ม. ขึ้นไป เน้นขนาดที่คอมแพ็คและเหมาะสมที่สุดในระดับอำเภอ จะเน้นในลักษณะของการค้าปลีกและการบริการลูกค้าทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ เหมาะกับแหล่งชุมชน

• ระดับ Super Store พื้นที่ตั้งแต่ 120 ตร.ม. ขึ้นไป มีการขายสินค้าทั้งแบบราคาปลีกและราคาส่ง ลูกค้าส่วนใหญ่คือ ร้านขายยา หรือคลินิกเสริมความงาม และคลินิกทันตกรรม ที่มีการจดทะเบียนเชิงพาณิชย์ เหมาะกับระดับจังหวัดหรือในตัวเมืองเป็นหลัก

• ระดับ Department Store เป็นคลังยาสำหรับการค้าส่งโดยเฉพาะ ที่บุคคลทั่วไปไม่สามารถเข้ามาใช้บริการในส่วนนี้ได้ เน้นวิธีการจำหน่ายทางออนไลน์ และ e-commerce มีกลุ่มลุกค้าเป็นร้านขายยาขนาดใหญ่ คลินิก หรือระดับโรงพยาบาล รวมถึงตลาดของประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว, กัมพูชา

ธุรกิจที่ดีต่อใจผู้ใช้บริการ

นอกจากจะเป็นรูปแบบธุรกิจที่ดีต่อผู้ลงทุนแล้ว DHB ยังเป็นร้านสะดวกซื้อด้าน Health-Tech ที่ให้ความสำคัญกับผู้ที่มาใช้บริการไม่ต่างกัน โดยมีบริการที่ดีต่อใจหลายด้าน

• บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพที่มากกว่าการจ่ายยา เภสัชกรของ DHB จะให้คำแนะนำด้านสุขภาพในเชิงลึก เพื่อการดูแลสุขภาพของผู้มาใช้บริการแบบองค์รวม

• มีทั้งผลิตภัณฑ์ด้านยา, เวชภัณฑ์, ผลิตภัณฑ์ด้านความงาม ทั้งสกินแคร์ เครื่องสำอาง รวมถึงผลิตภัณฑ์ Health-Tech ตามที่กล่าวไปแล้ว เรียกได้ว่า มาที่เดียว ได้ของครบทุกอย่างที่ต้องการ

• มีเก้าอี้และมุมพักผ่อนเล็กๆ ให้บริการลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้าน

ธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่ตกเทรนด์

ถึงแม้เราจะเห็นธุรกิจประเภทนี้เกิดขึ้นมากมาย จนอาจทำให้บางคนกังวลใจที่จะลงทุน แต่เชื่อมั่นได้เลยว่า ด้วยรูปแบบการทำธุรกิจของ DHB จะมั่นคง ไม่ตกเทรนด์ เพราะเรามีผู้บริหารด้านการตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคระดับมืออาชีพ รศ.ดร ภคพล อนุฤทธิ์ ที่กล่าวถึงธุรกิจประเภทนี้ว่า

“ร้านแฟรนไชส์ของ DHB ที่เป็นมากกว่าร้านขายยาทั่วไป เป็นธุรกิจที่มีการบริหารจัดการง่าย รายได้ดี และไม่ตก เทรนด์ เพราะไม่ใช่ธุรกิจเชิงแฟชั่นหรือไลฟ์สไตล์ แต่คือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่เรียกว่า ปัจจัย 4 ที่มนุษย์ต้องการ และจะทำให้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อลงทุนแล้ว มั่นใจได้เลยว่าไม่ตกเทรนด์แน่นอน และมีแนวโน้มที่เติบโตมากขึ้นอีกด้วย”

ด้วยความเป็นโมเดลธุรกิจร้านที่เป็นมากกว่าร้านขายยาที่แตกต่างกว่าแบรนด์อื่นในหลายมิตินี้ ทำให้มีความน่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนธุรกิจประเภทนี้ และในปัจจุบันมีแผนที่จะเปิดร้านแฟรนไชส์ DHB ให้ครอบคลุมทั่วประทศกว่า 5,000 สาขาในอนาคต